เรียนรู้วิธี “เปิดตัวแฟนใหม่กับลูก”
เมื่อคุณมีคนพิเศษคนใหม่เข้ามาในชีวิตหลังจากที่เลิกรากับพ่อหรือแม่ของลูกไปพักใหญ่ และคุณต้องการที่จะ “เปิดตัวแฟนใหม่กับลูก” ซึ่งมันก็ดี แต่ยังมีอะไรอีกมากที่คุณจะต้องพิจารณาเพื่อจะเริ่มดำเนินการในขั้นต่อไป
หากคุณกำลังมีความสัมพันธ์ครั้งใหม่ในฐานะพ่อหรือแม่เลี้ยงเดี่ยว มันเป็นการง่ายที่คุณจะเครียดกับการแจ้งให้ลูก ๆ ของคุณทราบถึงความสัมพันธ์ครั้งนี้ พวกเขาจะยินดีที่จะมีสมาชิกใหม่มาร่วมโต๊ะอาหารหรือไม่ หรือพวกเขาจะหลบลี้หนีหน้าในทุก ๆ ครั้งที่คนสำคัญของคุณเข้ามาที่บ้าน แน่นอนว่าคุณคงหวังว่าทุกอย่างจะออกมาดี
แต่มันก็เป็นการยากที่จะคาดเดาว่าลูก ๆ ของคุณ ไม่ว่าเขาจะมีอายุเท่าไหร่ก็ตาม จะตอบสนองในทางบวก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในครั้งแรกที่คุณพารักครั้งใหม่ของคุณไปเปิดตัวที่บ้าน ลูกไม่จำเป็นต้องชอบคน ๆ นั้นเพียงเพราะคุณชอบเขา
ข่าวดีก็คือเด็กส่วนใหญ่ปรับตัวเข้ากับการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ เช่นนี้ได้ดี การศึกษาวิจัยชิ้นสำคัญในปี 2545 โดยนักจิตวิทยาพัฒนาการ มาร์วิส เฮเธอริงตัน พบว่าเด็ก 80 เปอร์เซ็นต์จากครอบครัวที่มีการหย่าร้างสามารถปรับตัวให้เข้ากับชีวิตใหม่ได้ดี งานวิจัยยังแสดงให้เห็นว่ามันต้องใช้เวลาสำหรับการพัฒนาความสัมพันธ์กับพ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยง
และการพบกันครั้งแรกนั้นสำคัญมากในการเริ่มต้น ผู้เชี่ยวชาญได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดที่จะนำพาว่าที่พ่อเลี้ยงหรือแม่เลี้ยงมาสู่ชีวิตลูกของคุณ ซึ่งรวมถึงการเตรียมตัวก่อนจะเอ่ยคำทักทายแรก ระหว่างพบเจอ และสถานการณ์หลังจากนั้น
ความสัมพันธ์ที่จริงจังเท่านั้น
คุณไม่สามารถรับประกันได้ว่าอีกฝ่ายจะกลายมาเป็นคู่ครองของคุณจริง ๆ แม้ว่าคุณคิดว่าเลือกคนที่ดีที่สุดแล้วก็ตาม แต่อย่างน้อยควรมั่นใจว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้มีความมั่นคงเสียก่อน การที่มีหลายคนเดินผ่านเข้ามาและผ่านออกไปจากชีวิตของเด็กอาจสร้างความสับสนให้กับพวกเขา
เมื่อมีคนอยู่รอบตัวมากและเด็ก ๆ เริ่มรู้จักพวกเขา ได้ใช้เวลาร่วมกัน และในทันใดคนเหล่านั้นก็หายไปเพราะความสัมพันธ์ไม่ได้ผล มันจะกลายเป็นความสูญเสียสำหรับพวกเด็ก ๆ อีกครั้ง และนี่คือสิ่งที่ท้าทายมากสำหรับคุณ
และมันอาจจะเป็นการสร้างตัวอย่างของการเปลี่ยนความสัมพันธ์ไปเรื่อยให้กับเด็ก แม้ว่าจะไม่ใช่ความตั้งใจของพ่อแม่เลยก็ตาม เพราะเด็กจะเรียนรู้จากสิ่งที่พ่อแม่ทำลงไป ไม่ใช่แค่จากการพูดเท่านั้น
ในทางกลับกัน การแนะนำความสัมพันธ์ครั้งใหม่ไม่ควรทำช้าเกินไป คุณต้องหลีกเลี่ยงการทำให้ลูกของคุณรู้สึกเหมือนเป็นตัวประกอบ แทนที่จะเป็นคนสำคัญของคุณ เมื่อคุณทราบว่าความสัมพันธ์ครั้งนี้จะ “ไปรอด” นั่นเป็นจุดที่เหมาะสมในการแนะนำให้เขาหรือเธอรู้จักกับเด็ก ๆ ไม่ว่าบุคคลผู้นั้นจะเป็นคู่สมรสในอนาคตหรือไม่ก็ตาม
เตรียมลูกให้พร้อมสำหรับผู้ที่กำลังจะมาถึง
เมื่อคุณรู้ว่าคนสำคัญของคุณพร้อมที่จะลงหลักปักฐานกับคุณแล้ว เตรียมลูก ๆ ให้พร้อมสำหรับการพบปะที่กำลังจะมาถึง อาจเริ่มต้นด้วยการทิ้งคำใบ้เล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น “คุณหวังว่าจะได้แต่งงานอีกครั้ง” หรือ “การเป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมันเหงาและคุณต้องการมีคนพิเศษสักคน” ต้องให้แน่ใจว่าคุณมุ่งเน้นไปที่ความต้องการของคุณเอง ในขณะที่ลูกของคุณอาจจะไม่ทราบหรือไม่คิดว่าเขาต้องการมีพ่อหรือแม่เลี้ยง
