Site icon Motherhood.co.th Blog

“เรียนบัลเล่ต์” เริ่มเมื่อลูกอายุเท่าไหร่ดี ?

ให้ลูกเรียนบัลเล่ต์

ถ้าอยากให้ลูกเรียนบัลเล่ต์ จะเริ่มได้เมื่อไหร่นะ ?

“เรียนบัลเล่ต์” เริ่มเมื่อลูกอายุเท่าไหร่ดี ?

เนื่องในวันบัลเล่ต์โลก Motherhood เชื่อว่าน่าจะมีพ่อแม่จำนวนไม่น้อยที่อยากเห็นลูกสาวตัวน้อย ๆ “เรียนบัลเล่ต์” รวมทั้งตัวเด็ก ๆ เองก็อาจจะชอบใจที่จะได้ใช่กระโปรงฟูฟ่องแสนสวย แต่มีอะไรที่พ่อแม่จะต้องรู้บ้างหากอยากให้ลูกเริ่มเรียนระบำปลายเท้านี้ ไปติดตามกันค่ะ

เด็กอายุเท่าไหร่ถึงจะเริ่มเรียนบัลเล่ต์ได้ ?

อายุที่เหมาะสมสำหรับการเรียนบัลเล่ต์ คือ ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป เนื่องจากเป็นวัยที่เหมาะสมในการสร้างพัฒนาการของเด็ก เด็กจะเริ่มมีสมาธิในการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆรอบตัว อีกทั้งเด็กวัยนี้เริ่มเข้าใจการสื่อสารระหว่างคุณครูและเพื่อน ๆ ในคลาสเรียน เด็กวัย 3-4 ปีขึ้นไป จะรู้สึกเริ่มอยากเข้าสังคม อยากมีเพื่อน และมีความพร้อมที่จะปรับตัวเพื่อเข้าสังคม

จะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการทางกล้ามเนื้อ เสริมบุคลิก และจินตนาการ

ประโยชน์ของการเรียนบัลเล่ต์

1. ช่วยพัฒนากล้ามเนื้อของเด็กวัย 3 ขวบขึ้นไป

กล้ามเนื้อและกระดูกของเด็กวัยนี้กำลังอยู่ในช่วงเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว คุณพ่อคุณแม่สามารถสังเกตได้ชัดเจนจากส่วนสูงและน้ำหนักที่เพิ่มขึ้น ทำให้เด็กในวัยนี้เหมาะแก่การทำกิจกรรมที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ โดยการเต้น วิ่ง กระโดด เขย่งปลายเท้า หรือการเดินหน้าและถอยหลัง การเคลื่อนไหวเหล่านี้เป็นการช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดใหญ่ เพื่อให้ทุกส่วนของร่างกายได้ขยับไปพร้อม ๆ กัน นอกจากนี้ การเต้นบัลเล่ต์ยังช่วยจัดระเบียบโครงสร้างของร่างกายให้สวยงามอีกด้วย

2. ส่งเสริมสติปัญญาและพัฒนาการทางภาษา

เด็กในวัยนี้กำลังเริ่มมีพัฒนาการทางภาษา เด็ก ๆ จะเริ่มจดจำคำศัพท์ได้ดี สามารถเรียนรู้คำใหม่ ๆ ได้มากขึ้น ในบางหลักสูตรสำหรับบัลเล่ต์เด็กเล็ก จะมีการสอนร้องเพลงประกอบการเต้นด้วย เพื่อให้เด็ก ๆ สามารถจดจำท่าทางต่าง ๆ ของบัลเล่ต์ได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การเรียนบัลเล่ต์ในเด็กเล็กยังช่วยให้เด็กสามารถแยกซ้ายขวาหรือทิศทางได้อีกด้วย เมื่อเด็กเติบโตขึ้นในวัยอายุ 4-5 ปี เด็กก็จะเริ่มจดจำทิศทาง บน/ล่าง สี ขนาด หรือการนับเลขได้อย่างแม่นยำมากขึ้น

