เรียนดนตรี ให้ลูกเริ่มตอนกี่ขวบดีนะ
คุณพ่อคุณแม่อาจจะกำลังไม่แน่ใจว่าควรให้ลูกเริ่ม “เรียนดนตรี” เมื่อเขามีอายุเท่าไหร่ดี พัฒนาการของเขามีพร้อมมากพอหรือเปล่าในการจะเรียนดนตรี หรือเครื่องดนตรีประเภทไหนที่จะเหมาะกับพัฒนาการของลูกตามวัย ไม่ยากจนเกินไป เพื่อเป็นแนวทางสำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีความสนใจอยากให้ลูกรักมีความสามารถพิเศษในด้านดนตรี วันนี้ Motherhood ก็จะมีแนวคิดดีๆมาฝากให้ลองพิจารณากันดูนะคะ
ให้ลูกเรียนดนตรีตอนอายุเท่าไหร่ดี
ระบบประสาทที่ใช้ในการฟังของลูกจะเริ่มทำงานตั้งแต่ที่ยังอยู่ในท้องแม่เมื่อระยะ 5 เดือน ลูกจะสามารถรับรู้เสียงต่างๆที่เกิดขึ้นรอบตัวและรับรู้จังหวะได้ตั้งแต่อยู่ในครรภ์ เขาสามรถเคลื่อนไหวตอบสนองกับจังหวะที่เขารับรู้ได้ทั้งช้าและเร็ว ดังนั้นคุณแม่จึงควรเปิดเสียงดนตรีให้ลูกฟัง กะระยะให้ห่างจากท้องสักประมาณ 1 ฟุต โดยใช้เสียงที่ดังพอประมาณ เสียงดนตรีจะช่วยกระตุ้นให้เครือข่ายใยประสาทของลูกมีพัฒนาการที่ดียิ่งขึ้น
เมื่อเขาคลอดออกมาแล้ว พัฒนาการของเขาจะพัฒนาไปอย่างรวดเร็วในช่วง 7 ปีแรก โดยจะมีพัฒนาการทางสมองเกือบ 80% และยังสามารถพัฒนาต่อไปได้อีกจนถึงอายุ 10 ปี หากคุณพ่อคุณแม่สามารถจัดให้เขาได้เรียนดนตรีอย่างเหมาะสมในช่วงนี้ก็จะยิ่งเป็นการดี เพราะดนตรีจะช่วยสร้างเสริมสมาธิและความจำของลูกให้ดียิ่งขึ้น รวมทั้งยังช่ยพัฒนาความฉลาดทางอารมณ์ได้อีกด้วย
แต่ช่วงเวลาที่เปรียบเสมือนเวลาทองของการเรียนดนตรีคือเมื่อลูกมีอายุ 3-7 ปี เนื่องจากเด็กในวัยนี้มีพัฒนาการของกล้ามเนื้อในร่างกายไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อมัดเล็กและกล้ามเนื้อมัดใหญ่ที่มากพอแล้ว รวมถึงพัฒนาการด้านสมอง ควรให้เขาเริ่มเรียนดนตรีที่มีลักษณะของการร้องและเต้นให้เข้ากับจังหวะเพลง เมื่อครูเทียบคู่เสียงด้วยเครื่องดนตรี ก็จะทำให้เด็กเข้าใจถึงความแตกต่างของจังหวะได้ เครื่องดนตรีที่เหมาะสมสำหรับการสอนก็จะเป็นเครื่องดนตรีที่ใช้เคาะ เครื่องดนตรีที่ทำให้เกิดเสียงและจังหวะ เพราะยังไม่มีความซับซ้อนมากนะ เขาจะไม่รู้สึกกดดันจนเกินไป
เลือกเครื่องดนตรีอะไรให้เหมาะสมกับลูก
หลังจากที่เขาได้เรียนรู้พื้นฐานของการจับจังหวะในช่วงเวลาเด็กเล็กแล้ว ต่อไปคุณพ่อคุณแม่หรือคุณครูสอนดนตรีก็สามารถช่วยกันเลือกเครื่องดนตรีที่เหมาะสมให้กับลูกได้ โดยพิจารณาจากความพร้อมทางร่างกาย ความพร้อมทางด้านสมองและการเรียนรู้ บวกกับความชอบและความสนใจของลูกเป็นหลัก
นอกจากนี้ก็ยังมีปัจจัยหลายอย่างที่จะต้องนำมาพิจารณาในการให้ลูกเรียนดนตรี ทั้งสภาพแวดล้อมของโรงเรียนสอนดนตรีที่ควรจะต้องเหมาะสมแก่การเรียน การเลือกครูสอนดนตรีที่เหมาะสมสำหรับเด็ก การเลือกหลักสูตรต่างๆของการสอนดนตรี และคุณพ่อคุณแม่ยังสามารถช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกในการเรียนดนตรีเพื่อให้เขาเกิดความรักและสนใจในการเรียนดนตรีด้วย
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือคุณพ่อคุณแม่จะต้องมีส่วนร่วมกับกิจกรรมของลูกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการหาวิธีให้ลูกได้ฝึกซ้อมดนตรีอย่างสม่ำเสมอ หรือการทำให้กิจกรรมดนตรีกลายมาเป็นกิจกรรมนันทนาการอย่างนึงของสมาชิกในครอบครัว ก็จะทำให้เด็กรู้สึกสนุกและมีการเรียนดนตรีเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตเขาได้จริงๆ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th