Site icon Motherhood.co.th Blog

คลอดธรรมชาติ แม่ท้องต้องรู้ให้พร้อมก่อนคลอด

การคลอดธรรมชาติ

หากเตรียมตัวพร้อม ดูแลสุขภาพอย่างดี การคลอดธรรมชาติก็ไม่ใช่เรื่องต้องกังวล

คลอดธรรมชาติ แม่ท้องต้องรู้ให้พร้อมก่อนคลอด

มีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ใฝ่ฝันว่า เมื่อได้เป็นแม่คนก็อยากสัมผัสความรู้สึกของการเป็นแม่ที่สมบูรณ์จากการ “คลอดธรรมชาติ” ในขณะที่แม่ท้องอีกจำนวนไม่น้อยยังรู้สึกหวาดหวั่นกับการคลอดแบบธรรมชาติ ทั้งเรื่องของการเตรียมตัวก่อนไปคลอด และความเจ็บปวดที่จะต้องเผชิญ วันนี้ Motherhood จะมาแนะนำถึงข้อดีของการคลอดเอง รวมทั้งความแตกต่างเมื่อเปรียบเทียบกับการผ่าคลอด

คลอดธรรมชาติ คือ การคลอดลูกเองโดยไม่ใช้การผ่าตัด ซึ่งอาจจะมีการใช้ยาช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดขณะคลอดหรือใช้เครื่องมือทางการแพทย์เพื่อให้ความช่วยเหลือแก่คุณแม่ในการคลอดด้วย เช่น การเย็บแผลตัดขยายปากช่องคลอด

ทางที่ดี คุณแม่ท้องควรวางแผนพูดคุยปรึกษากับแพทย์เกี่ยวกับวิธีการคลอดเสียก่อน หากมีความเสี่ยงน้อยหลาย สามารถเลือกคลอดธรรมชาติได้ แต่ในครรภ์ที่มีความเสี่ยงสูง การคลอดธรรมชาติก็อาจไม่ใช่ทางเลือกที่ปลอดภัย แพทย์จึงอาจแนะนำให้ใช้การผ่าคลอดแทน

แม่ๆหลายคนกลัวความเจ็บปวดของการคลอดเอง

คลอดแบบธรรมชาติดีอย่างไร?

ความเชื่อผิดๆเกี่ยวกับการคลอดแบบธรรมชาติ

ในความเป็นจริงคือ กลไกของร่างกายคุณแม่จะดำเนินไปตามขั้นตอนของการคลอดลูกโดยวิถีธรรมชาติได้เองอยู่แล้ว เหมือนกับที่มันสามารถเลี้ยงทารกในท้องให้เติบโตมาได้ตลอด 9 เดือน หากคุณแม่มีความมั่นใจในสัญชาตญาณความเป็นแม่ และเตรียมร่างกายให้พร้อม ฝึกหายใจอย่างถูกวิธี และศึกษาวิธีการคลอดมาอย่างถี่ถ้วน ก็จะทำให้การคลอดธรรมชาติสำเร็จได้ไม่ยาก

การใช้ยาหรือการช่วยเหลือต่างๆยังไม่มีข้อบ่งชี้ว่าจำเป็นอย่างแท้จริง หากแม่ท้องที่แสดงเจตจำนงว่าต้องการคลอดเอง แพทย์อาจเลือกให้ยาหรืออุปกรณ์ในกรณีที่จำเป็นจริงๆเท่านั้น เช่น ใช้ออกซิโทซินเพื่อเร่งคลอดในกรณีสุขภาพของทารกอยู่ในอันตราย รกเสื่อมสภาพ น้ำคร่ำเดินนานเกินกว่า 48 ชั่วโมงหรือมีการติดเชื้อ หรือใช้คีมหรือเครื่องดูดสุญญากาศช่วยดูดทารกออก ที่จะใช้ในกรณีทารกอยู่ในท่าไม่เหมาะสม คุณแม่ไม่มีแรงเบ่ง

การเจ็บครรภ์ของแม่แต่ละคนจะแตกต่างกันไป โดยทั่วไปท้องแรกจะนานที่สุด เฉลี่ยแล้ว 12-14 ชั่วโมง นอกจากนั้นยังขึ้นกับปัจจัยต่างๆ อาทิ สุขภาพ การประคับประคองอารมณ์ ท่าคลอดของทารก และท่าคลอดของคุณแม่ ซึ่งวิธีการลดความเจ็บปวดแบบธรรมชาติที่ดีคือการฝึกการหายใจและอยู่ในท่าที่เหมาะสม

เป็นเรื่องจริงที่หลังคลอดช่องคลอดของคุณแม่จะไม่เหมือนเดิม แต่หากคุณแม่บริหารอุ้งเชิงกรานโดยการขมิบเป็นประจำทุกวัน วันละ 30 ครั้ง เป็นเวลา 3 เดือน ช่องคลอดก็จะสามารถกลับมากระชับเหมือนเดิมได้โดยไม่จำเป็นต้องทำศัลยกรรม

ลองเปรียบเทียบข้อแตกต่างระหว่างคลอดธรรมชาติและแบบผ่าคลอด

การคลอดแบบไหนดีกว่ากัน? แบบไหนมีความเสี่ยงน้อยกว่า?

