อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดของ ไวรัส covid-19 

อัพเดทสถานการณ์ล่าสุดของ ไวรัส covid-19

แม้จะผ่านมาเป็นเวลาเดือนกว่า ๆ แล้วก็ตาม แต่ความรุนแรงของเชื้อ “ไวรัส covid-19” ก็ยังคงไม่จางหายไป มิหนำซ้ำกลับจะเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นและแพร่กระจายไปยังประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก สร้างความหวาดหวั่นให้ผู้คนกันอย่างถ้วนทั่ว วันนี้ Motherhood จะมาอัพเดทสถานการณ์ล่าสุด พร้อมทั้งแนะนำวิธีปฏิบัติตัวเมื่อออกจากบ้าน เพื่อให้ทุกคนในครอบครัวหลีกเลี่ยงการรับเชื้อไวรัส covid-19 ให้ได้มากที่สุด

อัพเดทสถานการณ์โลกของไวรัส covid-19

เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ยอดผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสเพิ่มขึ้นทั่วโลก หลังจากที่ไทย สหรัฐอเมริกา และออสเตรเลีย พบผู้เสียชีวิตรายแรกของประเทศ ด้วยเหตุนี้เองรัฐบาลในหลายประเทศจึงตัดสินใจยกระดับมาตรการป้องกันการระบาดของโรค

สำหรับประเทศไทย ผู้เสียชีวิตรายแรกนี้เป็นพนักงานขายชายอายุ 35 ปี ที่พบว่าเป็นไข้เลือดออก ก่อนที่จะติดเชื้อไวรัส covid-19 ร่วมด้วย ส่วนทางออสเตรเลียเป็นชายวัย 78 ปี ที่โดยสารเรือสำราญไดมอนด์ พรินเซส ที่กลายเป็นแหล่งแพร่เชื้ออย่างดีจนมีผู้ป่วยร่วม 700 ราย ในสหรัฐอเมริกา ผู้เสียชีวิตรายแรกเป็นชายวัย 50 กว่าที่อาศัยอยู่ในรัฐวอชิงตัน โดยที่เขาไม่มีประวัติการเดินทาง ทำให้เป็นที่คาดการณ์ว่าติดเชื้อมาจากการระบาดในชุมชน ผู้ว่าการรัฐจึงออกมาประกาศภาวะฉุกเฉิน ซึ่งวันจันทร์ที่ผ่านมาพบว่ามีชายอายุ 60 กว่าปีเสียชีวิตเพิ่มอีก 2 คน และยังสงสัยกันว่าจะมีการระบาดในสถานดูแลผู้สูงอายุแห่งหนึ่งในรัฐอีกด้วย ในขณะที่รัฐโรด ไอส์แลนด์ได้ออกมาแถลงว่าพบผู้เข้าข่ายติดเชื้อคนแรกของรัฐ เป็นชายอเมริกันวัย 40 ปีที่เพิ่งเดินทางกลับจากประเทศอิตาลี ที่ได้ชื่อว่ามีเชื้อแพร่ระบาดหนักกว่าประเทศอื่นในยุโรป ทั้งหมดทั้งมวลนี้ทำให้สหรัฐอเมริกามีผู้ติดเชื้อและเข้าข่ายติดเชื้อทั้งหมด 74 คน โดย 24 คนเกิดจากการติดเชื้อภายในประเทศ

ทางด้านบริษัทยา Gilead Sciences จากอเมริการะบุว่าจะเริ่มนำยา Remdesivir ไปทดลองใช้ทดลองกับผู้ป่วยประมาณ 1,000 คนในเดือนนี้ ซึ่งยาตัวนี้จัดว่าเป็นยาที่น่าจะมีประสิทธิภาพมากที่สุดในขณะนี้ที่จะใช้รักษาโคโรนาไวรัส ซึ่งก่อนหน้านี้มีการนำไปทดลองใช้มาแล้วที่เมืองอู่ฮั่น

นอกจากนี้ หลาย ๆ ประเทศ ยังรายงานตรงกันว่าพบการติดเชื้อ covid-19 รายแรกในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่าน เช่น กาตาร์ เอกวาดอร์ สาธารณรัฐโดมินิกัน อาร์เมเนีย ลักเซมเบอร์ก ไอร์แลนด์ สก็อตแลนด์ และสาธารณรัฐเชค ซึ่งใน 2 ประเทศหลังนี้ได้รายงานว่าผู้ติดเชื้อรายแรกของประเทศเพิ่งกลับจากการเดินทางไปยังตอนเหนือของอิตาลี ​

ทางฝั่งยุโรปก็มีความกังวลไม่แพ้กัน เริ่มที่ฝรั่งเศสประกาศห้ามไม่ให้มีการชุมนุมมากกว่า 5,000 คนเพื่อป้องกันการระบาดของไวรัส ทำให้งานวิ่งปารีส ฮาล์ฟ มาราธอนในวันอาทิตย์ที่ผ่านมาถูกยกเลิกไปด้วย ในขณะที่พิพิธภัณฑ์ยอดนิยมของโลกอย่างลูฟวร์ ในกรุงปารีส ตัดสินใจปิดให้บริการหลังจากที่พนักงานออกมาแสดงความกังวลการแพร่ระบาดของไวรัส

ส่วนทางเอเชีย จำนวนผู้ติดเชื้อในเกาหลีใต้และอิหร่านนั้นพุ่งสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในเกาหลีใต้มีผู้ติดเชื้อทั้งหมด 3,150 คน ส่วนทางการอิหร่านรายงานในวันอาทิตย์ว่าขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็น 54 คนแล้ว หลังจากที่ยอดผู้ติดเชื้อพุ่งสูงขึ้นเกือบ 1,000 คน

