สุดยอดเคล็บลับสำหรับ “ดูแลผิวหน้าคนท้อง”
การ “ดูแลผิวหน้าคนท้อง” เป็นอีกกิจกรรมสำคัญสำหรับคุณแม่นะคะ เพราะเมื่ออารมณ์ของคุณแปรปรวน เกิดการเปลี่ยนแปลงทางร่างกาย และความอยากอาหารที่คุณต้องเผชิญในระหว่างตั้งครรภ์ สิ่งสุดท้ายที่คุณอยากจะต้องกังวลกับมันคือผิวของคุณ น่าเสียดายที่การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนที่เป็นสาเหตุของปัญหาเหล่านั้นก็ส่งผลกระทบต่อผิวของคุณเช่นกัน ผิวมันอยู่เดือนนึง จากนั้นกลับแห้งและลอก แทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่จะรู้ว่าผิวจะเป็นอย่างไรต่อไป คุณอาจจะพบกับสิวชุดใหญ่ในอีกไม่กี่เดือนก็ได้ ต่อไปนี้เป็นวิธีจัดการกับปัญหาผิวหนัง 3 ประการที่พบบ่อยขณะตั้งครรภ์
ผิวมัน
สาเหตุ: ในช่วงไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ผู้หญิงหลายคนจะต้องเผชิญกับสิวที่บุกมาบนผิวหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณมีผิวเป็นสิวง่ายอยู่แล้วตั้งแต่ก่อนตั้งครรภ์ เมื่อมีการตั้งครรภ์ การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนครั้งใหญ่ก็เกิดขึ้น มันคล้ายกับการมีช่วงเวลา PMS นานถึง 9 เดือนเลยก็ว่าได้ ระดับฮอร์โมนแอนโดรเจนของคุณพุ่งสูงขึ้นในช่วงไตรมาสแรก ซึ่งเป็นสาเหตุให้มีการผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น
อะไรที่ต้องหลีกเลี่ยง: เคลียร์โต๊ะเครื่องแป้งของคุณ เอาผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีคำว่า “Noncomedogenic” (ไม่อุดตันรูขุมขน) ออกไปให้หมด ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์ ครีมกันแดด เครื่องสำอาง และคลีนเซอร์ ที่ปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน
วางแผนอย่างไร: วิธีที่ปลอดภัยที่สุดในการทำความสะอาดรูขุมขนของคุณคือการขัดผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เคมี เพราะพวกมันขัดผิวด้วยวิธีทางกายภาพ ลองขัดผิวอย่างอ่อนโยนด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของสครับที่มีอนุภาคขนาดเล็กเพื่อกำจัดเซลล์ผิวที่ตายแล้ว คุณสามารถไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลผิวหน้าได้ในทุก ๆ 2 สัปดาห์ หรือถามแพทย์ผิวหนังของคุณเกี่ยวกับการลอกผิวด้วยวิธี Microdermabrasion (กรอผิวด้วยการพ่นผลึกแร่ที่ละเอียดมาก)
- ใช้คลีนเซอร์ที่อ่อนโยนและไม่ทำให้ผิวแห้งบนใบหน้าของคุณวันละ 2 ครั้ง หลีกเลี่ยงสบู่ที่ให้ความชุ่มชื้นมากจนเกินไปเนื่องจากมันประกอบด้วยสารทำให้ผิวนุ่มที่สามารถอุดตันรูขุมขนในขณะเดียวกัน
- หลีกเลี่ยงการออกแดด และใช้ครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำมันทุกวัน
- สครับผิวด้วยผลิตภัณฑ์สครับจากธรรมชาติสัปดาห์ละ 3 ครั้ง
- ใช้มาส์กสูตรผิวกระจ่างใสเพื่อกระตุ้นให้น้ำมันออกมาจากรูขุมขนสัปดาห์ละ 1 ครั้ง
- พกกระดาษซับมันติดตัวเพื่อดูดซับความมันส่วนเกินในระหว่างวัน
ผิวแห้ง
สาเหตุ: ด้วยเลือดและของเหลวในร่างกายที่เพิ่มขึ้นจากการคุณต้องเลี้ยงลูกที่กำลังเติบโตในท้องของคุณ ความชุ่มชื้นจะถูกดูดออกมาจากผิวหนังของคุณ เนื่องจากทุกหยดจำเป็นต้องนำไปใช้เพื่อช่วยให้ทารกเติบโตขึ้น ปริมาณของเหลวในร่างกายของคุณเพิ่มขึ้นมากจนไม่สามารถรักษาความชุ่มชื้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งตามแขนและขา
อะไรที่ต้องหลีกเลี่ยง: อย่าใช้ยาแก้คันที่มีส่วนผสมของคอร์ติโซนหรือไฮโดรคอร์ติโซน เพราะยาเฉพาะที่เหล่านี้สามารถดูดซึมเข้าสู่ผิวหนังได้ แม้ว่าจะไม่ได้รับการพิสูจน์ว่าพวกมันมีผลต่อการพัฒนาของทารก แต่ก็ไม่มีการศึกษาทางคลินิกเพื่อให้แน่ใจว่าพวกมันจะไม่ส่งผลกระทบต่อลูกน้อยของคุณ ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือการหลีกเลี่ยงพวกมันซะ
