ทริคเด็ด จัดตู้เย็น สไตล์แม่บ้านญี่ปุ่น
หากบ้านไหนทำอาหารกินกันเอง น่าจะเคยเจอกับเหตุการณ์ที่ของสดที่เราซื้อมา ยังไม่ทันจะกินหมดก็เน่าเสียไปซะก่อน นั่นเพราะไม่มีการ “จัดตู้เย็น” ที่ดี วันนี้ Motherhood จะมาช่วยคุณยุติสารพัดปัญหาในตู้เย็นที่บ้านคุณด้วยทริคในการจัดของกินในตู้เย็นเสียใหม่ให้เป็นระบบระเบียบสไตล์แม่บ้านญี่ปุ่น พอกันทีกับการซื้อของกินมาโดยไม่ได้ปรึกษากัน ได้ของมาก็จับยัดเข้าตู้ไปทั้งถุงพลาสติก รู้ตัวอีกทีก็มีของกินที่เสียแล้วอยู่เต็มตู้ ทั้งเปลืองเงินโดยใช่เหตุ และอาจเสียสุขภาพจากการกินของที่ไม่สดใหม่ด้วย
#1 แยกหมวดหมู่ให้ชัดเจน
ตู้เย็นของหลาย ๆ บ้านที่อยู่กันเป็นครอบครัวใหญ่มักจะมีหลายชั้นหรือหลายช่องการใช้งาน การแยกประเภทของอาหารก่อนนำเก็บเข้าตู้เย็นจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด เพราะนอกจากจะทำให้ตู้เย็นของคุณดูมีระเบียบมากขึ้นแล้ว การจะหยิบใช้สิ่งของแต่ละอย่างก็ยังทำได้ง่ายขึ้นด้วย
#2 จัดเก็บของแห้งด้วยขวดโหล
ส่วนนี้อาจจะอยู่นอกตู้เย็นของคุณ แต่มันก็ถือเป็นอีกส่วนสำคัญของการจัดครัวที่บ้านคุณเช่นกัน เพราะว่าขวดโหลเหล่านี้จะใช้เก็บอาหารแห้งหลายประเภทที่เราไม่สามารถเก็บมันในตู้เย็นได้ เช่น เครื่องเทศ ข้าวสาร พาสต้า ผลไม้แห้ง ฯลฯ นอกจากโหลแก้วจะเป็นวัสดุที่สามารถใช้งานได้อย่างคงทนแล้ว มันก็ยังช่วยยืดอายุให้ของกินของคุณได้ด้วย
#3 ประหยัดพื้นที่ด้วยถุงซิปล็อค
ถุงซิปล็อคนับว่าเป็นไอเท็มที่แม่บ้านยุคใหม่ขาดไม่ได้เลย เพราะถุงแบบนี้สามารถใช้เก็บของสดได้ทุกประเภท ไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ ผักสด ผลไม้ หรือขนมที่เด็ก ๆ กินเหลือไว้ ก็สามารถใส่เข้าถุง รูดซิป แล้วนำไปเข้าตู้เย็นได้เลย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการจัดเก็บเนื้อสดในถุงซิปล็อคหลังกลับจากการช็อปปิ้งประจำสัปดาห์ ก็จะยิ่งช่วยให้คุณประหยัดพื้นที่ได้อีกมากโข แถมยังช่วยยืดอายุการใช้งานของมันด้วย และที่สำคัญไปกว่านั้นคือการลดการปนเปื้อน เพราะการจัดเก็บเนื้อสัตว์เข้าช่องฟรีซไปทั้งก้อนแบบเดิม ๆ ที่ครัวเรือนไทยนิยมทำกัน มักก่อให้เกิดการปนเปื้อนของแบคทีเรียได้อย่างง่ายดาย