และให้เด็ก ๆ อยู่ในวงเสมอเมื่อมีการวางแผนถึงการพบปะครั้งใหญ่ครั้งแรก ไม่ว่าจะนัดพบกันที่ไหนก็ตาม อย่าเพิ่งพาเขาหรือเธอมาโดยที่ลูกของคุณไม่รู้ ให้แจ้งกับพวกเขาก่อน แม้ว่าคุณจะบอกว่าเป็นเพียงแค่เพื่อนของคุณที่คุณต้องการให้พวกเขาพบกัน มันเป็นความคิดที่ดีสำหรับพ่อแม่ที่จะพูดอะไรบางอย่างแก่ลูกล่วงหน้า แทนที่จะปล่อยให้เขาเผชิญด้วยตัวเอง
การทำให้เป็นกิจวัตรเป็นสิ่งที่ดี
การจัดการพบปะกันครั้งแรกนั้นมีความสำคัญ บ่อยครั้งที่มันเป็นความคิดที่ดีที่จะทำอะไรบางอย่างที่พวกคุณทำอยู่แล้วตามปกติและเด็ก ๆ จะเพลิดเพลินไปกับมัน ทำอะไรที่เป็นกิจวัตรและมันมักจะทำให้การแนะนำราบรื่น การออกไปกิรอาหารนอกบ้านหรือไปดูหนัง ที่คนสำคัญของคุณสามารถติดไปด้วยได้
แต่ควรหลีกเลี่ยงวันพิเศษ เช่น วันเกิด วันหยุด หรืองานโรงเรียน เพื่อหลีกเลี่ยงการทำลายช่วงเวลาสำคัญ หรือในช่วงเวลาเด็กมีปัญหาที่โรงเรียนหรือมีความเจ็บป่วย การแนะนำคนพิเศษของคุณเป็นสิ่งที่รอได้เพื่อให้เด็กมีอารมณ์ที่แจ่มใสขึ้น
ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปอย่างธรรมชาติ
ไม่จำเป็นต้องบังคับอะไรระหว่างการแนะนำ อย่ากดดันให้เด็กรักคนสำคัญของคุณ และนั่นรวมถึงการบอกให้พวกเขาจับมือ กอด หรือหอมแก้ม และให้ยึดแนวคิดนี้ไว้แม้ว่าการเจอกันครั้งแรกจะผ่านพ้นไปแล้ว
ตัวคุณอาจต้องใช้เวลาเล็กน้อยในการทำความรู้จักกับคนของคุณและชอบเขาหรือเธอได้ ดังนั้นคุณต้องให้ลูก ๆ ของคุณมีพื้นที่แบบนั้นเช่นกัน ลูกของคุณอาจจะยังไม่ชอบเขาหรือเธอในตอนนี้ และคุณก็ต้องรอให้เด็ก ๆ รู้สึกโอเคขึ้นก่อน ไม่เช่นนั้นพวกเขาจะรู้สึกกดดันมากและจะยิ่งพยายามผลักไส
แบ่งเวลาส่วนตัวให้ลูกเหมือนเดิม
หลังจากการแนะนำครั้งแรกสิ้นสุดลงแล้วและคุณสามารถถอนหายใจด้วยความโล่งอก แต่ตอนนี้มันกลายเป็นสิ่งสำคัญสำหรับพ่อแม่ที่จะต้องใส่ใจกับความรู้สึกของเด็ก ๆ หากพ่อแม่มีความรักอีกครั้ง และต้องการที่จะใช้เวลากับคนรักของพวกเขาตลอดเวลา สิ่งที่เด็กจะพลาดไปก็คือการได้ใช้เวลาร่วมกับพ่อแม่ตัวเอง ซึ่งมันคือเวลาที่เด็ก ๆ ให้คุณค่ากับมันมากหลังจากที่พ่อแม่แยกทางกันหรือจากโลกนี้ไป เพราะมันเป็นช่วงเวลาที่ทำให้เด็กปรับตัวได้ เป็นเรื่องปกติกับสิ่งที่คนมักพูดกันว่าเด็กรู้สึกอิจฉา มันเป็นเรื่องจริง โดยเฉพาะกับเด็กที่พ่อหรือแม่เป็นพ่อแม่เลี้ยงเดี่ยวมานานสักพักและใกล้ชิดกับเด็กมาก
คุณควรพยายามที่จะเผื่อเวลาให้กับลูกเสมอ แม้จะเป็นกิจกรรมง่าย ๆ อย่างการดูทีวีด้วยกัน ซึ่งไม่ต้องกังวลไป เมื่อลูกปรับตัวได้กับการที่จะมีคนรักของคุณเข้ามาในชีวิต เขาก็จะกระตือรือร้นที่จะใช้เวลากับคนนั้นของคุณด้วยมากขึ้นเอง
และเมื่อถึงเวลาที่คุณคิดถึงการแต่งงานแบบจริงจัง เด็ก ๆ ก็มีสิทธิ์มีเสียงที่จะในการที่จะรับผู้มาใหม่นี้ไว้เป็นบุคคลในครอบครัว บอกเด็ก ๆ ให้ถึงรู้แผนการของคุณ และย้ำถึงความจริงที่ว่าความสุขและความเห็นของพวกเขานั้นสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าความสุขของคุณ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th