เด็กดื่มชากาแฟได้มั้ย ?
ไม่ใช่เรื่องแปลกที่เด็กจะดื่มชาหรือกาแฟในบางโอกาส แต่พ่อแม่หลายคนก็ยังคาใจกันอยู่ว่าตกลงแล้ว “เด็กดื่มชากาแฟได้มั้ย” มันส่งผลเสียต่อสุขภาพเด็กมากแค่ไหน เพราะเด็ก ๆ ชอบเครื่องดื่มกาแฟแบบของหวานที่มีวิปครีม ช็อคโกแลต และน้ำเชื่อมคาราเมล ซึ่งเป็นที่นิยมมากในทุกวันนี้ แต่ปริมาณคาเฟอีนก็เป็นปัญหาด้านสุขภาพที่ใหญ่ที่สุดอย่างหนึ่งสำหรับเด็ก
อันตรายจากกาแฟและชาที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก
กาแฟและชามีคาเฟอีน ซึ่งเป็นสิ่งที่เสพติดได้ เป็นสารกระตุ้น ดังนั้น แม้ว่าในผู้ใหญ่ที่บริโภคในปริมาณปานกลางจะถือว่าปลอดภัยตามมาตรฐานองค์การอาหารและยา แต่ก็สามารถส่งผลต่อระบบประสาท สมอง และอวัยวะอื่น ๆ ได้
อาการเมื่อได้รับคาเฟอีนมากเกินไป
คาเฟอีนที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้
- อยู่ไม่สุก
- นอนไม่หลับ
- กระวนกระวายใจ/วิตกกังวล
- ความวิตกกังวล
- ปวดท้อง
- ปวดศีรษะ
- อารมณ์เเปรปรวน
- ฟันผุ
- ตั้งสมาธิลำบาก
- เบื่ออาหาร
- อัตราการเต้นของหัวใจเพิ่มขึ้น
โปรดทราบว่าในเด็กเล็ก อาการจากคาเฟอีนจะเกิดขึ้นกับกาแฟหรือชาเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
ผลของการใช้คาเฟอีนในปริมาณมาก
การบริโภคคาเฟอีนในปริมาณมากอาจทำให้เกิดอาการรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งรวมถึง
- คลื่นไส้และอาเจียน
- ท้องเสีย
- หน้าแดง
- กระสับกระส่ายสุดขีด
- ปัสสาวะบ่อย
- การถอนยา
เด็กยังสามารถสัมผัสกับความเป็นพิษของคาเฟอีน (คล่ายการใช้ยาเกินขนาด) ซึ่งอาจนำไปสู่อาการชักและภาวะหัวใจหยุดเต้น
แนวทางการบริโภคที่เหมาะสมตามวัย
ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนเกี่ยวกับอายุอันเหมาะสมที่เด็ก ๆ สามารถดื่มกาแฟหรือชาได้ แต่มีงานวิจัยที่ระบุว่าให้เอา 2.5 คูณน้ำหนักตัวเด็ก เช่น เด็กหนัก20กิโล ถ้ากินคาเฟอีนเข้าไป 50 มก. ถือว่าแย่แล้ว สามารถเกิดโทษต่อร่างกายได้
คาเฟอีนสำหรับเด็กอายุมากกว่า 12 ปี
กาแฟ 3-5 ถ้วยซึ่งมีคาเฟอีนประมาณ 400 มก. ปลอดภัยสำหรับผู้ใหญ่ แต่ไม่มีแนวทางดังกล่าวสำหรับเด็ก ทางสมาคมกุมารแพทย์แห่งอเมริกายึดมั่นในจุดยืนที่เด็กอายุต่ำกว่า 12 ปีไม่ควรดื่มคาเฟอีน ในขณะที่เด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปสามารถดื่มคาเฟอีน 85-100 มก. ต่อวัน ซึ่งเท่ากับกาแฟหรือชา 1 ถ้วยขนาดแปดออนซ์
แล้วเครื่องดื่มแบบ Decaf ละ ?
มีแนวโน้มมากที่สุดว่าไม่มีปัญหาสุขภาพสำหรับเด็ก (ทุกวัย) ที่จะดื่มเครื่องดื่มสกัดคาเฟอีนเป็นครั้งคราว เมื่อเปรียบเทียบ กาแฟสกัดคาเฟอีน 8 ออนซ์มีคาเฟอีนประมาณ 3 มก. ในขณะที่โค้กกระป๋อง 12 ออนซ์มี 34 มก. ดังนั้น หากลูกของคุณขอมอคค่าแฟรบปูชิโน ให้เลือกแบบ Decaf แทน
ปริมาณคาเฟอีนในกาแฟและชา
ปริมาณคาเฟอีนต่าง ๆ ได้แก่
- กาแฟ 1 ถ้วยแปดออนซ์ มีคาเฟอีนประมาณ 95-200 มก. ขึ้นอยู่กับวิธีการเตรียมและเวลาในการต้ม
- ชาเขียวและชาดำมีคาเฟอีนประมาณ 30 มก.
- กาแฟที่สกัดคาเฟอีนจริง ๆ แล้วมีคาเฟอีนในปริมาณเล็กน้อย ประกอบด้วยคาเฟอีน 2-3 มก.
- ชาสมุนไพรไม่มีคาเฟอีน
แง่บวกบางประการของชา
- ชาที่ดีที่สุดสำหรับการรักษาความวิตกกังวลในเด็ก ได้แก่ ดอกเสาวรส และดอกคาโมไมล์
- ชาอุ่นสามารถช่วยให้อาการจุกเสียดในทารกได้ ชาที่ดีที่สุดสำหรับอาการจุกเสียดคือเม็ดยี่หร่าและคาโมไมล์ซึ่งปราศจากคาเฟอีน
- แม้ว่าจะมีคาเฟอีน แต่ชาเขียวสำหรับเด็กอายุมากกว่า 12 ปีก็มีประโยชน์ ชาเขียวมีสารคาเทชิน ซึ่งช่วยฆ่าเชื้อโรค เพิ่มสมาธิ ช่วยเรื่องสุขอนามัยในช่องปาก และยังช่วยให้หัวใจแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง
หากลูกของคุณต้องการเริ่มดื่มกาแฟหรือชา แนะนำว่าช่วงเวลาที่ดีที่สุดสำหรับพวกเขาในการเริ่มต้นคือช่วงสิ้นสุดของวัยรุ่น ตอนอายุประมาณ 18 ปี ซึ่งเป็นช่วงที่การเติบโตและการพัฒนาช้าลง สำหรับเด็กที่ดื่มชา ชาสมุนไพรที่ปราศจากคาเฟอีนสามารถมอบให้กับเด็กที่มีอายุ 4-10 ปีได้ ควรให้ชาดำและชาเขียวแก่เด็กอายุมากกว่า 12 ปีเท่านั้น เมื่อให้ชาที่มีคาเฟอีนแก่เด็ก ให้ชงชาอ่อน ๆ ก็พอโดยทั่วไป
ผลของคาเฟอีนต่อเด็กนั้นเป็นผลทางลบและไม่แนะนำให้เด็กดื่ม ทางที่ดีควรหลีกเลี่ยงการให้คาเฟอีนกับลูก ๆ ของคุณ หรืออย่างน้อยควรตรวจสอบปริมาณคาเฟอีนของเด็ก ๆ โดยขึ้นอยู่กับอายุ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th