“คู่มือการคลอด” ฉบับคุณพ่อ

“คู่มือการคลอด” ฉบับคุณพ่อ

คุณพ่อมือใหม่หลายคนอาจจะอยากได้ “คู่มือการคลอด” ฉบับคุณพ่อ ที่คุณจะสามารถทำความเข้าใจกับมันก่อนได้ เมื่อแม่ของลูกเริ่มเจ็บครรภ์ เธอเหงื่อออกร้องครวญคราง บีบมือคุณแรงเกินกว่าที่คุณจะคาดคิด คุณทำดีทึ่สุดแล้วที่จะบอกเธอเอาอยู่และคุณภูมิใจในตัวเธอแค่ไหน แต่มันไม่ได้ผลสักเท่าไหร่ เธอยังคงทนทรมานอยู่แบบนั้น และเธอก็อารมณ์ไม่ค่อยจะดีด้วย บางครั้งก็ดูเหมือนว่าเธอกำลังโกรธคุณ โกรธทำไมก็ไม่รู้ ทั้งที่คุณก็พยายามแล้ว

ด้วยระยะเวลาประมาณ 12 ชั่วโมงก่อนคลอด หรืออาจจะนานกว่านั้น จะเป็นช่วงเวลาของคนเป็นแม่ คุณที่เป็นพ่ออาจจะรู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นที่ต้องการ คุณควรจะต้องไปอยู่ตรงนั้นด้วย แต่ก็เหมือนไม่มีความสำคัญอะไร นั่นอาจเป็นสิ่งที่ชัดเจนที่สุดสำหรับพ่อที่พยายามหาบทบาทของตัวเองที่ควรจะเป็นไประหว่างการมาถึงของเจ้าตัวน้อย และนี่คือเหตุการณ์ที่คนเป็นพ่อคาดหวังไว้ได้เลยว่าคุณจะต้องยุ่งเกี่ยวกับมันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เกมแห่งการรอคอย

การเจ็บครรภ์ครั้งแรกเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น ตั้งแต่ครั้งที่สองไปจนถึงครั้งที่สิบ และคุณก็กำลังคิดว่า “นี่มันเกิดขึ้นจริง ๆ น่ะเหรอ” และมันก็สนุกดี หรืออาจจะเป็นสิ่งที่สั่นประสาทของคุณก็ได้ อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความพร้อมของคุณ อาการเจ็บครรภ์เริ่มมาถี่ขึ้นเรื่อย ๆ คุณเริ่มรู้สึกได้ถึงความรู้สึกต่อต้าน แล้วคุณก็พบว่าตัวเองทำได้แค่รอ รอ และรอ คุณไม่แน่ใจในสิ่งที่คุณควรจะทำ คุณควรนวดเท้าของเธอหรือไม่ ? คุณควรกินแซนวิชชิ้นยักษ์ต่อหน้าเธอไหม ? คุณไม่ควรไปโรงพยาบาลหรือเปล่า ? แม่ต้องการพื้นที่ส่วนตัว ต้องการให้คุณโฟกัสกับสถานการณ์ แต่ไม่ใช่ให้กำลังใจแบบกลวง ๆ ว่า “คุณทำได้น่าที่รัก” คุณควรจะสังเกตการเจ็บครรภ์ จดโน้ตเอาไว้ และจดจ่ออยู่กับเธอ

ที่โรงพยาบาล การรอคอยอาจโหดร้าย ลูกของคุณอาจจะใช้เวลาร่วมวันกว่าจะได้ออกมาดูโลก ภรรยาของคุณอาจจะเดินไปแล้วต้องหยุดอาเจียนไปเป็นพัก ๆ และมันก็เป็นสิ่งที่คุณจะต้องอยู่ด้วยตลอดตรงนั้น

นี่คือเวลาของคุณที่จะเปล่งประกายในฐานะสามี เมื่อเธอต้องการให้คุณเป็นคนเสียสละ เข้มแข็ง และให้กำลังใจเธอได้มากที่สุด พูดอีกนัยหนึ่งก็คือ อย่าบอกเธอว่าคุณรอจนเบื่อ หรือเธอช่วยส่งแซนวิชให้คุณได้ไหม

