ใส่คอนแทคเลนส์ ตอนอายุเท่าไรดี อันตรายกับลูกไหม
หากพ่อแม่พบว่าลูกมีอาการคล้ายจะสายตาสั้น ก็ต้องรีบพาลูกไปตรวจวัดค่าสายตา แต่เด็กบางคนอาจจะไม่อยากใส่แว่น การ “ใส่คอนแทคเลนส์” อาจจะเป็นทางเลือกที่พ่อแม่บางคนกังวลว่าจะยุ่งยากเกินความรับผิดชอบของลูกมากไปหรือเปล่า เด็กๆจะมีวินัยในการดูแลรักษาความสะอาดได้ไหม แล้วคอนแทคเลนส์ที่มีวางขายตามท้องตลาดถูกออกแบบมาให้ปลอดภัยสำหรับดวงตาของเด็กหรือไม่ หากคุณพ่อคุณแม่ท่านไหนยังคงมีความกังวลสงสัยในประเด็นนี้ บทความนี้เหมาะกับคุณมากค่ะ จะได้มีข้อมูลว่าจะตัดสินใจอย่างไรดี จะให้ลูกเราใส่คอนแทคเลนส์ดีหรือไม่
คอนแทคเลนส์ทำมาจากอะไร?
คอนแทคเลนส์ (Contact Lens) คือเลนส์ที่ทำมาจากพลาสติกอ่อนนุ่ม ไฮโดรเจล หรือซิลิโคนขนาดบางและเล็ก โดยปกติแล้วคอนแทคเลนส์มีขนาดประมาณตาดำของคนทั่วไป ยกเว้นคอนแทคเลนส์แฟชั่นที่อาจมีขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อให้ผู้สวมใส่มีดวงตาที่โตมากขึ้น คอนแทคเลนส์ในยุคปัจจุบันแบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ๆ ดังนี้
- คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่ม (Soft Contact Lens) เป็นคอนแทคเลนส์ประเภทที่ได้รับความนิยมมากที่สุด ผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษที่มีลักษณะนิ่ม บิดงอได้ คุณสมบัติในการอุ้มน้ำสูง ซึ่งคอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มรุ่นใหม่จะมีส่วนประกอบของน้ำมากถึง 40-70 เปอร์เซ็นต์ และออกซิเจนสามารถผ่านเข้าไปยังกระจกตาได้ อีกทั้งใช้ง่าย โดยคอนแทคเลนส์แบบนิ่มจะใช้เพื่อแก้ปัญหาสายตาสั้น-ยาว สายตาเอียง และยังใช้ในผู้สูงอายุที่มีภาวะสายตายาวตามวัย รวมถึงผู้ป่วยที่มีผิวกระจกตาขรุขระเนื่องจากกระจกตาเป็นแผล
- คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง (Hard Contact Lens) สามารถเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าคอนแทคเลนส์ชนิดแข็งที่ก๊าซสามารถซึมผ่านได้ (Rigid Gas Permeable Lenses: RGP Lenses) เป็นคอนแทคเลนส์ที่ผลิตจากพลาสติกชนิดพิเศษที่ออกซิเจนสามารถผ่านตัวเลนส์ไปยังกระจกตาได้มาก ทำให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่ดวงตาลดลง และมองเห็นได้ชัดกว่า อีกทั้งยังใช้ได้นาน มีความคงทนสูงต่อรอยขูดขีดหรือคราบสกปรกที่เกาะบนคอนแทคเลนส์ เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งของผู้ที่มีปัญหาสายตา แต่ไม่สามารถใช้คอนแทคเลนส์ชนิดนิ่มได้เนื่องจากสวมใส่แล้วไม่สบายตา หรือมีปัญหาเรื่องตาแห้ง ซึ่งข้อดีของคอนแทคเลนส์ชนิดนี้คืออากาศผ่านได้ อีกทั้งยังสามารถถอดนำมาทำความสะอาดได้
- คอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษ (Specialized Contact Lens) เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดที่ผลิตขึ้นโดยเฉพาะเพื่อจุดประสงค์ที่แตกต่างกันไป ตัวอย่างเช่น
- คอนแทคเลนส์แบบไฮบริด (Hybrid Contact Lens) เป็นคอนแทคเลนส์ชนิดพิเศษที่มีทั้งแบบชนิดนิ่มและชนิดแข็งอยู่ในตัวเดียวกัน สามารถแก้ปัญหาสายตาทั้งสั้น-ยาว สายตาเอียง หรือผู้ที่มีกระจกตาผิดปกติและผู้สูงอายุที่มีปัญหาเรื่องกระจกตา เหมาะกับคนที่มีปัญหาในการใส่คอนแทคเลนส์ชนิดแข็ง
- คอนแทคเลนส์สี (Tinted Contact Lens) นิยมใช้เพื่อความสวยงาม เช่น คอนแทคเลนส์สีแฟชั่น หรือคอนแทคเลนส์แบบตาโต (บิ๊กอาย) ซึ่งมีวางขายแพร่หลายตามท้องตลาด โดยคอนแทคเลนส์ชนิดนี้จะต้องระมัดระวังและเลือกใช้แบรนด์ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาเพื่อความปลอดภัยของผู้สวมใส่
ประโยชน์ของคอนแทคเลนส์
คอนแทคเลนส์สายตามีประโยชน์ในหลายด้าน เพราะนอกจากแก้ไขปัญหาสายตาได้แล้ว ยังเหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาสายตาแต่ไม่สะดวกที่จะสวมใส่แว่นตา และยังสามารถปรับเปลี่ยนบุคลิกของผู้ใส่ให้ดูดีและมีความมั่นใจมากขึ้นได้ นอกจากนี้พบว่า คอนแทคเลนส์สายตาจะช่วยให้ผู้ใส่สามารถมองเห็นได้ชัดทั้งในระยะใกล้และไกล และมีทัศนวิสัยที่ดีกว่าการใส่แว่นอีกด้วย อีกทั้งคอนแทคเลนส์ยังดีกับนักกีฬา เนื่องจากปกติแล้วการมองเห็นด้านข้างหรือรอบนอก (Peripheral Vision) ของผู้ที่ไม่ใส่คอนแทคเลนส์จะไม่ค่อยดีนัก แต่เมื่อใส่คอนแทคเลนส์แล้ว การมองเห็นส่วนนี้จะถูกกระตุ้น ทำให้มีทัศนวิสัยในการเล่นกีฬาหรือทำกิจกรรมกลางแจ้งมากขึ้น และในบางครั้งการใส่แว่นขณะเล่นกีฬาอาจจะเกิดอันตรายต่อดวงตามากกว่าด้วย
เมื่อลูกอยากใส่คอนแทคเลนส์
ถ้าลูกอยากใส่คอนแทคเลนส์ พ่อแม่ไม่ควรห้ามในทันที แต่ควรถามถึงเขาเหตุผลที่อยากใส่ ถ้าเห็นว่าลูกอยากใส่จริงๆ ควรพาไปตรวจวัดสายตาและประกอบคอนแทคเลนส์ให้ถูกต้องกับนักทัศนมาตรหรือจักษุแพทย์ เพื่อให้ได้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมกับความโค้งกระจกตา ค่าสายตา และลักษณะการใช้งานสายตา ของเด็กอย่างแท้จริง รวมทั้งให้ลูกได้เรียนรู้การใช้งาน ใส่ ถอด ทำความสะอาด และการดูแลรักษาที่ถูกต้องจากผู้เชี่ยวชาญ
หากเด็กอยากใส่คอนแทคเลนส์จริงๆแต่ผู้ปกครองห้าม เขาอาจแอบไปซื้อและทดลองใส่เองอย่างผิดๆถูกๆ หรืออาจขอยืมของเพื่อนเพื่อทดลองใส่ ซึ่งอาจทำให้เกิดปัญหาตามมาได้ เช่น คอนแทคเลนส์ไม่เหมาะกับดวงตา วิธีการใส่ถอดไม่ถูกต้องทำให้เกิดแผลถลอกที่ดวงตาและตาอักเสบติดเชื้อตามมา การขอยืมเพื่อนใส่ทำให้เสี่ยงต่อโรคติดต่อต่างๆ
