รับบุตรบุญธรรม เขาทำกันอย่างไร ?
สำหรับคู่รักที่แต่งงานกันมานานแล้ว แต่ก็ยังไม่ตั้งครรภ์สมใจเสียที บางครั้งการ “รับบุตรบุญธรรม” ก็อาจเป็นทางเลือกหนึ่งที่อยู่นอกเหนือไปจากการทำ IVF หรือการทำเด็กหลอดแก้ว เรียกได้ว่าเป็นทางออกของคนมีลูกยากที่นิยมทำกันมากพอสมควรไม่ว่าจะในต่างประเทศหรือในไทยเรา แต่มันไม่ได้ง่ายเพียงแค่คุณเดินทางไปยังบ้านเด็กกำพร้าหรือสถานสงเคราะห์ต่าง ๆ เพื่อเลือกรับเด็กมาเท่านั้นนะคะ มันต้องทำเรื่องให้ถูกต้องตามกฎหมายเสียก่อน ซึ่งในโอกาสที่วันนี้เป็นวันรับบุตรบุญธรรมโลก Motherhood จึงนำเอารายละเอียดในการเดินเรื่องมาฝากกันค่ะ
เงื่อนไขของผู้รับบุตรบุญธรรม
- ผู้รับบุตรบุญธรรมจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 25 ปี และที่สำคัญต้องมีอายุแก่กว่าเด็กอย่างน้อย 15 ปี
- เป็นคนสัญชาติไทย ที่มีภูมิลำเนาอยู่ในประเทศไทย
- ต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
- มีสุขภาพร่างกายสมบูรณ์ รวมไปถึงสุขภาพทางใจด้วย
- ต้องเป็นผู้ที่ไม่ไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ
- ไม่เป็นบุคคลล้มละลาย ตามมาตรา 1587 แห่งประมวลกฎหมายทางแพ่งและพาณิชย์
- เป็นผู้ที่มีรายได้อยู่ในเกณฑ์ที่จะสามารถเลี้ยงดูเด็กให้มีคุณภาพความเป็นอยู่ที่ดีได้ ควรมีฐานะที่มั่นคง มีรายได้ที่แน่นอน เพื่อที่จะไม่มีปัญหาเรื่องค่าใช้จ่ายการลี้ยงดูหรือสนับสนุนการศึกษาของเด็ก
- มีเวลามากพอสำหรับการดูแลเอาใจใส่เด็ก
- ไม่เคยเป็นผู้ต้องโทษหรือจำคุก จากการกระทำผิดอาญา เว้นแต่จะเป็นโทษประเภทกระทำโดยประมาท หรือความผิดลหุโทษ
- ผ่านการทดลองเลี้ยงดูเด็กครบตามกำหนดอย่างน้อย 6 เดือน ภายใต้การสังเกตกาณ์ของเจ้าหน้าที่ เว้นแต่ผู้ขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมเป็นญาติสืบสายโลหิตโดยตรงกับเด็ก
- เป็นครอบครัวที่อบอุ่น สมบูรณ์ และมีความสัมพันธ์ในครอบครัวที่ดี
- มีที่อยู่อาศัยเป็นหลักแหล่ง และถูกสุขลักษณะ
- ต้องไม่มีบุตรของตนเองหรือมีเด็กในความอุปการะจำนวนมากเกินไป เพื่อที่คุณจะสามารถดูแลเด็ก ๆ ทุกคนได้อย่างเต็มที่
เงื่อนไขของผู้ที่จะเป็นบุตรบุญธรรม
- ตัวเด็กจะต้องมีอายุไม่ต่ำกว่า 15 ปี และเด็กจะต้องมีความยินยอมอยากเป็นบุตรบุญธรรมด้วยตนเอง
- ผู้เป็นบุตรบุญธรรมที่ยังเป็นผู้เยาว์จะต้องได้รับความยินยอมจากพ่อแม่หรือผู้ปกครองของเด็กก่อน
- หากผู้เป็นบุตรบุญธรรมมีคู่สมรสจะต้องได้รับความยินยอมจากคู่สมรสก่อน
- กรณีที่ผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรมของคนอื่นอยู่ จะไม่สามารถเป็นบุตรบุญธรรมของผู้อื่นซ้ำซ้อนได้
ขั้นตอนการจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม
ผู้ที่สนใจจะรับเด็กมาเป็นบุตรบุญธรรมจะต้องผ่านขั้นตอนของคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมก่อน ซึ่งมีดังต่อไปนี้
