ทำไมอยู่ ๆ ลูกก็ “พูดคำหยาบ” ?
เหตุใดลูกของคุณถึง “พูดคำหยาบ” แน่นอนว่าเมื่อได้ยินครั้งแรกคุณอาจจะรับไม่ค่อยได้ คำถามที่ตามมาก็คือ คุณสามารถทำอะไรได้บ้างเพื่อที่จะหยุดมัน อย่าเพิ่งสิ้นหวังไปค่ะ วันนี้คุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกว่าทำไมพวกเขาถึงเลือกใช้คำพวกนั้น และวิธีการกับกฎพื้นฐานง่าย ๆ ไม่กี่ข้อที่จะช่วยลูกรักของคุณ ‘ล้างปากกระโถน’ รวมทั้งปรับใช้คำพูดคำจาของพวกเขาเสียใหม่ (โดยที่ไม่ต้องดราม่าให้วุ่นวาย)
พฤติกรรมนี้มาจากไหน ?
ดร. ฟรานซิส คอมป์ตัน ศาสตราจารย์ด้านจิตวิทยาจากนิวยอร์ก ซึ่งใช้เวลาศึกษาและทำความเข้าใจพฤติกรรมทางสังคมของวัยรุ่นมากกว่า 30 ปี กล่าวว่า “คนหนุ่มสาวจำนวนมากพูดคำหยาบเพื่อแสดงระดับวุฒิภาวะของตน”
“เด็กและเยาวชนหลงผิดคิดว่าการแสดงออกทางวาจานั้นเป็นเครื่องหมายของคนที่โตแล้ว พวกเขาเชื่อโดยสุจริตว่าพวกเขาดูโตหากพวกเขาใช้คำที่มักเกี่ยวข้องกับผู้ใหญ่” เขาอธิบาย
คอมป์ตันยังพบว่าการใช้คำหยาบคายไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะกับเด็กที่ไม่ได้รับการอบรมบ่มนิสัยมาอย่างดีเท่านั้น อันที่จริงแล้ว มันไม่ได้แตกต่างกันมากนักจากพื้นที่ชนบท ในเมือง หรือชานเมือง ในการศึกษาปี 2543 คอมป์ตันพบว่าเด็กส่วนใหญ่ในสภาพแวดล้อมเหล่านี้ยอมรับว่าใช้คำหยาบคายอย่างน้อยวันละ 3 ครั้ง
นิยามของคำหยาบคาย
เห็นได้ชัดว่าเด็ก ๆ มีความคิดที่แตกต่างกันเกี่ยวกับภาษาที่หยาบคาย
“คนส่วนใหญ่อ้างว่าการใช้คำสบถเล็กน้อยหรือปานกลาง ซึ่งมักได้ยินทางโทรทัศน์นั้น แท้จริงแล้วไม่ใช่การสบถ” คอมป์ตันกล่าว “อันที่จริง หลายคนรู้สึกว่าคำแสลงหรือคำหยาบคายที่ได้ยินทางโทรทัศน์เป็นเรื่องปกติและเป็นที่ยอมรับของการใช้ภาษาในชีวิตประจำวัน”
ครอบครัวของเมลิซ่า รี้ด ก็เป็นหนึ่งในนั้น เธอต้องตะลึงกับสิ่งที่ได้ยินว่าลูกสาววัย 12 ขวบบ่นพึมพำกับตัวเองอย่างน่ารังเกียจเมื่อเธอพยายามแก้โจทย์การบ้านเลข เธอจึงถามทิฟฟานีทันทีเกี่ยวกับการเลือกใช้คำของลูก
“ฉันจะไม่มีวันลืมคำตอบของเธอ” รี้ด จากเมืองอิธากา รัฐนิวยอร์ก กล่าว “เมื่อเธอพูดว่า ‘ไม่มีอะไรมากแม่ ไม่ใช่ว่าหนูสบถจริง ๆ ซะหน่อย’ ฉันสงสัยว่าฉันล้มเหลวในการปลูกฝังค่านิยมที่ดีได้อย่างไร”
