Site icon Motherhood.co.th Blog

ทำผิวแทน จะอันตรายมั้ยถ้าทำตอนท้อง

ทำผิวแทนตอนท้อง

การทำผิวแทนตอนท้องจะอันตรายรึเปล่านะ

ทำผิวแทน จะอันตรายมั้ยถ้าทำตอนท้อง

เดือนมีนาคมก็ถือว่าเข้าหน้าร้อนแล้วนะคะ ผู้หญิงหลายคนก็ชอบที่จะมีผิวแทนสวยรับหน้าร้อน แต่การ “ทำผิวแทน” จะเป็นสิ่งที่อันตรายสำหรับแม่ตั้งครรภ์หรือเปล่า เพราะการทำผิวแทนนั้นก็มีด้วยการหลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการใช้ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทนด้วยตนเองในรูปแบบต่าง ๆ การใช้เตียงอบผิวแทน หรือแม้แต่การไปอาบแดดกับแสงอาทิตย์โดยตรง แต่วิธีไหนที่จะปลอดภัยต่อแม่ท้องผู้รักความงาม มาหาคำตอบไปด้วยกันในบทความนี้ค่ะ

ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทนด้วยตนเอง

การสัมผัสกับรังสีรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) สามารถทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยและมะเร็งผิวหนัง ดังนั้น ไม่ว่าคุณจะกำลังตั้งครรภ์อยู่หรือไม่ คุณก็ควรที่จะทำให้ปลอดภัยไว้ก่อน โดยการปกป้องผิวหนังของคุณอยู่เสมอ แต่สำหรับคนที่ชื่นชอบการทำผิวแทนเป็นชีวิตจิตใจ ยังไม่มีรายงานว่าการใช้ผลิตภัณฑ์ทำผิวแทนด้วยตนเองระหว่างตั้งครรภ์นั้นเป็นสิ่งที่ปลอดภัย 100 เปอร์เซนต์ คุณจึงความสอบถามแพทย์ก่อนที่จะตัดสินใจ

เนื่องจากผลิตภัณฑ์เหล่านี้ยังค่อนข้างใหม่สำหรับตลาด จึงไม่มีการศึกษาถึงผลกระทบระยะยาวที่อาจส่งผลต่อทารกในครรภ์ที่กำลังพัฒนา และแม้ว่าผู้เชี่ยวชาญส่วนใหญ่จะสงสัยว่ามีสารออกฤทธิ์ในผลิตภัณฑ์จำพวกนี้ เช่น Dihydroxyacetone หรือ DHA ที่จะแทรกซึมผิวหนัง แม้ว่าจะมีการใช้ DHA ในเครื่องสำอางมาตั้งแต่ปีพ.ศ. 2503 แต่มันก็ยังไม่มีข้อพิสูจน์ที่แน่ชัด และยังไม่พบการรายงานปัญหา แพทย์ส่วนใหญ่จึงจะบอกให้คุณอดใจรอไว้ก่อน ดีกว่าที่จะต้องมาเสียใจทีหลัง

หลายคนนิยมใช้ครีมทำผิวแทนทาเองที่บ้าน

มีอีกเหตุผลที่ดีที่คุณอาจต้องการที่จะหลีกเลี่ยงการใช้ครีมทำผิวแทนไปจนกว่าคุณจะคลอด ฮอร์โมนที่เกี่ยวข้องกับการตั้งครรภ์กำลังแปรปรวน มันอาจทำให้ผิวของคุณตอบสนองแตกต่างจากที่คุณต้องการ นอกจากนี้ด้วยท้องของคุณที่เพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การทาครีมให้สม่ำเสมอทั่วเรือนร่างอาจจะเป็นอะไรที่ยากกว่าที่คุณคิด คุณอาจจะจบลงที่มีรอยด่างเป็นปื้นหรือเป็นริ้ว

โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับผลิตภัณฑ์ทำผิวแทนที่มาในรูปแบบของสเปรย์ เนื่องจากควันละอองอาจไม่ปลอดภัยสำหรับปอดของคุณเมื่อสูดดมมันเข้าไป และมันอาจเข้าสู่กระแสเลือดของคุณ ซึ่งหมายความว่ามันอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยของคุณด้วยเช่นกัน

การใช้เตียงอบผิวแทน

เตียงอบผิวแทนเป็นอย่างไร?