- กรณีที่ผู้รับมีภูมิลำเนาอยู่ในกรุงเทพมหานครหรือต่างประเทศ จะต้องไปยื่นคำขอพร้อมหนังสือแสดงความยินยอมของผู้มี่มีอำนาจได้ที่ ศูนย์อำนวยการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม กรมกิจการเด็กและเยาวชน ณ ตึก 60 ปี กรมประชาสงเคราะห์ ชั้น 2 ตั้งอยู่ภายในสถานสงเคราะห์เด็กหญิงบ้านราชวิถี
- กรณีที่คุณมีภูมิลำเนาอยู่ในต่างจังหวัด จะต้องไปยื่นคำขอพร้อมหนังสือแสดงความยินยอมของผู้มี่มีอำนาจได้ที่ สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประจำจังหวัดนั้น ๆ
เมื่อคณะกรรมการรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมอนุมัติให้คุณสามารถรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ ให้คุณนำหนังสือแจ้งคำอนุมัติที่ได้ไปร้องขอการจดทะเบียนรับบุตรบุญธรรม ณ ที่ว่าการอำเภอ กิ่งอำเภอ หรือเขตที่ไหนก็ได้
หลักฐานและเอกสารที่ต้องใช้
- สำเนาทะเบียนบ้านของคุณและคู่สมรส คนละ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนของตัวเด็กเองและของพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็ก คนละ 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของคุณและคู่สมรส คนละ 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนของพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็ก และของเด็ก (หากเด็กมีอายุ 7 ปีขึ้นไปต้องใช้บัตรประจำตัวประชาชนด้วย) คนละ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนสมรสของคุณ 1 ฉบับ
- สำเนาทะเบียนสมรสหรือทะเบียนหย่าของพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็ก หากพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กไม่ได้จดทะเบียนสมรส ให้ใช้ทะเบียนรับรองบุตร 1 ฉบับ
- ใบรับรองแพทย์ของคุณและคู่สารส เพื่อแสดงว่ามีความพร้อมทั้งด้านสุขภาพร่างกายและจิตใจหรือไม่ โดยจะเป็นผลการตรวจสภาพจิตตามกระบวนการทดสอบทางจิตวิทยา (มีอายุไม่เกิน 6 เดือน)
- ในกรณีที่คุณต้องการขอรับเด็กมาเลี้ยงจากกรมกิจการเด็กและเยาวชน เนื่องจากคุณไม่สามารถมีลูกได้ คุณจะต้องนำหลักฐานทางการแพทย์หรือใบรับรองแพทย์มายืนยันด้วย
- ผลการตรวจสอบประวัติอาชญากรรม
- รูปถ่ายหน้าตรง ขนาด 2 นิ้วเท่านั้น คนละ 1 รูป ทั้งของคุณกับคู่สมรส ของเด็ก และของพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็ก โดยเป็นรูปที่ถ่ายไว้ไม่เกิน 6 เดือน กรณีเป็นเด็กอายุตั้งแต่แรกเกิด – 5 ปี อนุโลมให้ใช้รูปขนาดโปสการ์ดได้
- สูติบัตรของเด็ก
- สำเนาหลักฐานการเปลี่ยนชื่อ-สกุลของคุณหรือคู่สมรส (ถ้ามี) 1 ฉบับ
- สำเนาใบมรณะบัตรในกรณีที่คู่สมรสของพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กเสียชีวิต 1 ฉบับ
- สำเนาบัตรประจำตัวประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้าน อย่างละ 1 ฉบับ ของผู้รับรอง 1 คน ซึ่งผู้รับรองต้องรู้จักกับตัวคุณ เช่น ญาติพี่น้อง เพื่อน หรือหัวหน้างาน โดยที่ผู้รับรองไม่ต้องมาด้วยในวันที่คุณนำคำร้องมายื่น แค่ต้องรับรองสำเนาเอกสารของตนเองให้ครบ
- กรณีที่คุณมีสัญชาติไทย ไม่ได้ถือ Citizen ของประเทศอื่น แต่คุณทำงานและอาศัยอยู่ต่างประเทศ ให้นำสำเนาหนังสือเดินทาง หนังสืออนุญาตทำงาน หนังสือรับรองการทำงานและรายได้ และทำหนังสือขอความร่วมมือเยี่ยมบ้านในต่างประเทศ โดยต้องระบุสถานทูตหรือสถานกงสุลไทยที่ใกล้ที่อยู่ของตน และยินยอมจ่ายค่าใช้จ่ายทั้งหมดที่จะเกิดขึ้นในการติดตามเยี่ยมบ้านและติดตามการทดลองเลี้ยงดูเด็ก (กรณีต้องทดลองเลี้ยงดูเด็กตามกฎหมาย) และหลักฐานที่เป็นภาษาต่างประเทศต้องแปลเป็นภาษาไทยอย่างถูกต้องและได้รับการรับรอง
- หากคุณและคู่สมรสไม่ได้จดทะเบียนสมรสกัน แต่อยู่กินร่วมกันฉันท์สามีภรรยา คู่สมรสของคุณไม่สามารถขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมร่วมได้ และต้องลงนามในเอกสารคำร้องขอรับเด็ก พร้อมแนบเอกสารหลักฐานดังที่กล่าวมาข้างต้น
- เอกสารหลักฐานของทุกคน ยกเว้นของผู้รับรอง ให้นำฉบับจริงมาแสดงด้วย ในวันที่นำคำร้องขอรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมมายื่น
สิทธิตามกฎหมายของเด็กเมื่อได้เป็นบุตรบุญธรรม
การจดทะเบียนรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมนั้น ตามกฎหมายแล้วจะให้สิทธิคุ้มครองเด็กให้มีฐานะเหมือนเป็นบุตรที่ชอบด้วยกฎหมายของคุณโดยทันทีนับแต่วันที่จดทะเบียน เช่น สามารถใช้นามสกุลของคุณได้ ตัวเด็กมีสิทธิได้รับมรดก แต่สำหรับตัวคุณเองนั้นไม่มีสิทธิที่จะมารับมรดกของเด็ก หากเด็กยังมีครอบครัวที่แท้จริงอยู่ ตัวเด็กเองก็ยังไม่ได้เสียสิทธิที่ควรได้หรือพึงมีตามกฎหมายจากครอบครัวเดิมไป เช่น เด็กยังสามารถได้รับมรดกจากพ่อแม่ที่แท้จริงได้ และพ่อแม่ที่แท้จริงก็ยังมีสิทธิ์ในการไปมาหาสู่หรือมาเยี่ยมกันได้ตามสมควร
นอกจากนี้กฎหมายยังคุ้มครองเด็ก โดยที่ผู้จะรับบุตรบุญธรรมจะไม่สามารถเลิกรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรม นอกเสียจากจะได้รับความยินยอมจากพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กก่อน และพ่อแม่ที่แท้จริงของเด็กก็สามารถฟ้องให้เลิกรับเด็กเป็นบุตรบุญธรรมได้ หากเกิดเหตุอันไม่ควร
หากคุณมีข้อสงสัยเพิ่มเต็ม ก็สามารถสอบถามรายละเอียดได้จาก กรมกิจการเด็กและเยาวชน ที่หมายเลขโทรศัพท์ 0 2255 5850-7 หรือ 0 2253 9116-7 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์ dcy.go.th ก็ได้เช่นกัน
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th