การบล็อกหลัง

นี่อาจจะเป็นศึกหนักที่เกิดขึ้นในห้องคลอด แม้ภรรยาของคุณจะบอกชัดเจนว่าเธออยากคลอดเอง แต่ว่าที่คุณพ่อหลายคนกลับไม่อยากเห็นเธอเจ็บปวดมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้ามันไม่จำเป็น แต่ถ้ามันจำเป็นที่จะต้องบล็อกหลังในที่สุด เธอก็ต้องทำ บางครั้งสามีอาจจะเข้มงวดกว่าภรรยามาก และมันก็สร้างความขัดแย้งระหว่างพวกเขาได้

ทางที่ดีที่สุดคือคุณต้องยืดหยุ่นเข้าไว้ อย่ายึดมั่นยิดติด เพราะคุณไม่ใช่คนที่จะออกคำสั่งอะไรในนี้ได้อีกแล้ว

รออยู่ด้านนอกหรือจะเข้าไปด้วย ?

แน่นอนว่ามันเต็มไปด้วยเลือด แต่หลังจากรอมาหลายชั่วโมงคุณอาจอยากเห็นเด็กคนนั้นออกมา และมันจะเป็นประสบการณ์ที่ดีอย่างเหลือเชื่อสำหรับคุณ แต่สิ่งที่เราเห็นมากขึ้นเรื่อย ๆ คือภรรยาไม่ต้องการให้สามีอยู่ที่นั่น

แต่คุณควรจะลองเข้าไปดู หากภาพที่เห็นมันทำให้คุณรู้สึกเหมือนหนังสยองขวัญมากกว่าเรื่องมหัศจรรย์แห่งชีวิต ก็ให้คุณย้ายตัวเองมาอยู่กับเธอที่ซีกบน

ตัดสายสะดือ

นี่เป็นช่วงเวลาสำคัญของคุณ ในขณะที่พวกเขายื่นกรรไกรให้คุณ สมมติว่าการคลอดเป็นไปด้วยดี คุณอาจได้รับเกียรติในการตัดสายสัมพันธ์ที่เชื่อมโยงระหว่างลูกของคุณกับแม่ของเด็ก มันอาจเป็นสิ่งที่แย่ที่สุดที่คุณเคยตัดด้วยกรรไกร ลองจินตนาการถึงกระดูกอ่อนที่หนาและกรอบ แต่คุณอาจจะทำมันเพราะเป็นสิ่งเดียวที่คุณทำได้

คุณอาจจะใช้เวลาประมาณ 10 ปีข้างหน้าเพื่อคอยแทรกกลางระหว่างลูกของคุณกับคนที่เขาหรือเธออยากจะอยู่ด้วย ทำไมคุณไม่เริ่มใช้เวลากับลูกคุณเสียตั้งแต่ตอนนี้เลยละ

การขลิบ (สนับสนุนหรือต่อต้าน ?)

สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกาเรียกมันว่าเป็นก้าวแรกที่ดีในการลดความเสี่ยงของการติดเชื้อเอชไอวี คนที่เลือกที่จะ “ตัด” อ้างถึงการศึกษาทางการแพทย์ที่แสดงให้เห็นว่ามีการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้น และเหตุผลที่เรารู้กันดี อย่างเด็กผู้ชายคนอื่น ๆ จะล้อเขาไหม แต่กระแสความนิยมในการไม่ขลิบก็ค่อย ๆ พุ่งสูงขึ้นในช่วงหลัง

นับว่าเป็นการตัดสินใจที่ยากที่สุดครั้งหนึ่งในฐานะพ่อ คุณอาจจะไม่ต้องการให้ลูกขลิบ แต่ภรรยาของคุณอาจจะรู้สึกว่ามันจำเป็นมากและควรจะทำ แต่บางทีการตัดสินใจมันก็อาจจะไม่ได้ยากนักก็ได้

คุณพ่อมือใหม่อาจจะยังไม่รู้ว่าจะช่วยอะไรได้มากนักในวันคลอด อย่างน้อยขอแค่คุณอยู่ตรงนั้นในยามที่คุณแม่ต้องการ คอยดูแล เอาใจใส่ รับฟัง รวมทั้งอาจจะต้องระวังไม่พูดอะไรเด๋อ ๆ ให้เป็นการขัดใจ เท่านี้ก็มากเพียงพอแล้วละค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th