มีเตียงอาบแดดมากกว่าหนึ่งประเภท และซาลอนที่ให้บริการอบผิวสีแทนส่วนใหญ่จะมีเตียงอาบแดด 3 ประเภทที่แตกต่างกันเหล่านี้ไว้บริการ โดยแบ่งเป็น เตียงแรงดันต่ำ เตียงแรงดันสูง และแบบตู้บูธ

เตียงแรงดันต่ำ เป็นเตียงอบผิวแทนแบบดั้งเดิม รังสียูวีจะถูกปล่อยออกมาในสเปกตรัมที่คล้ายกับแสงแดดธรรมชาติ โคมไฟายในเตียงผลิตสีได้อย่างรวดเร็ว  แต่ความเสี่ยงของการถูกแดดเผาจะสูงที่สุดในเตียงประเภทนี้ ถ้าลูกค้ามีผิวที่ไหม้ได้ง่าย เจ้าหน้าที่จะไม่แนะนำให้ใช้เตียงประเภทนี้

เตียงแรงดันสูง เตียงประเภทนี้จะปล่อยรังสียูวีเอในสัดส่วนที่สูงขึ้น ปกติแล้ว UVA สามารถแทรกซึมสู่ชั้นลึกของผิวหนังและกระตุ้นให้สีผิวเข้มขึ้น ส่วนรังสี UVB เป็นสิ่งที่ทำให้เกิดการถูกแดดเผาถ้าสัมผัสมากเกินไป ในเตียงแบบนี้ลูกค้าจะได้ผิวสีแทนที่เข้มกว่าและติดทนนานกว่า แต่จะใช้เวลาสร้างสีผิวที่ต้องการได้ช้ากว่า โดยปกติเตียงนี้จะมีราคาแพงกว่าเล็กน้อย แต่ถ้าลูกค้ามีผิวขาวหรือไหม้ง่าย เตียงประเภทนี้จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่า

ตู้อบแบบบูธจะให้สีผิวที่สม่ำเสมอทั่วทุกซอกมุม

ตู้บูธ หรือที่รู้จักกันว่าเตียงอบผิวแบบยืน เป็นเตียงอบผิวแทนในแนวตั้งแทนที่จะให้ผู้ใช้งานนอนราบลงไป โดยการยืนบนเตียง ผู้ใช้สามารถเคลื่อนไหวและวางร่างกายในตำแหน่งใดก็ได้ที่ต้องการให้ผิวเป็นสีแทน เหมาะสำหรับการทำให้ได้ผิวสีแทนที่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะใต้วงแขนหรือต้นขาด้านใน นอกจากนี้ยังเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับผู้ใช้ที่ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษในการใช้เตียงแบบนอน และผู้ใช่ที่ไม่ต้องการอยู่ในพื้นที่ปิดล้อม

ผลกระทบที่เกิดขึ้น

เมื่อพูดถึงเตียงอบผิวแทน มีข้อกังวลหลายประการสำหรับทั้งคุณและลูกของคุณ เตียงอาบแดดมีอันตรายเช่นเดียวกับดวงอาทิตย์ พวกมันปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต (UV) ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคมะเร็งผิวหนัง อย่าเชื่อใครที่บอกคุณว่าเตียงอบผิวเหล่านี้จะปล่อยแต่รังสี UVA เท่านั้น เลยทำให้มันไม่ได้เป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ

การศึกษาวิจัยชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าการไปใช้บริการเตียงอบผิวแทน 10 ครั้งในหนึ่งปี สามารถเพิ่มโอกาสในการพัฒนามะเร็งผิวหนังถึงสองเท่า ซึ่งเป็นมะเร็งชนิดที่อันตรายที่สุดชนิดหนึ่ง เมลาโนมาเป็นมะเร็งชนิดเดียวที่สามารถแพร่กระจายไปยังรก ซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทั้งคุณและลูกน้อยของคุณ

สมัยนี้มีซาลอนที่ให้บริการเตียงอบผิวแทนมากขึ้นในไทย

การนอนบนเตียงอาบแดดสามารถปรับอุณหภูมิร่างกายให้อยู่ในระดับที่อาจเป็นอันตรายต่อลูกน้อยของคุณ โดยเฉพาะในช่วงไตรมาสแรก การมีอุณหภูมิร่างกายสูงขึ้นในระหว่างตั้งครรภ์นั่นคือสูงกว่า 38.8 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นระดับอุณหภูมิที่สามารถเกิดขึ้นได้บนเตียงอาบแดด อ่างน้ำร้อน หรือซาวน่า ซึ่งความร้อนระดับนี้สัมพันธ์กับการผิดรูปของกระดูกสันหลังในพัฒนาการของเด็กทารก

นอกจากนี้ยังมีความกังวลว่า การนอนหงายนานเกินไปอาจจำกัดการไหลเวียนของเลือดไปยังหัวใจ และส่งผลต่อลูกน้อยของคุณเช่นกัน หากอาการเช่นนี้เกิดขึ้น คุณจะรู้สึกมึนหัว ด้วยเหตุนี้เองจึงทำให้บางคนหันไปใช้เตียงอบผิวแทนประเภทตู้บูธแทน เพื่อที่จะหลีกเลี่ยงท่านอนระหว่างอบผิว