เมื่อคุณนำเนื้อสัตว์ทั้งก้อนออกมาละลายน้ำแข็งและตัดออกมาใช้แค่เพียงส่วนเดียว จุดนี้แหละที่เจ้าเชื้อโรคจะอาศัยเป็นช่องทางในการเติบโต เมื่อคุณนำเนื้อส่วนที่ยังเหลือไปเก็บเข้าช่องฟรีซอีกครั้ง เชื้อโรคพวกนี้ก็จะยังอยู่ คนส่วนมากไม่รู้ตัวว่าทำพลาดในข้อนี้ อาการท้องเสียหรืออาหารเป็นพิษที่เคยมี อาจจะมีต้นตอมาจากการเก็บรักษาอาหารที่ไม่ถูกต้องก็เป็นได้ ด้วยวิธีการใช้ถุงซิปล็อคนี้ เพียงแค่คุณสละเวลาในการจัดเตรียมสักนิด แบ่งเนื้อสัตว์ต่าง ๆ ออกเป็นสัดส่วนและใส่ถุงซิปล็อคแยกไว้ คุณก็สามารถหยิบมาใช้ได้เท่าที่ต้องการโดยไม่กระทบกับเนื้อสัตว์ส่วนอื่นแล้ว ยิ่งเขียนวันที่ซื้อมาไว้บนถุงด้วยก็จะยิ่งดี จะได้จัดเรียงและหยิบใช้ตามลำดับ First in, first out
#4 ถุงพลาสติกหูหิ้วคือของต้องห้ามในตู้เย็น
จำกฎข้อนี้ให้ขึ้นใจ ต่อจากนี้ไปไม่ว่าคุณจะได้กับข้าวสุกหรือซื้อพืชผักผลไม้ใด ๆ เข้าบ้านมาก็ตาม อย่าได้เก็บมันเข้าตู้เย็นไปทั้งถุงพลาสติกอีก ไม่ว่าจะเป็นถุงก็อบแก็บหูหิ้ว หรือถุงร้อนที่ใส่อาหารปรุงสุกแล้วมัดด้วยหนังยาง สิ่งที่คุณควรทำก็คือนำอาหารเหล่านั้นออกจากถุงซะ ถ่ายมันใส่กล่องเก็บอาหาร แล้วค่อยนำเข้าไปเก็บในตู้เย็น ส่วนผักก็สามารถเก็บในถุงซิปล็อคได้ หรือจะใส่ในถุงใส่ผักใส ๆ แบบที่มีในซูเปอร์มาร์เก็ตก็มีขายทั่วไปแล้ว
#5 พืชตระกูลหัวไม่จำเป็นต้องเก็บในตู้เย็น
พืชผักสวนครัวตระกูลหัวอย่างมันฝรั่ง แครอท หอมใหญ่ หอมแดง กระเทียม หรือขิง เป็นพืชที่สามารถเก็บไว้ได้นานโดยไม่จำเป็นต้องนำเข้าตู้เย็นเลย หากคุณยังไม่ได้ตัดไปใช้ เพียงแค่หาภาชนะที่โปร่ง เช่น ตะกร้าสาน จานไม้ หรือลังไม้ และนำไปวางไว้ในบริเวณที่อากาศถ่ายเท เพียงเท่านี้พืชผักพวกนี้ก็จะไม่ขึ้นรา และอยู่กับเราไปได้นาน
เทคนิคการจัดตู้เย็นสไตล์แม่บ้านญี่ปุ่นกำลังเป็นกระแสอย่างมากในช่วงนี้ ถือเป็นวิธีการปรับปรุงคุณภาพชีวิตในการกินอาหารที่คุณสามารถทำเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่ยอมเสียเวลามากขึ้นอีกนิดในการเซ็ทระบบ และจัดเตรียมของสดในแต่ละครั้งที่ไปช็อปปิ้งมา เพียงเท่านี้คุณก็จะมีสต็อกอาหารที่สดใหม่ ลดโอกาสการปนเปื้อนเชื้อโรค และคงคุณค่าทางโภชนาการ สำหรับทุกคนในครอบครัว
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th