ไวรัสอู่ฮั่น โรคติดต่อที่กำลังระบาดไปทั่วโลก
เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ หรือที่รู้จักในอีกชื่อหนึ่งในไทยว่า “ไวรัสอู่ฮั่น” กำลังแพร่ระบาดไปทั่วโลก รวมทั้งเริ่มพบผู้ติดเชื้อในประเทศไทยบ้างแล้ว หลังจากที่เริ่มระบาดในเมืองสำคัญหลายแห่งของประเทศจีน คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติจีนได้ประกาศยืนยันว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสามารถติดต่อจากคนสู่คน ทำให้คนทั่วโลกกังวลว่าการแพร่ระบาดอาจลุกลามมากขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน เพราะเป็นช่วงเวลาที่ชาวจีนหลายล้านคนเดินทางไปทั่วโลก วันนี้ Motherhood จะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักเชื้อไวรัสชนิดนี้ให้มากขึ้น พร้อมกับการป้องกันค่ะ
ไวรัสอู่ฮั่นคืออะไร?
ไวรัสโคโรนาเกิดมาจากการระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่พบในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน เป็นโรคติดต่อทางเดินหายใจจากเชื้อไวรัส เป็นไวรัสกลุ่มใหญ่ที่พบได้ทั้งในคนและในสัตว์ ซึ่งในขณะนี้มีประชากรชาวจีนกว่า 11 ล้านคนกำลังประสบปัญหาอยู่ ทางประเทศจีนและองค์การอนามัยโลก (WHO) เรียกโรคนี้ว่า “โรคปอดอักเสบที่ไม่ทราบสาเหตุ”
ไวรัสอู่ฮั่นเริ่มระบาดในช่วงกลางเดือนธันวาคม 2562 ในเมืองอู่ฮั่น เริ่มจากมีผู้ป่วยโรคปอดอักเสบเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจำนวนหลายราย โดยมีอาการไข้สูง ไอแห้ง อ่อนเพลีย โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่เป็นเจ้าของร้าน ลูกจ้าง หรือลูกค้าที่เคยมาซื้อของที่ตลาดอาหารทะเลแห่งหนึ่งในเมืองอู่ฮั่น ซึ่งเป็นตลาดที่มีการค้าสัตว์หลายชนิด เช่น นก ไก่ฟ้า งู เครื่องในกระต่าย และสัตว์ป่าอื่น ๆ ขณะนี้ตลาดดังกล่าวได้มีการจัดการด้านสุขาภิบาลสิ่งแวดล้อม และถูกทางการสั่งปิดแล้วตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2563
สถานการณ์การแพร่ระบาดในปัจจุบัน
เมื่อวันที่ 21 มกราคม 2563 คณะกรรมการสาธารณสุขแห่งชาติของจีนออกแถลงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่เพิ่มเป็นอย่างน้อย 17 คนแล้ว ขณะที่หนังสือพิมพ์ไชน่า เดลี่รายงานว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสได้รับการยืนยันแล้ว 544 ราย และเมืองใหญ่อีกหลายแห่งในจีน ทั้งกรุงปักกิ่ง เซี่ยงไฮ้ และ เซินเจิ้น ก็มีการตรวจพบผู้ป่วยแล้วเช่นกัน
ในส่วนของการแพร่ระบาดในต่างประเทศนั้น มีรายงานผู้ติดเชื้อแล้วหลายรายเช่นกัน โดยพบผู้ติดเชื้อใน 5 ประเทศแล้ว ได้แก่ เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น (1 คน) ไต้หวัน ไทย (4 คน) สหรัฐอเมริกา
ขณะนี้หลายประเทศได้มีการเพิ่มมาตรการการป้องกันไวรัสชนิดนี้ มีการตั้งจุดคัดกรองไวรัสโดยเฉพาะในสนามบินของประเทศมาเลเซีย สิงคโปร์ อินโดนีเซีย ฮ่องกง สหรัฐอเมริกา และ รัสเซีย ที่เริ่มคัดกรองผู้ที่บินตรงมาจากจีนแล้ว ในส่วนของประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค ได้มีมาตรการเฝ้าระวังคัดกรองและป้องกันควบคุมโรค จากไวรัสโคโรนา ดังนี้
1. ทำการคัดกรองผู้ที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่น ผู้ที่เดินทางจะต้องถูกแยกตรวจโดยการผ่านเครื่องเทอร์โมสแกน บริเวณด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศใน 4 ท่าอากาศยาน ได้แก่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ดอนเมือง เชียงใหม่ และภูเก็ต
2. ขอความร่วมมือให้โรงพยาบาล เพื่อทำการคัดกรองผู้ป่วยที่มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ และมีประวัติการเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น