วางแผนอย่างไร: การดื่มน้ำคือด่านแรกของคุณ เพราะน้ำจะหล่อเลี้ยงผิวของคุณจากภายในสู่ภายนอก การทาครีมบำรุงก็แค่ช่วยป้องกันการระเหยของน้ำเท่านั้น ดังนั้น ยิ่งคุณดื่มน้ำมากเท่าไหร่ผิวของคุณจะนุ่มขึ้นเท่านั้น
- ล้างหน้าวันละ 2 ครั้งด้วยคลีนเซอร์สูตรอ่อนโยนสำหรับผิวแห้ง
- ใช้ครีมบำรุงและครีมกันแดดที่มีสารบำรุงเข้มข้น
- หากผิวของคุณไม่สม่ำเสมอ ให้เอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกด้วยการผลัดเซลล์ผิว
- ใช้มาส์กบำรุงผิวที่มีสารบำรุงเข้มข้นสัปดาห์ละครั้ง
- ใช้เครื่องพ่นไอน้ำเติมความชุ่มชื้นภายในห้องนอน
- อย่าแช่น้ำมากเกินไป และเมื่อคุณอาบน้ำ อย่าอาบน้ำหรือแช่น้ำนานจนเกินไป และอย่าอาบน้ำที่อุ่นจนเกินพอดี ให้ใช้สบู่สูตรอ่อนโยนที่ให้ความชุ่มชื้นหรือใช้เจลอาบน้ำสูตรอ่อนโยน จากนั้นให้บำรุงผิวด้วยผลิตภัณฑ์ที่อุดมไปด้วยมอยเจอร์ไรเซอร์เพื่อกักเก็บน้ำในผิว
สิวตอนตั้งครรภ์
สาเหตุ: การเพิ่มขึ้นของการผลิตน้ำมันดังที่กล่าวไปข้างต้นสามารถนำไปสู่การเกิดสิวระหว่างตั้งครรภ์
อะไรที่ต้องหลีกเลี่ยง: คุณไม่สามารถรักษาสิวที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์ด้วยยารักษาสิวทั่วไป เนื่องจากขั้นตอนหลักของการพัฒนาของทารกในครรภ์กำลังเกิดขึ้นในช่วงเวลานี้ อย่าลืมแจ้งเตือนแพทย์ผิวหนังของคุณว่าคุณกำลังตั้งครรภ์ และหลีกเลี่ยงการใช้ยารักษาสิวรวมถึงโลชั่นที่มีส่วนผสมของวิตามินเอ เช่น Accutane, Retin-A, Differin, Tazorac และครีมที่ขายตามเคาน์เตอร์ที่มีเรตินหรือยาปฏิชีวนะ
ในช่วงไตรมาสแรกให้หลีกเลี่ยงคลีนซิ่งและมอยเจอร์ไรเซอร์ที่มีสารเคมีขัดผิว เช่น กรดซาลิไซลิก กรดไกลโคลิก และกรดอัลฟ่าและเบต้าไฮดรอกซี หากคุณยังคงมีสิวไม่หยุดหลังจากไตรมาสแรก ช่วงนี้ทารกในครรภ์จะได้รับการพัฒนามากขึ้นแล้ว ดังนั้น ยาที่ขายตามเคาน์เตอร์จะไม่ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อทารก เมื่อสูติแพทย์คิดว่าการสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะเพื่อรักษาสิวนั้นปลอดภัยแล้ว คุณสามารถใช้ยาเหล่านี้ได้สำหรับใบหน้าของคุณ
วางแผนอย่างไร:
- ใช้คลีนเซอร์ที่เหมาะสม: ฮอร์โมนเอสโตรเจนที่เพิ่มในระดับสูงนั้นจะเพิ่มการผลิตไขมัน ล้างหน้าของคุณด้วยคลีนเซอร์ที่มีสารสกัดจากโรสแมรี่หรือน้ำมันทีทรี ซึ่งจะเก็บกวาดสิวโดยการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย
- เพิ่มความชุ่มชื้นอย่างพอดี: ส่วนผสมที่ช่วยเคลียร์ผิวจากสิวนั้นอาจก่อให้เกิดความแห้งและระคายเคือง ผิวของคุณก็จะยิ่งพยายามเติมความชุ่มชื่นให้ตัวเองอีกครั้งโดยการผลิตน้ำมันออกมาเกินพิกัดเป็นการชดเชย โลชั่นหรือครีมปราศจากน้ำมันที่มีส่วนผสมของกลีเซอรีน เชียบัตเตอร์ กรดไฮยาลูโรนิคหรือไนอาซินาไมด์ (วิตามินบี 3) จะช่วยให้ผิวนิ่มขึ้นโดยไม่อุดตันรูขุมขนหรือทำให้คุณเป็นสิว ใช้กับผิวที่สะอาดก่อนนอน
- ป้องกันรอยแผลเป็นจากสิว: หากคุณชอบแกะสิว คุณอาจจะต้องพบกับจุดด่างดำที่เหลือไว้ดูต่างหน้า ในการลดเลือนหรือป้องกันรอยแผลเป็นจากสิวให้ใช้เซรั่มที่มีวิตามินซีช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระบนทุกเช้า เลือกผลิตภัณฑ์ในขวดที่มีหัวปั๊มสุญญากาศ เพราะวิตามินซีอาจสูญเสียพลังงานหากมันสัมผัสกับอากาศและแสง
หวังว่าคุณแม่ทุกคนจะยังสามารถคงความสวยของผิวได้แม้ในช่วงตั้งครรภ์นะคะ ถือซะว่าการที่เราได้ดูแลผิวพรรณตัวเองเป็นการผ่อนคลายความเครียดอย่างหนึ่ง หากเราบำรุงร่างกายอย่างดีเพื่อเจ้าตัวน้อยแล้ว เราก็ควรดูแลความงามของตัวเองให้เราได้รู้สึกดีด้วย จริงไหมคะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th