3. พัฒนาอารมณ์ จิตใจ และจินตนาการ

การแสดงบทบาทสมมุติในคลาสเรียนบัลเล่ต์จะช่วยให้เด็ก ๆ มีจินตนาการจากการแสดงบทบาทสมมติ เช่น การแสดงท่าทางของสัตว์ หรือการเล่าเรื่องด้วยภาษาท่าทาง บทบาทเหล่านี้จะช่วยให้เด็ก ๆ กล้าแสดงออกและมีจินตนาการมากขึ้น นอกจากนี้ ดนตรีคลาสสิกยังช่วยกล่อมเกลาจิตใจให้เด็กรู้สึกสนุกสนานและผ่อนคลายไปกับเสียงดนตรี

พิจารณาเลือกโรงเรียนและหลักสูตรอย่างเหมาะสม เพื่อพัฒนาการในการเรียนของลูก

ตัดสินใจได้แล้วว่าจะเรียน ต้องเตรียมตัวอย่างไรต่อ ?

เมื่อคุณพ่อคุณแม่ตัดสินใจได้แล้วว่าจะให้ลูกเริ่มเรียนบัลเล่ต์ นี่คือสิ่งที่ควรทำเป็นขั้นตอนต่อไป

1. เลือกหลักสูตรการสอนบัลเล่ต์ 

ซึ่งในประเทศไทยมีหลักสูตรต่างๆ มากมาย เช่น หลักสูตร Royal Academy of Dance หรือ RAD ซึ่งเป็นหลักสูตรจากสถาบันการเต้นบัลเล่ต์จากประเทศอังกฤษที่มีความเก่าแก่มากกว่า 100 ปี และได้รับความนิยมใน 79 ประเทศทั่วโลก หรือหลักสูตร Commonwealth Society of Teacher of Dance หรือ C.S.T.D. ที่ก่อตั้งขึ้นในประเทศออสเตรเลียมาแล้วกว่า 80 ปี โดยเป็นหลักสูตรที่มุ่งเน้นการสร้างความแข็งแรงให้กับผู้เรียน และมีการวัดการเรียนเป็นประจำทุกปีโดยตัวแทนจากทางสถาบัน

โดยส่วนมากแล้ว โรงเรียนสอนบัลเล่ต์จะมีการสอบประเมินมาตรฐานกับครูที่ได้รับการรับรองจากหลักสูตรโดยตรง นักเรียนจะได้รับใบประกาศนียบัตรที่สามารถนำไปยื่นกับสถาบันต่าง ๆ ในหลายประเทศทั่วโลก

2. เลือกสถาบันที่เปิดสอนในหลักสูตรที่สนใจ

อาจพิจารณาเลือกจากทั้งทำเลที่ตั้ง การเดินทาง เวลาเรียน ครูผู้สอน ค่าเรียน

3. เวลาในการเข้าเรียน

คุณพ่อคุณแม่จะต้องมีเวลาพาเด็ก ๆ ไปเรียนอย่างสม่ำเสมอ เนื่องจากการเรียนบัลเล่ต์เป็นการฝึกทักษะที่เกิดจากการพัฒนากล้ามเนื้อให้แข็งแรงและมีความยืดหยุ่น ซึ่งจะเห็นผลชัดเจนถ้าได้รับการฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ

4. ค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม

ต้องยอมรับว่าการเรียนบัลเล่ต์เป็นกิจกรรมที่มีค่าใช้จ่ายที่ต้องจ่ายอยู่ตลอดนอกเหนือไปจากค่าเรียน เช่น ค่าชุด ค่ารองเท้า ค่าสอบ เป็นต้น

ปัจจัยที่กล่าวมาทั้งหมดนี้ล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่สำคัญที่จะทำให้เด็ก ๆ ได้รับการพัฒนาในการเรียนบัลเล่ต์อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ และในยุคที่ COVID-19 ยังมีอยู่เช่นนี้ นโยบายการรักษาความสะอาดของโรงเรียนก็เป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรคำนึงเพิ่มเติมด้วยเช่นกันนะคะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th