การอาบแดดธรรมชาติ

การตั้งครรภ์ทำให้ผิวของคุณแพ้ง่ายขึ้น ดังนั้นแสงจากดวงอาทิตย์อาจทำให้เกิดลมพิษ ผดผื่นคัน หรืออาการบวมน้ำ การอยู่ในที่ร่มจะสามารถป้องกันลมพิษหรือผดผื่น มาตรการด้านความปลอดภัยแบบเดียวกันนี้ควรกระทำเสมอขณะที่คุณอยู่ภายใต้แสงอาทิตย์ไม่ว่าคุณจะตั้งครรภ์หรือไม่ก็ตาม ดื่มน้ำปริมาณมาก ใช้ครีมกันแดดที่มีค่า SPF 30 ขึ้นไป และสวมหมวก หากคุณรู้สึกเวียนศีรษะ คลื่นไส้ หรือเหนื่อยล้า ให้ไปยังพื้นที่ที่มีเครื่องปรับอากาศ

แม้แต่การอาบแดดแบบธรรมชาติก็ไม่ปลอดภัยอยู่ดี

การศึกษาบางอย่างยังเชื่อมโยงรังสียูวีและการขาดกรดโฟลิก กรดโฟลิกช่วยป้องกันข้อบกพร่องของเส้นประสาทเช่น Spina bifida และมีความสำคัญอย่างยิ่งในไตรมาสแรกของการตั้งครรภ์ ในระหว่างตั้งครรภ์ผิวของคุณจะไวต่อการไหม้และการเกิดฝ้า ซึ่งเป็นรอยด่างดำที่ปรากฏบนใบหน้าในระหว่างตั้งครรภ์ หญิงตั้งครรภ์ที่มีผิวแพ้ง่ายหากสัมผัสกับรังสียูวีไม่ว่าจะเป็นเตียงอาบแดดหรือแดดโดยตรง อาจมีแนวโน้มว่าจะเกิดฝ้าได้

วิธีฟื้นฟูผิวจากแดดเผา

บางครั้งเราก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะอาบแดดหรือทำร้ายผิวของตัวเอง แต่ด้วยความไม่ได้ระมัดระวังให้ดีพอ หรือเพราะมีผิวที่บอบบางและไวต่อแดดสูง ผิวของเราอาจจะไหม้เกรียมจากแดดได้ เราจึงควรรู้วิธีที่จะช่วยบรรเทาผิวของเราจากความแสบร้อนนี้

1. ใช้ผ้าชุบน้ำเย็นหรือว่านหางจระเข้ประคบผิวเพื่อลดความร้อน

เราสามารถฟื้นฟูผิวที่แสบร้อนจากการโดนแดดเผาได้ ด้วยการนำผ้าชุบน้ำเย็นหรือว่านหางจระเข้แช่เย็นมาประคบลงบนบริเวณผิวที่โดดแดดเผาหลาย ๆ ครั้ง ครั้งละประมาณ 10-15 นาที ก็จะช่วยบรรเทาอาการได้

2. โยเกิร์ตช่วยผิวที่ไหม้แดด

อีกวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการไหม้แดดก็คือใช้โยเกิร์ต เมื่อพบว่าผิวไหม้ ให้รีบเอาโยเกิร์ตมาทาลงบริเวณนั้น ทาเสร็จแล้วทิ้งไว้สักพัก แล้วเอาผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดออกอย่างเบามือ

ผิวที่เสียจากแดดต้องได้รับการฟื้นฟูเร่งด่วน

3. หลีกเลี่ยงการใช้สบู่ที่รุนแรง

ไม่ควรอาบน้ำด้วยสบู่ที่รุนแรงหลังจากที่ผิวโดนแดดเผามา เพราะว่าจะทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคือง ผิวที่แย่อยู่แล้วก็จะยิ่งแย่หนักกว่าเดิม ระหว่างนี้ควรใช้สบู่ที่อ่อนโยนจะดีกว่า ที่สำคัญ หลังอาบน้ำเสร็จ ควรเช็ดผิวให้แห้งอย่างเบามือ อย่าถูแรง เพราะจะทำให้ผิวระคายเคืองมากกว่าเดิม 

4. เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว

แสงแดดเป็นอีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ความชุ่มชื้นในผิวหายไป ในช่วงฟื้นฟูผิวเราก็ควรเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวด้วยการดื่มน้ำมาก ๆ และทามอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำทุกวัน

Motherhood เข้าใจดีว่าผู้หญิงหลายคนอาจรู้สึกหมดความมั่นใจตอนท้อง อาจจะรู้สึกว่าโทรมหรือสวยน้อยลง จึงอยากเสริมสวยให้ตัวเองเป็นคุณแม่ที่ดูดีอยู่เสมอ แต่บางครั้งกิจกรรมเพื่อความสวยหลายอย่างก็ไม่เหมาะกับคนท้องสักเท่าไหร่ ไม่ว่าจะตัดสินใจทำอะไรก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทุกครั้งนะคะ จะได้ไม่พลาด ไม่ส่งผลเสียต่อลูกน้อยในครรภ์ค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th