Site icon Motherhood.co.th Blog

พาลูกปลูกข้าว ทำนา ที่ “บ้านครูธานี”

เที่ยวบ้านครูธานี

พาลูกไปเรียนรู้วิถีชาวนาที่่บ้านครูธานี

พาลูกปลูกข้าว ทำนา ที่ “บ้านครูธานี”

ในช่วงปิดเทอมนี้ หากคุณพ่อคุณแม่อยากให้ลูกได้เที่ยวแบบมีความรู้ด้วย Motherhood ก็มีสถานที่ท่องเที่ยวดีๆที่ตอบโจทย์มาฝากกันค่ะ “บ้านครูธานี” เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่เหมาะสมมาก ที่จะให้เด็กๆได้เรียนรู้วิถีชีวิตและธรรมชาติอย่างใกล้ชิด ผู้เขียนเองเคยเห็นรุ่นพี่พาลูกชายไปเรียนรู้ที่นั่น ได้เห็นภาพแล้วรู้สึกว่าเด็กๆสนุกสนานกันดี เลยอยากนำเสนอให้รู้จักกันค่ะ

บ้านหอมชื่นของครูธานี

บ้านครูธานีตั้งอยู่ที่ ตำบลบ่อเงิน อำเภอลาดหลุมแก้ว จังหวัดปทุมธานี ครูธานี หอมชื่น จบครุศาสตร์บัณฑิตจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เลือกที่จะทิ้งการทำงานในเมืองกรุง เพื่อพาครอบครัวกลับมาใช้ชีวิตแบบเรียบง่าย พร้อมทั้งหว่านล้อมให้คุณพ่อมนัสช่วยกันสร้างศูนย์การเรียนรู้ที่สามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในเชิงปฏิบัติให้กับนักเรียนและนักท่องเที่ยวได้ทดลองทำกิจกรรมตามวิถีชาวนา ด้วยพื้นที่ที่มากถึง 25 ไร่ นักเรียนหรือนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมบ้านครูธานี จะได้รู้จักกระบวนการทำนาทุกขั้นตอน ได้ทดลองสีข้าว รวมถึงได้ลองใช้ชีวิตแบบชาวบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการขูดมะพร้าว โม่แป้ง ขี่ควาย ฯลฯ

Image: thaihealth.or.th

เริ่มต้นกิจกรรมในช่วงเช้า

ในช่วงเช้า เด็กๆและนักท่องเที่ยวมาเยี่ยมชมและเรียนรู้ จะเข้าบ้านไปรวมตัวก่อนที่ใต้ถุนบ้านครูธานี บ้านของครูเป็นบ้านไม้ทรงไทย ด้านบนมีห้องพระและเก้าอี้โยกไม้ ด้านล่างเป็นใต้ถุนที่จัดไว้เป็นพื้นที่เอนกประสงค์สำหรับรวมพล และที่สำหรับนั่งทานอาหารกลางวัน เมื่อทุกคนมากันพร้อมหน้า ครูธานีจะเรียกเด็กๆมานั่งล้อมวงใต้ถุนเรือนไทยเพื่อฟังการกล่าวตอนรับและแนะนำสถานที่ พร้อมกิจกรรมที่เด็กๆจะได้ทำกันภายในวันนี้ จากนั้นครูจะพาทุกคนเดินข้ามถนนไปที่ลานกิจกรรม ซึ่งเป็นพื้นที่ฝั่งตรงกันข้ามกับบ้าน เพื่อให้เด็กๆเรียนรู้เรื่องข้าวและการผลิตข้าว มีสาธิตการฟาดข้าวเพื่อให้เมล็ดหลุดจากรวง หลังจากนั้นนำเมล็ดที่ได้ไปใส่ในเครื่องสีฝัด กระเทาะให้เปลือกหลุดออกมา โดยมีคุณลุงคุณป้าที่บ้านครูเป็นพี่เลี้ยง แต่ถ้าเด็กๆอยากออกแรงเหมือนสมัยโบราณ ที่นี่ก็มีครกตัวใหญ่ให้ช่วยกันตำข้าว ซึ่งข้าวที่ได้ก็นำไปใส่โม่หินตัวเขื่อง เพื่อทำการโม่แป้งต่อไป และครูยังพาพี่ควายมาแสดงการนวดข้าวให้เด็กๆได้ดูกันด้วย