ความจริงแล้วเรื่องอายุไม่ใช่อุปสรรคในการใช้คอนแทคเลนส์ เพราะคอนแทคเลนส์สามารถใช้ได้กับคนทุกช่วงอายุ ตั้งแต่เด็กแรกเกิดจนกระทั่งถึงวัยชรา (80-90 ปี) สำหรับเด็กเล็กที่จำเป็นต้องใส่คอนแทคเลนส์ ผู้ปกครองสามารถช่วยถอด ใส่ ทำความสะอาด จนกระทั่งเด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้ ในต่างประเทศ เด็กอายุต่ำกว่า 10 ขวบส่วนใหญ่ ที่มีวินัยและมีความรับผิดชอบมากพอ สามารถใช้งาน ถอด ใส่ ทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ได้เอง ภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่
สำหรับเด็กที่สายตาปกติไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ไม่ว่าจะด้วยจุดประสงค์อะไรก็ตาม พ่อแม่ควรคำนึงว่าคอนแทคเลนส์เป็นสิ่งที่ต้องสัมผัสกับดวงตาของเราโดยตรง และดวงตาของเราเป็นสิ่งที่บอบบางมาก อาจทำให้เกิดปัญหาเคืองตา คันตา กระจกตาเป็นแผล และอาจติดเชื้อหากเด็กรักษาความสะอาดไม่ดีพอ
กฎหมายควรรู้เกี่ยวกับคอนแทคเลนส์
- ผู้ที่ได้รับอนุญาตให้ประกอบคอนแทคเลนส์อย่างถูกต้องตามกฏหมาย คือจักษุแพทย์และนักทัศนมาตร
- ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี หากต้องการใส่คอนแทคเลนส์ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครองก่อน ดังนั้น การขายคอนแทคเลนส์ให้เด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี โดยไม่ได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง ถือว่ามีความผิด
การใช้คอนแทคเลนส์อย่างถูกวิธีและปลอดภัย
คอนแทคเลนส์เป็นอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับกระจกตาซึ่งเป็นส่วนที่บอบบางมาก จึงมีความจำเป็นที่ผู้ใช้จะต้องสวมใส่คอนแทคเลนส์ให้ถูกวิธี ซึ่งจะช่วยลดความเสี่ยงการติดเชื้อที่กระจกตาที่อาจนำมาสู่ปัญหาร้ายแรงได้ วิธีการสวมใส่คอนแทคเลนส์ที่ถูกต้องและปลอดภัยมีดังนี้
- เลือกใช้คอนแทคเลนส์ที่เหมาะกับสภาพดวงตา ควรปรึกษาจักษุแพทย์ก่อนใช้ เพื่อตรวจวัดระดับสายตาว่ามีอาการของสายตาสั้น สายตายาว หรือมีสายตาเอียงร่วมด้วยหรือไม่ โดยแพทย์จะทำการตรวจดูลักษณะน้ำตา สภาพลูกตา และกิจกรรมของผู้ใช้ เนื่องจากคอนแทคเลนส์ทุกชนิดมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันไป แพทย์จะแนะนำคอนแทคเลนส์ที่เหมาะสมที่สุดให้
- สวมคอนแทคเลนส์ในระยะเวลาตามที่แพทย์แนะนำเท่านั้น หากจำวันที่เปลี่ยนคอนแทคเลนส์ไม่ได้ ควรจดบันทึกเตือน
- ไม่ใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับผู้อื่น เพราะอาจทำให้ติดเชื้อรุนแรง
- ไม่ควรสวมคอนแทคเลนส์สลับข้างกัน ซ้าย-ขวา
- ไม่ควรนอนหลับขณะที่ยังสวมคอนแทคเลนส์อยู่ เพราะจะทำให้ออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงที่ดวงตาได้ไม่เต็มที่
