15 แอพอันตราย ใช้ล่อลวงเด็กได้ พ่อแม่ต้องระวัง
อย่างที่เราทราบกันดีว่าไม่ควรให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่บางครั้งพ่อแม่ก็มีเผลอใจกันบ้าง สำนักงานนายอำเภอซาราโซตาเคาน์ตี้ ได้ทำลิสท์สำหรับ “แอพอันตราย” ขึ้นมา เป็นรายชื่อของแอพลิเคชั่นในโทรศัพท์มือถือที่จะทำให้เด็กๆของเราตกเป็นเหยื่อได้โดยง่าย เราลองมาดูกันค่ะว่าแอพฯเหล่านี้จะทำให้เด็กๆของเราตกอยู่ในอันตรายได้อย่างไรบ้าง
เมื่อปีที่ผ่านมาสำนักงานนายอำเภอซาราโซตาเคาน์ตี้ได้เปิดเผยรายชื่อของแอพที่อาจทำให้เด็กเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อโดยผู้ไม่หวังดี ตอนนี้สำนักงานนายอำเภอฯได้เพิ่มรายชื่อแอพที่ผู้ปกครองควรระวังในโทรศัพท์ของเด็กๆ นายอำเภอทอม ไนท์ กล่าวว่าสื่อสังคมออนไลน์ทำให้ผู้ไม่หวังดีสามารถเชื่อมต่อกับเด็กได้ง่ายกว่าที่เคย หมายความว่าบรรดาพ่อแม่จะต้องระมัดระวังมากขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่ลูกๆของพวกเขากำลังทำออนไลน์และบนโทรศัพท์มือถือ พ่อแม่ควรต้องรู้ว่ามีอะไรอยู่ในโทรศัพท์ของลูกบ้าง
15 แอพที่พ่อแม่ต้องระวังไว้
1. Meetme
เป็นแอพหาคู่ผ่านโซเชียลมีเดียที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเชื่อมต่อกับผู้คนโดยอ้างอิงจากพิกัดพื้นที่ใกล้เคียง ซึ่งผู้ใช้แอพตัวนี้ได้รับการสนับสนุนให้ออกมานัดพบปะกันด้วยตนเอง
2. Grindr
แอพหาคู่นี้เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นเกย์ ไบเซ็กชวล และคนข้ามเพศ ในแอพจะมีตัวเลือกผู้ใช้แบ่งปันภาพถ่ายระหว่างการแชทและนัดพบปะโดยอิงจากการทำงานของระบบ GPS บนสมาร์ทโฟน
3. Skout
มันเป็นแอพหาคู่ที่จับพิกัดสถานที่ ในขณะที่ผู้ใช้ที่อายุต่ำกว่า 17 ปีจะไม่สามารถแบ่งปันภาพถ่ายส่วนตัวในแอพได้ แต่เด็กๆก็สามารถสร้างบัญชีโดยโกหกให้อายุมากกว่าตัวจริงได้อย่างง่ายดาย
4. WhatsApp
แอพส่งข้อความยอดนิยมที่ให้ผู้ใช้ส่งข้อความ รูปภาพ ข้อความเสียง รวมถึงโทรศัพท์หากันและแชทในรูปแบบวิดีโอ
5. Tiktok
เป็นแอพใหม่ยอดนิยมสำหรับเด็กๆ ที่ใช้ในการสร้างและแชร์วิดีโอสั้นๆ ด้วยการควบคุมความเป็นส่วนตัวที่จำกัด ผู้ใช้จึงมีความเสี่ยงต่อการถูกกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ตและเนื้อหาที่มีความล่อแหลม
6. Badoo
แอพนี้เป็นแอพหาคู่และโซเชียลเน็ตเวิร์กที่ผู้ใช้สามารถแชทแชร์รูปภาพและวิดีโอตามตำแหน่งที่อยู่ เดิมทีแอพนี้มีไว้สำหรับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่วัยรุ่นรู้จักมากขึ้นและเริ่มไปสร้างโพรไฟล์ในแอพ
7. Bumble
แอพตัวนี้มีความคล้ายคลึงกับแอพหาคู่ยอดนิยมอย่าง Tinder แต่กฎในการใช้งานคือผู้หญิงต้องเป็นฝ่ายเริ่มก่อนในการติดต่อครั้งแรก เป็นที่ทราบกันดีว่าเด็กๆใช้ Bumble เพื่อสร้างบัญชีปลอมและโกหกอายุขึ้นมา
8. Snapchat
เป็นหนึ่งในแอพที่ได้รับความนิยมสูงสุดในปี 2018 ในขณะที่แอพสัญญาว่าผู้ใช้สามารถส่งภาพถ่ายหรือวิดีโอและมันจะหายไปภายในระยะเวลาที่เราเลือกกำหนดเองได้ แต่คุณสมบัติล่าสุดช่วยให้ผู้ใช้สามารถดูเนื้อหาได้นานถึง 24 ชั่วโมง Snapchat ยังอนุญาตให้ผู้ใช้เห็นตำแหน่งของผู้ใช้คนอื่นด้วย
9. Kik
แอพนี้อนุญาตให้ทุกคนติดต่อและส่งข้อความลูกของคุณโดยตรง บางครั้งก็สามารถส่งได้โดยไม่ระบุชื่อ บางครั้งเด็กๆเลี่ยงไปใช้ Kik เพื่อหลีกหนีข้อจำกัดของการส่งข้อความดั้งเดิม เพราะ Kik ให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงทุกคนทุกที่ทุกเวลาอย่างไม่จำกัด