3. การเฝ้าระวังในชุมชน โดยให้ความรู้ประชาชน เมื่อพบนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากพื้นที่ระบาดของโรค มีอาการไข้ ร่วมกับมีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้แจ้งบุคลากรสาธารณสุขในพื้นที่ หรือโทรหาสายด่วนกรมควบคุมโรค DDC Hotline 1422
นอกจากนี้ยังมีการเปิดศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) เพื่อเฝ้าระวังผู้ป่วยที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นอย่างเข้มข้น นักท่องเที่ยวทุกคนจะได้รับบัตรเฝ้าระวังสุขภาพ (Health Beware Card) ให้สังเกตอาการและยื่นให้กับโรงพยาบาลทราบเวลาไปตรวจรักษา
นอกจากนี้ สำนักข่าวอาร์ไอเอของรัสเซียรายงานว่า น.ส.เอเลนา เยซโลวา หัวหน้าสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภคของรัสเซียเปิดเผยว่า รัสเซียกำลังพัฒนาวัคซีนขึ้นมาเพื่อต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
คำแนะนำสำหรับผู้ที่จำเป็นต้องเดินทางไปเมืองอู่ฮั่นหรือประเทศจีน
- ระหว่างเดินทางไปต่างประเทศ ต้องหลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่แออัด มลภาวะเป็นพิษ และไม่อยู่ใกล้ชิดผู้ป่วยที่ไอ หากเลี่ยงไม่ได้ควรสวมใส่หน้ากากอนามัยป้องกัน
- หลีกเลี่ยงการเข้าไปตลาดค้าสัตว์มีชีวิต การสัมผัสหรืออยู่ใกล้ชิดกับสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสัตว์ที่ป่วยหรือตาย และหลีกเลี่ยงการกินสัตว์แปลกๆหรือเนื้อสัตว์ที่ไม่สุกดี
- หมั่นล้างมือให้สะอาดอยู่เสมอด้วยน้ำ และสบู่ หรือเจลแอลกอฮอลล์ทำความสะอาดมือ ไม่นำมือมาสัมผัสตา จมูก ปาก โดยไม่จำเป็น
- ไม่ใช้ของส่วนตัวร่วมกับผู้อื่น เช่น ผ้าเช็ดหน้า แก้วน้ำ ผ้าเช็ดตัว เพราะไวรัสสามารถเข้าสู่ร่างกายได้ทางการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ติดเชื้อ
- รักษาร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอและนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
- หลังเดินทางกลับถึงประเทศไทย ภายใน 14 วัน ถ้ามีอาการไข้ มีอาการระบบทางเดินหายใจ เช่น ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก หายใจเหนื่อยหอบ ให้สวมหน้ากากอนามัย และรีบไปพบแพทย์หรือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทันที พร้อมทั้งแจ้งประวัติการเดินทาง เนื่องจากมีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนปอดบวม และมีอาการรุนแรง ถึงขั้นเสียชีวิตได้
แนวโน้มในอนาคต
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 ม.ค. ว่านายเทดรอส แอดนาฮอม เกเบรเยซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก (WHO) แถลงว่ายังไม่ได้ข้อสรุปชัดเจน ว่าสมควรประกาศให้สถานการณ์ไวรัสอู่ฮั่นเป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ” หรือไม่ แต่จะมีการประชุมกันอีกครั้งในวันนี้ ซึ่งการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินโดยดับเบิลยูเอชโอจะเป็นการกระตุ้นความร่วมมือระหว่างประเทศ เพื่อเร่งหาทางยับยั้งการแพร่ระบาดของโรคชนิดนั้น
เรียกว่าเป็นการเริ่มต้นปีที่หนักหนาเอาการสำหรับสุขภาพของคนไทยนะคะ ไหนชาวกทม.จะต้องเผชิญกับฝุ่น PM 2.5 อยู่แล้ว และยังจะมีไวรัสสายพันธุ์ใหม่ระบาดมาจากจีนอีก ซึ่งล่าสุดยืนยันแล้วว่าผู้ป่วยที่จังหวัดนครปฐมติดเชื้อไวรัสโคโรนาจริง ดังนั้นการสวมหน้ากากอนามัยจึงเป็นสิ่งที่จำเป็นมากค่ะ คุณพ่อคุณแม่ต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยให้ลูกน้อยอยู่เสมอเมื่อออกนอกบ้าน รวมทั้งดูแลตัวเองให้ดีด้วยนะคะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th