- ไม่ควรให้ปลายของขวดน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์สัมผัสกับสิ่งอื่นๆ เพราะจะทำให้เกิดการปนเปื้อนได้
- ดูแลดวงตาให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอด้วยการหยอดน้ำตาเทียม
- ควรใส่คอนแทคเลนส์ด้วยปลายนิ้วชี้และก่อนใส่ ควรสังเกตคอนแทคเลนส์ เพื่อป้องกันการใส่คอนแทคเลนส์ผิดด้าน เพราะจะส่งผลให้รู้สึกไม่สบายตา วิธีการสังเกตด้านคอนแทคเลนส์ที่ถูกต้อง คือ จะมีลักษณะคล้ายถ้วย แต่ถ้าหากผิดด้าน รูปทรงของคอนแทคเลนส์จะมีลักษณะบานออกคล้ายจาน
- หากรู้สึกระคายเคืองตา ให้ถอดคอนแทคเลนส์ออกในทันที และไม่ควรใส่อีกจนกว่าจะได้พบแพทย์
- ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์ขณะว่ายน้ำ หรือสวมแว่นตากันน้ำทับอีกทีหากสายตาสั้นมาก
การดูแลรักษาคอนแทคเลนส์
- ก่อนหยิบจับคอนแทคเลนส์ทุกครั้ง ควรล้างมือด้วยสบู่ให้สะอาด และเช็ดมือด้วยผ้าเช็ดมือที่สะอาด
- ห้ามแช่หรือล้างคอนแทคเลนส์ในน้ำสะอาดโดยเด็ดขาด
- ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่ได้มาตรฐาน จะช่วยยืดอายุการใช้งานของคอนแทคเลนส์และป้องกันการติดเชื้อที่ดวงตาได้
- ห้ามใช้น้ำลายเพื่อทำความสะอาดคอนแทคเลนส์หรือทำให้คอนแทคเลนส์ชุ่มชื้น เพราะน้ำลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค
- ห้ามนำสารละลายน้ำเกลือ หรือน้ำตาเทียมทำความสะอาดคอนแทคเลนส์โดยเด็ดขาด
- ในขณะทำความสะอาดคอนแทคเลนส์ ควรถูคอนแทคเลนส์ด้วยปลายนิ้วเบาๆ เพื่อขจัดเชื้อและสิ่งแปลกปลอม และควรล้างตลับใส่คอนแทคเลนส์ จากนั้นตากให้แห้งเพื่อทำการฆ่าเชื้อ
- ควรเปลี่ยนตลับคอนแทคเลนส์อย่างน้อยทุก 3 เดือน
- หากต้องเดินทาง ไม่ควรแบ่งน้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ใส่ขวดอื่นๆ เพราะจะทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อ
- ห้ามใช้น้ำยาล้างคอนแทคเลนส์ที่เก่าเก็บหรือเปิดทิ้งใช้มาเป็นเวลานาน หมั่นสังเกตวันหมดอายุของน้ำยาคอนแทคเลนส์เสมอ
การใช้คอนแทคเลนส์ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่ากลัวเสมอไป เพียงแต่คุณพ่อคุณแม่จะต้องมั่นใจว่าลูกมีวินัยที่จะรักษาความสะอาดในทุกขั้นตอนการใช้งานเป็นอย่างดี เพราะดวงตาของคนเรานั้นบอบบางมาก หากดูแลรักษาความสะอาดไม่ดีก็จะเป็นเรื่องใหญ่ หากลูกไม่มีความจำเป็นที่ต้องเล่นกีฬาอย่างจริงจัง หรือต้องทำการแสดงบางอย่างอยู่เป็นประจำ แนะนำว่าควรให้ใส่แว่นไปก่อนจะดีกว่า รอจนเขาโตขึ้นมาอีกนิด มีความรับผิดชอบมากขึ้นตามวัย ก็สามารถให้ใส่คอนแทคเลนส์ได้ค่ะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th