10. LiveMe
แอพถ่ายทอดสดในรูปแบบวิดีโอตัวนี้ใช้ระบบระบุพิกัดของผู้เผยแพร่วิดีโอ ทำให้ผู้ใช้งานคนอื่นๆสามารถรู้ได้ว่าผู้ที่กำลังถ่ายทอดสดนั้นอยู่บริเวณไหน ผู้ใช้จะได้รับเหรียญจากการใช้งานแอพ ซึ่งอาจเป็นช่องทางให้ผู้ไม่หวังดีใช้มันซื้อภาพจากเด็กๆได้
11. Holla
ผู้สร้างแอพตัวนี้ออกมายอมรับว่ามันเป็นแอพแชทวิดีโอที่ถูกสร้างมาเพื่อให้ผู้ใช้ “ติดงอมแงม” ผู้ใช้งานสามารถพบปะผู้ใช้คนอื่นได้ง่ายเพียงไม่กี่วินาที ผู้ใช้งานหลายคนได้รีวิวแอพนี้ไว้ว่าพวกเขาพบกับเนื้อหาอันล่อแหลมและคำพูดแนวเหยียดเชื้อชาติมากมาย
12. Whisper
เป็นโซเชียลเน็ตเวิร์กที่เน้นความนิรนามของผู้ใช้ ที่ส่งเสริมการแบ่งปันความลับกับคนแปลกหน้า นอกจากนี้ยังแสดงตำแหน่งของผู้ใช้เพื่อให้ผู้คนสามารถพบปะกันได้
13. Ask.fm
แอพนี้เป็นที่รู้จักกันดีในเรื่องการกลั่นแกล้งทางอินเทอร์เน็ต เพราะแอพสนับสนุนให้ผู้ใช้ถามคำถามกันและกันโดยไม่ระบุชื่อ
14. Calculator%
เป็นหนึ่งในแอพลับที่ใช้ในการซ่อนไฟล์รูปภาพ ไฟล์วิดีโอ และประวัติการเข้าเว็บในเว็บเบราว์เซอร์
15. Hot or Not
แอพนี้ส่งเสริมให้ผู้ใช้ให้คะแนนรูปโปรไฟล์ของผู้ใช้คนอื่นๆ โดยให้ความสำคัญกับรูปลักษณ์ภายนอก นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้ใช้ส่องดูผู้คนในพื้นที่เดียวกับพวกเขาและแชทกับคนแปลกหน้า นายอำเภอบอกว่าเป้าหมายของแอพนี้คือการหาคู่นอน
นาธาน เอเมอรี ตัวแทนจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิกล่าวว่า แอพทุกตัวสามารถเข้าถึงเด็กๆได้ง่าย ซึ่งทำให้พวกเขาเป็นเป้าหมายสำคัญสำหรับผู้ไม่หวังดี มันเป็นการเข้าถึงเด็กๆในรูปแบบที่ทำให้ผู้คนเข้ามามีส่วนร่วมมากขึ้น เพราะพวกเขาสามารถแสดงออกถึงความบิดเบี้ยวในจิตใจและความต้องการทางเพศได้
ทางด้านนายอำเภอกล่าวว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีทำให้การติดตามแอปที่ทำให้เด็กตกอยู่ในความเสี่ยงนี้ยากขึ้นไปอีก เพราะตัวเขาเองก็ไม่มีอำนาจควบคุมโซเชียลมีเดีย พ่อแม่เองก็ไม่สามารถควบคุมแอพได้ ไม่มีกฎระเบียบใดๆ เราไม่สามารถทำอะไรกับมันได้ แอพพวกนี้ยังคงมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ยากขึ้นสำหรับเราที่จะรู้เท่าทันมัน
กฎในการใช้มือถือที่ควรบอกลูก
- ถ้าใครขอให้ถ่ายรูปโป๊ส่งให้ดู หรือส่งรูป/คลิปโป๊มาให้ ต้องรีบบอกพ่อแม่ทันที
- ห้ามลงเบอร์โทรศัพท์หรือแชร์โลเคชันแบบเปิดสาธารณะอย่างเด็ดขาด เพราะอาจถูกผู้ไม่หวังดีข่มขู่หรือสะกดรอยตามได้
- ต้องระวังคนไม่รู้จักที่โทรเข้ามา หรือคนแปลกหน้าที่อยากนัดเจอ ถ้าโดนข่มขู่หรือรังควาน ให้บอกพ่อแม่หรือผู้ใหญ่ทันที
- ห้ามโหลดแอพใดๆ ก่อนได้รับอนุญาตจากพ่อแม่
- ก่อนจะถ่ายรูปหรืออัพรูปใคร ต้องขออนุญาตเจ้าตัวก่อนทุกครั้ง
นอกจากเรื่องของความปลอดภัยและอันตรายที่เกิดจากผู้ไม่ประสงค์ดีที่แอบแฝงตัวในโซเชียลเน็ตเวิร์กหรือแอพต่างๆ ที่พ่อแม่ต้องคอยระวังแล้ว ในการใช้งานโทรศัพท์มือถือของลูก พ่อแม่ควรแนะนำมารยาทในการใช้โทรศัพท์มือถือแก่เขาด้วย เช่น การปิดโทรศัพท์ในโรงหนัง วัด โบสถ์ เวลาไปพบแพทย์ รวมทั้งไม่ใช้โทรศัพท์เพื่อเล่นเกมหรือดูวิดีโอโดยไม่สวมหูฟังเมื่อโดยสารรถสาธารณะ เรื่องเหล่านี้ถ้าพ่อแม่ไม่อบรมเขา เด็กก็จะไม่ได้เรียนรู้มารยาทสังคมที่เหมาะสม โตไปเขาอาจกลายเป็นผู้ใหญ่ที่ไม่มีกาลเทศะได้
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th