คำหยาบบางคำถือเป็นคำหยาบคายในวัฒนธรรมของเราในระดับสากล แต่คำอื่น ๆ มีขอบเขตกว้างกว่านั้น โดยเฉพาะกับเยาวชน สื่อสามารถทำให้ภาพมันเบลอสำหรับเด็กก่อนวัยรุ่นและวัยรุ่น
นั่นเป็นเหตุผลที่พ่อแม่ต้องตั้งมั่นว่าสิ่งใดที่เป็นและไม่ถือว่าเป็นคำหยาบในบ้านของพวกเขา การกำหนดกฎเกณฑ์ที่ชัดเจนเป็นขั้นตอนแรกในการควบคุมคำพูดที่หยาบคาย
เมื่อไรและทำไม
“วัยรุ่นถือเอาคำหยาบคายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต” เบรนท์ เพิร์ลแมน นักสังคมสงเคราะห์จากลิเบอร์ตีวิลล์ อิลลินอยส์ กล่าว “ในฐานะพ่อแม่ เราสามารถช่วยให้พวกเขาเรียนรู้วิธีแสดงออกและพัฒนาวุฒิภาวะที่ดีขึ้นได้”
ขั้นตอนต่อไปในการ ‘ทำความสะอาด’ การพูดคุยของวัยรุ่นก็คือการรับฟังลูกวัยรุ่นของคุณ “เมื่อคุณมั่นใจว่าสถานการณ์และสภาพแวดล้อมใดที่เขามักจะพูดคำหยาบ คุณจะสามารถช่วยเขาหาทางเลือกอื่นในการแสดงออก” เขากล่าวเสริม
ตัวอย่างเช่น หากลูกวัยรุ่นของคุณคิดว่ามันเจ๋งที่จะพูดจาหยาบคายในการสนทนา ก็ช่วยเขาหรือเธอให้ตระหนักว่ามันไม่ใช่ การสบถทำให้คนพูดดูควบคุมไม่อยู่ หยาบคาย ไม่ยี่หระ และนิสัยไม่ดีแน่นอน
ส่งเสริมให้วัยรุ่นคิดหาวิธีอื่นในการแสดงออก หากลูกวัยรุ่นของคุณอ้างถึงเพื่อนร่วมชั้นที่ไม่ชอบว่าเป็น ‘ไอ้งี่เง่า ให้ถามเขาว่าเขาไม่ชอบอะไรเกี่ยวกับบุคคลนั้น หากเพื่อนของเขาชอบทำบูดบึ้ง ทำตัวหัวสูง ก็ไม่เป็นไร คำนั้นก็ดูเหมาะสมอยู่ นอกจากจะช่วยขัดเกลาคำพูดแล้ว การให้คำอธิบายยังเปิดเผยมากกว่าการใช้คำหยาบคายทั่ว ๆ ไป
ตัวช่วยยับยั้ง
ผู้เชี่ยวชาญอย่างเพิร์ลแมนยังแนะนำให้ผู้ปกครองจำลองภาษาที่พวกเขาคาดหวังให้บุตรหลานใช้ “การเสริมสร้างการแสดงออกในเชิงบวกของอารมณ์ต่างๆ ทำให้วัยรุ่นรู้ว่ามีอีกวิธีหนึ่งที่จะพูดในสิ่งเดียวกัน” เพิร์ลแมนกล่าว
แน่นอน ความคับข้องใจกับการจราจรที่ติดขัดหรือการทำลูกพีชกระป๋องหล่นใส่เท้าของคุณอาจทำให้คนเราเลือกใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสม แต่ถ้าคุณพลาดพลั้งไป จงยอมรับมัน
นอกจากนี้ การช่วยให้ลูกวัยรุ่นของคุณตระหนักว่าการกระทำทั้งหมดของเขามีผลตามมา รวมถึงการสบถด้วย ซึ่งเป็นตัวช่วยอีกประการหนึ่งเช่นกัน
หากลูกวัยรุ่นของคุณต้องจ่ายค่าปรับตามที่กำหนดไว้สำหรับการพูดคำหยาบคายทุกครั้ง เขาอาจคิดทบทวนใหม่เกี่ยวกับการใช้เงินที่เก็บมาอย่างยากลำบากไปกับการด่าว่า
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th