Site icon Motherhood.co.th Blog

ทำไงดี เมื่อลูกเปรียบเทียบ “วิธีเลี้ยงลูก” ของบ้านเรากับบ้านเพื่อน

วิธีเลี้ยงลูกที่แตกต่างกัน

ทำไงดี เมื่อลูกเปรียบเทียบวิธีการเลี้ยงของเรากับของเพื่อนลูก

ทำไงดี เมื่อลูกเปรียบเทียบ “วิธีเลี้ยงลูก” ของบ้านเรากับบ้านเพื่อน

โลกเราไม่ได้มีอะไรเป็นสูตรสำเร็จไปเสียทุกสิ่ง ซึ่งนั่นก็รวมไปถึง “วิธีเลี้ยงลูก” ด้วยเช่นกัน และตัวเลือกต่าง ๆ ของการเป็นพ่อแม่ของเราเป็นตัวแทนที่สำคัญในการสะท้อนตัวตนของเรา แต่ในบางครั้งลูกของเราอาจจะเกิดความรู้สึกเปรียบเทียบได้ และมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดอะไร บทความนี้จะอธิบายว่าครอบครัวต่าง ๆ มีกฎแตกต่างกันและกฎของคุณนั้นขึ้นอยู่กับสิ่งที่คุณเชื่อว่าดีที่สุด

ความเป็นจริงก็คือรูปแบบการเป็นพ่อแม่ของเราเป็นส่วนหนึ่งของตัวตนของเรา รวมถึงการเป็นคนที่ในแบบที่เราเลือกที่จะเป็นในโลกใบนี้ และคนในแบบที่เราต้องการให้ลูกของเราเป็น แม้ว่าเราจะรู้ว่าลูก ๆ ของเราเป็นตัวของตัวเอง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้ความรู้สึกว่าพวกเขาคือสัญลักษณ์ของการทำหน้าที่พ่อแม่ได้ดีแค่ไหนนั้นหายไป

ความเข้มงวดเรื่องมารยาทก็เป็นหนึ่งในแนวทางการเลี้ยงลูก

ความยุ่งยากใจนี้อาจเกิดขึ้นได้ นอกเหนือจากหมวดหมู่ของการอบรมเลี้ยงดูลูกที่ศึกษากันในวงกว้างมานานหลายทศวรรษ รวมไปถึงการวิจัยทางจิตวิทยาซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั่วไปแล้วมีข้อความมากมายเกี่ยวกับการเป็นผู้ปกครองที่ดี และแม้จะมีผู้เชี่ยวชาญและแนวทางสำหรับการเลี้ยงดูเด็กเยอะแยะมากมาย แต่ก็ไม่มีวิธีใดที่เหมาะกับทุกครอบครัว

ทำไมต้องเป็นวิธีเลี้ยงลูกของคุณ ?

ในหลาย ๆ ครอบครัวมักให้ความสำคัญกับกิจวัตรและโครงสร้างเพราะเขาคิดว่ามันช่วยให้เด็ก ๆ ของเรามีภาพรวมที่ดีขึ้น แต่อีกหลายครอบครัวมีสไตล์ที่ผ่อนคลายมากและทุกคนก็ดูดีและมีความสุข ซึ่งมันแตกต่างจากแนวทางของเขาอย่างสิ้นเชิง

บางครั้งคนเราก็ลืมว่าทำไมเราถึงทำสิ่งต่าง ๆ นั่นเป็นเพราะเราทำมันจนกลายเป็นนิสัย ซึ่งค่านิยมของเรานั่นเองที่ผลักดันให้เรามีพฤติกรรมเช่นนั้น ลองคิดเกี่ยวกับค่านิยมที่คุณยึดถือว่ามันมีความสำคัญต่อคุณในฐานะส่วนหนึ่งของการเลี้ยงดูลูก และดูว่าพฤติกรรมของคุณตรงกับค่านิยมเหล่านั้นหรือไม่ การได้ทบทวนความคิดเช่นนี้จะเสริมความตั้งใจของคุณ ในการรักษาสไตล์การเลี้ยงที่แตกต่างไปจากสิ่งที่เพื่อนของลูกคุณได้รับ หรือคุณอาจเล็งเห็นโอกาสที่จะเปลี่ยนพฤติกรรมบางอย่างในทางที่ยังคงสอดคล้องกับค่านิยมของคุณ

ลดการเปรียบเทียบลง

หากความกังวลของลูกคุณคือการได้เฝ้ามองเด็กที่อายุไล่เลี่ยกันมีอิสระที่มากกว่าและมีข้อจำกัดที่น้อยกว่า วิธีการที่แตกต่างเหล่านี้จะส่งผลกระทบต่อความมั่นใจของลูกคุณอย่างไม่ต้องสงสัย มันเป็นความจริงที่เด็ก ๆ เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเปรียบเทียบ เพราะนี่เป็นส่วนหนึ่งของการพัฒนาด้านสังคม เมื่อพวกเขาโตขึ้นพวกเขาจะตระหนักถึงความคล้ายคลึงและความแตกต่างมากขึ้น และเป็นเรื่องปกติที่พวกเขาจะต้องการมีส่วนร่วมอย่างกลมกลืน โดยเฉพาะในช่วงวัยประถม