เสร็จจากการฝัดข้าว ก็จะเข้าสู่การเล่นกิจกรรมฐานบ้านทุ่งแบบอิสระ เริ่มต้นจากการเดินบนสะพานไม้พื่อให้อาหารปลาเป็นที่แรก จากนั้นก็จะพากันนั่งรถกระแทะที่ขับโดยคุณลุงเพื่อมุ่งไปยังจุดกิจกรรมต่อไป ระหว่างทางมีบ้านไก่ที่เด็กๆสามารถเข้าไปเก็บไข่มาได้คนละ 1 ฟอง เพื่อจะนำไปทำเป็นอาหารกลางวัน เมื่อถึงแปลงผัก เด็กๆจะต้องเข้าไปเก็บผักสวนครัวจากในแปลง แปลงผักของที่นี่มีทั้งคะน้า ผักบุ้ง ผักกาดขาว และแตงกวา เพื่อนำมาประกอบอาหารกลางวัน ซึ่งเด็กๆจะได้ช่วยกันกับคุณพ่อคุณแม่ประกอบอาหารกันสดๆตรงนั้น ด้วยพืชผักสวนครัวที่เพิ่งไปเก็บกันมา

Image: localcreativetourism.com

กิจกรรมหลังอาหารเที่ยง

หลังจากที่เด็กๆอิ่มหนำสำราญกันแล้ว ก็ต้องไปช่วยกันล้างจานชาม จากนั้นก็นำแป้งข้าวเจ้าที่โม่ไว้ตั้งแต่ช่วงเช้ามานวดผสมกับแป้งมัน แล้วให้เด็กๆช่วยกันปั้นและกดลงบนพิมพ์ จะได้ออกมาเป็นขนมครองแครง เตรียมไว้สำหรับเป็นของว่างยามบ่ายสำหรับทุกคน

เสร็จจากการทำขนมของว่างกันแล้ว เด็กๆก็จะเริ่มฐานกิจกรรมที่สนามหลังเรือนไทย มีกิจกรรมให้เลือกมากมาย ตั้งแต่ไต่เชือกหรือเดินสะพานไม้ไผ่ สำหรับเด็กๆที่อยากลองปีนมะพร้าว ที่นี่ก็มีอุปกรณ์นิรภัยเป็นกะลากันน็อคและเชือกร้อยรอบเอวเพื่อความปลอดภัย หรือใครอยากจะพายเรือในคลองก็ได้เช่นกัน

และแล้วช่วงเวลาที่เด็กๆรอคอยก็มาถึงเสียที คือ การได้ลงสนามปลูกข้าวดำนา ถึงตอนนี้เด็กๆต้องไปเปลี่ยนเสื้อผ้ากันก่อนเพื่อให้พร้อมเลอะพร้อมลุย จากนั้นจึงเดินไปดูครูสาธิตการจับต้นกล้า การดำนา พอเข้าใจวิธีแล้วก็ไถตัวจากคันนาลงไปในบ่อโคลนที่ครูธานีให้เด็กชาวบ้านแถวนั้นมาช่วยย่ำไว้ก่อนแล้ว ดินจึงนิ่มและเละได้ที่ เมื่อรับต้นกล้าจากครูแล้วก็ดำนากันเลย รับรองว่าเด็กๆจะเล่นดินเล่นโคลนกันเลอะเทอะสนุกสนานแบบสุดๆไปเลย

โม่แป้งข้าวจ้าวไปทำครองแครง

อาหารว่างยามบ่าย

อาหารว่างกำลังรอเด็กๆอยู่ เป็นครองแครงที่เด็กๆได้ช่วยกันโม่แป้งเมื่อช่วงเช้า และได้ปั้นแป้งหลังอาหารกลางวัน เมื่ออาบน้ำอาบท่าล้างโคลนเสร็จแล้ว ก็ถึงเวลามานั่งกินขนมอร่อยๆด้วยกัน เด็กๆสามารถออกไปเดินไม้ไผ่ต่อขา หรือจะนอนเปลและเล่นชิงช้าก็ได้ ก่อนกลับมารวมตัวกันเพื่อเล่นเกมเล็กๆน้อยๆกับครูธานีที่สนาม และยกมือไหว้ลาครูก่อนลากลับบ้าน

อยากพาลูกไปบ้างต้องทำอย่างไร?

การมาเที่ยวบ้านครูธานีต้องนัดหมายกันมาเป็นหมู่คณะ ประมาณ 15 – 30 คน นับรวมทั้งเด็กและผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่สามารถรวมตัวกันกับเพื่อนๆที่มีลูก หรือนัดแนะกันกับผู้ปกครองในกรุ๊ปไลน์ชั้นเรียนของลูกก็ได้ หากหลายๆบ้านสนใจเหมือนกันก็จองไปด้วยกันทั้งกลุ่มได้เลย โดยติดต่อโดยตรงกับครูมีโชคเพื่อทราบตารางจัดกิจกรรมของบ้านหอมชื่น

Image: thaihealth.or.th

เบอร์ติดต่อ: ครูมีโชค 081-308-1918 และ 02-976-2064, 085-930-4216

ที่ตั้ง: 1/9 ม.1 ต.บ่อเงิน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี

พิกัด GPS: 14.075351, 100.422721

เวลาเปิด-ปิด: เปิดทุกวัน 09.00 – 15.30 น.

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th