สำหรับคุณแม่มือใหม่ก็ไม่แปลกที่อาจจะมีคำถามเหล่านี้เกิดขึ้นในใจ ซึ่งทั้งการผ่าคลอดและการคลอดเองมีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัว รวมถึงปัจจัยที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงก็มีทั้งคู่ สิ่งสำคัญคือ การพิจารณาว่าวิธีไหนที่เหมาะกับเราที่สุด โดยคำนึงถึงความพร้อมด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจของคุณแม่และลูกในครรภ์เป็นอันดับหนึ่ง และต้องผ่านการปรึกษาและได้รับการยืนยันจากแพทย์ที่ดูแลอยู่ด้วย

ค่าใช้จ่าย

คลอดแบบธรรมชาติ

ผ่าคลอด

ก่อนคลอด

คลอดแบบธรรมชาติ

ผ่าคลอด

ขณะคลอด

คลอดแบบธรรมชาติ

ผ่าคลอด

หลังคลอด

คลอดแบบธรรมชาติ

ผ่าคลอด

ความเสี่ยง

คลอดแบบธรรมชาติ

ผ่าคลอด

เตรียมตัวให้พร้อมก่อนคลอด เพื่อช่วยเพิ่มความมั่นใจและลดความเครียดได้

เตรียมตัวอย่างไรเพื่อคลอดแบบธรรมชาติ?

หากคุณแม่ตัดสินใจคลอดธรรมชาติ ควรเตรียมพร้อมด้วยการเลือกโรงพยาบาลที่มีผู้เชี่ยวชาญในการทำคลอดแบบธรรมชาติ จากนั้นปรึกษาและเตรียมวางแผนการคลอดกับแพทย์ โดยพูดคุยถึงความต้องการเกี่ยวกับการคลอดของตนเองอย่างชัดเจน รวมทั้งปรึกษาว่าจำเป็นต้องใช้ยาหรืออุปกรณ์ใดช่วยในการทำคลอดบ้าง

นอกจากนี้ คุณแม่ยังควรศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการคลอดลูก ทั้งการคลอดแบบธรรมชาติและการผ่าคลอด รวมถึงวิธีบรรเทาอาการเจ็บขณะคลอดธรรมชาติ โดยนำมาฝึกปฏิบัติด้วย การเตรียมตัวและศึกษาไว้ก่อนอาจช่วยคลายความเครียดและวิตกกังวลไปได้บ้าง ซึ่งจะเป็นผลดีกับการคลอด เพราะความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นก่อนคลอดสามารถส่งผลให้การคลอดล่าช้าลง เนื่องจากระดับฮอร์โมนความเครียดที่เพิ่มขึ้นสูงอาจจะกระทบต่อการหดรัดตัวของมดลูก

แม้จะเตรียมพร้อมและมีความมั่นใจในการคลอดธรรมชาติมากแค่ไหน แต่ก็อาจมีเหตุจำเป็นให้ไม่สามารถคลอดเอง เช่น กรณีที่ทารกไม่อยู่ในท่าเอาหัวลง ทารกตัวใหญ่เกินกว่าจะคลอดทางช่องคลอดได้ หรือเกิดภาวะเครียดของทารกในครรภ์ เพื่อความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีต่อคุณแม่และทารก จึงควรวางแผนทางเลือกอื่นในการคลอดไว้ให้พร้อม เผื่อเกิดเหตุฉุกเฉินที่จำเป็นต้องใช้การผ่าคลอด

ถ้าพ่อได้เข้าคอร์สก่อนคลอดด้วยจะเป็นการดี

คุณพ่อมีส่วนช่วยในการคลอดได้

ควรศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับเรื่องตั้งครรภ์ จะได้ทราบถึงความเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจช่วงระยะใกล้คลอด รวมถึงเรื่องต่างๆ ที่จะช่วยดูแลสุขภาพกายและใจของคุณแม่ จะยิ่งดีหากได้เข้าคอร์สเตรียมตัวคลอดกับคุณแม่

เมื่อตัดสินใจจะเข้าไปอยู่ในห้องคลอดเพื่อเป็นกำลังใจให้กับคุณแม่แล้ว สิ่งที่สามารถทำได้เพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดให้กับคุณ  แม่ คือ การสัมผัสลูบท้องลูบหลังเบาๆ คอยกำกับจังหวะในการหายใจเพื่อให้คุณแม่คลายความเจ็บลง หากเป็นโรงพยาบาลที่อนุญาตให้คลอดได้ในท่าที่คุณแม่ต้องการ คุณพ่ออาจนั่งประคองหลังบริเวณไหล่และชายกระเบนเหน็บ แล้วคอยนวดเพื่อผ่อนคลายความเจ็บปวดให้คุณแม่ได้ ทั้งนี้ ควรจะขอคำปรึกษาของแพทย์ก่อนที่จะเข้าห้องคลอด เพื่อที่จะได้ช่วยเหลือได้ถูกวิธีเวลาอยู่ในห้องคลอด

ก็หวังเป็นอย่างยิ่งว่าคุณแม่ตั้งครรภ์จะคลายความกังวลลงไปบ้างแล้วนะคะ เมื่อได้รู้ถึงความแตกต่างในการคลอดและการเตรียมตัวก่อนคลอดอย่างเหมาะสม การปรึกษาแพทย์และดูแลตัวเองอย่างถูกวิธีคือหัวใจสำคัญในการคลอดอย่างปลอดภัยและมีสุขภาพที่ดีกันทั้งแม่และเจ้าตัวน้อยค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th