หากลูกของคุณถามว่าทำไมผู้ปกครองคนอื่นถึงไม่เข้มงวด คุณสามารถอธิบายได้ว่าแต่ครอบครัวมีกฎระเบียบที่แตกต่างกันและมีทางเลือกต่าง ๆ เกี่ยวกับการเลี้ยงลูก คุณมีกฎเพราะมีสิ่งที่คุณให้คุณค่ากับครอบครัวของคุณ และเป็นสิ่งที่คุณเชื่อว่าดีที่สุดสำหรับเด็ก

เมื่อลูก ๆ ของบ่นว่าพ่อแม่ “เข้มงวดมาก” เกี่ยวกับสิ่งที่พวกเขาดูในทีวีและวิธีที่คุณไม่อนุญาตให้สื่อโซเชียล คุณควรอธิบายว่าเป็นการตัดสินใจของพวกคุณ และได้ทำเพื่อปกป้องพวกเขาจากเนื้อหาที่ออกแบบมาสำหรับผู้ใหญ่ ครอบครัวเพื่อนของพวกเขามีกฎที่แตกต่างกันซึ่งทำให้ลูก ๆ รู้สึกว่าถูกทอดทิ้ง แต่คุณต้องยึดติดกับตัวเลือกของสำหรับครอบครัวของคุณ

ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณและคู่มีสไตล์การเลี้ยงลูกที่ต่างกัน

เมื่อความแตกต่างซ่อนอยู่ภายใน

ไม่ใช่เรื่องแปลกอีกเช่นกันหากคุณและคู่ของคุณจะมีความแตกต่างในสไตล์การเลี้ยงดู ซึ่งเท่ากับสร้างความซับซ้อนให้เพิ่มขึ้นไปอีก ความแตกต่างเหล่านี้มีแนวโน้มที่จะเกิดขึ้นเร็วและควรได้รับการแก้ไขโดยเร็วที่สุด แนวทางที่ไม่สอดคล้องกันระหว่างผู้ปกครองของเด็กเป็นต้นตอหนึ่งของปัญหา และพวกเด็ก ๆ ก็จะเรียนรู้วิธีการใช้ประโยชน์จากความไม่สอดคล้องกันเหล่านี้ เพื่อผลประโยชน์ของพวกเขา ซึ่งมันก็ยิ่งทำให้งานของคุณยากขึ้นมาก คู่การเลี้ยงดูที่มีความแตกต่างจำเป็นต้องมีการอภิปรายเกี่ยวกับสาเหตุและวิธีการ จากนั้นจึงหาจุดร่วมและประนีประนอมร่วมกัน

เพิ่มความยืดหยุ่น

คุณจะต้องเว้นช่องว่างเอาไว้สำหรับตรวจสอบและวิเคราะห์ตัวเลือกของการอบรมเลี้ยงดู ที่ว่างย่อมมีเสมอเพื่อสร้างความยืดหยุ่น หากลูกขอร้องว่าอยากใช้ TikTok คำตอบแรกของพ่อแม่โดยปกติก็คือไม่ แต่คุณสามารถประนีประนอมกับลูกได้โดยอนุญาตให้ใช้ TikTok เวอร์ชั่นที่จำกัด ตั้งค่าผ่านแอพโดยใช้วันเกิดและ Parents control นอกจากนี้ยังช่วยให้คุณสามารถพูดคุยอย่างเกี่ยวกับข้อกังวลด้านความปลอดภัยออนไลน์กับลูกของคุณด้วย

ความยืดหยุ่นเป็นเรื่องเกี่ยวกับการค้นหาจุดกลางที่มีความสุข ระหว่างการรักษาหลักการการเลี้ยงดูลูกและการเปิดใจเกี่ยวกับวิธีการอื่น ๆ ในการเป็นพ่อแม่ที่เหมาะสมกับลูกของคุณในบริบทต่าง ๆ กันไป ลองพิจารณาดูว่ามีบางเวลาที่กฎของคุณอาจอ่อนลงสักหน่อย อาจไม่ใช่เวลาที่จะต้องเป็นคนเข้มงวด ถ้ามันหมายความว่าลูกของคุณจะได้เข้ากลุ่มและมีพรรคพวก คุณอาจจะยังคงไม่อนุญาตให้ลูกวิ่งไปรอบ ๆ เมื่ออยู่ในร้านอาหาร แต่อาจมีการตั้งค่าในโอกาสต่าง ๆ ที่จะคลายตัวได้เล็กน้อย โดยให้มันยังอยู่ในทางที่ไม่ลดทอนคุณค่าและความเชื่อของคุณ

การให้ลูกใช้โซเชียลมีเดียภายใต้การควบคุมของคุณก็เป็นความยืดหยุ่น

เป็นตัวอย่าง

ในฐานะพ่อแม่ เราสามารถเป็นแบบอย่างให้กับลูกหลานของเรา ว่าเราจะมั่นใจในความแตกต่างได้อย่างไร แม้ว่าลูกของคุณอาจไม่เห็นคุณค่าความเชื่อมั่นของคุณไปเสียทุกช่วงเวลา แต่ก็แสดงให้เขาเห็นถึงวิธีที่จะยืนหยัดอย่างมั่นคง แม้ว่าเขาจะยังมีการเปรียบเทียบกับครอบครัวอื่น การตั้งค่าตัวอย่างเช่นนี้อาจทำให้ลูกมั่นใจมากกว่าการเปลี่ยนตัวเองให้เป็นพ่อแม่ในแบบที่ไม่ใช่ตัวคุณ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th