สถานการณ์ล่าสุดในวันอาทิตย์ที่ผ่าน พบว่ายอดตัวเลขผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสทั่วโลกอยู่ที่อย่างน้อย 87,000 คน และมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 3,000 คนแล้ว

แอพลิเคชันประเมินความเสี่ยง covid-19

คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ร่วมมือกับสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และกระทรวงสาธารณสุข พัฒนาแอปพลิเคชันแบบคัดกรองตนเองเบื้องต้น 3 ภาษา เพื่อประเมินความเสี่ยงสำหรับผู้ที่สงสัยว่าจะติดเชื้อไวรัส covid-19 พร้อมให้คำแนะนำในการปฏิบัติตัวของแต่ละระดับความเสี่ยง แอปพลิเคชันคัดกรองตัวนี้ ถูกจัดทำขึ้น 3 ภาษา คือ ไทย อังกฤษ และจีน โดยอ้างอิงจากแนวทางการเฝ้าระวังและสอบสวนโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 ของกระทรวงสาธารณสุข และได้พัฒนาเกณฑ์การประเมินผลความเสี่ยงในการติดเชื้อร่วมกับสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ และโรงพยาบาลนครพิงค์ จังหวัดเชียงใหม่

แอปพลิเคชันนี้มีผู้ใช้งานทั้งในประเทศและต่างประเทศ เพื่อคัดกรองตนเอง สำหรับผู้สงสัยที่จะติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในการคัดกรองตนเองเบื้องต้น เพื่อประเมินความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ พร้อมคำแนะนำในการปฏิบัติตัวของแต่ละระดับความเสี่ยง แอปพลิเคชันนี้มีประโยชน์มากสำหรับผู้ที่เป็นกังวลและต้องการประเมินความเสี่ยงที่จะติดเชื้อไวรัส covid-19 โดยสามารถเข้าไปประเมินด้วยการตอบคำถาม 4 ประเด็นได้แก่

1. การมีไข้
2. อาการสำคัญที่เกี่ยวข้อง เช่น เจ็บคอ น้ำมูกไหล เหนื่อยหอบ
3. ประวัติการเดินทางมาจากประเทศจีนหรือพื้นที่ที่มีการระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ในช่วงเวลา 14 วันก่อนเริ่มป่วย
4. ประวัติสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่ต้องสงสัยติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

โดยหลังจากตอบคำถามทั้ง 4 ข้อนี้แล้ว แอฟพลิเคชันจะทำการประเมินผลความเสี่ยงออกเป็น 3 ระดับ ได้แก่

1. สีเขียว – ไม่เข้าเกณฑ์การติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019
2. สีเหลือง – แยกตัวเองเพื่อสังเกตอาการ หากพบว่าไม่สบายหรืออาการยังไม่ดีขึ้น ให้ไปพบแพทย์
3. สีแดง – รีบพบแพทย์ที่ใกล้ที่สุด

ซึ่งแอปพลิเคชันคัดกรองตนเองเบื้องต้นนี้จะมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางและเกณฑ์ของกระทรวงสาธารณสุข เช่น การเพิ่มระดับความเข้มข้นของการคัดกรอง ตามความเหมาะสมต่อไป

ออกจากบ้านอย่างไรให้ปลอดภัย

คงจะเป็นไปไม่ได้หากจะห้ามให้คนกลุ่มที่ไม่ต้องกักบริเวณตัวเองหลังจากเดินทางไปประเทศกลุ่มเสี่ยงต้องอยู่แต่กับบ้านเพราะความกังวลเรื่องเชื้อ เพราะเรื่องของธุรกิจการงานยังต้องดำเนินต่อไป แต่เราก็สามารถทำให้การออกนอกบ้านของเราปลอดภัยเพิ่มขึ้นได้ เหล่านี้คือสิ่งที่คุณจำเป็นต้องทำเพิ่มขึ้นในยามที่ต้องเดินทางไปในที่ชุมชน

1. หลีกเลี่ยงการจับราวบันได บันไดเลื่อน หรือทางเลื่อนในสนามบิน ให้ปล่อยมือแนบลำตัวหรือกอดอกไว้แทน
2. เมื่อขึ้นลงบันได บันไดเลื่อน หรือใช้งานทางเลื่อน ให้เว้นระยะห่างทั้งหน้าและหลัง
3. เมื่อจะกดปุ่มลิฟต์หรือของใช้สาธารณะอื่นที่มีปุ่ม ไม่ควรใช้ปลายนิ้วสัมผัสโดยตรงตามปกติ ควรใช้ข้อนิ้วกดแทนหรือใช้ทิชชูหุ้มนิ้วไว้ก่อนกด
4. การล้างมือ ต้องใช้สบู่ทุกครั้ง และควรฟอกอย่างน้อย 20 วินาที
5. พกเจลแอลกอฮอล์หรือสเปรย์แอลกอฮอล์ติดตัวเสมอ
6. หากยังไม่ล้างมือ ไม่ควรขยี้ตา จับจมูก หยิบอาหารเข้าปาก หรือจับหน้ากากอนามัย
7. หลังใช้เงินสดต้องล้างมือให้สะอาด เพราะเป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคอย่างดี
8. ในการไอหรือจาม อย่าใช้มือปิด ให้เลี่ยงเอาข้อพับศอกขึ้นมาบังแทน เพื่อลดการแพร่เชื้อไปสู่สิ่งของที่ต้องใช้ร่วมกับผู้อื่น
9. หากต้องไปสนามบิน ท่ารถ หรือสถานีรถไฟ ให้นั่งรอแบบเว้นระยะห่างจากผู้อื่นสัก 2-3 เมตร อย่านั่งชิดหรือเผชิญหน้าโดยไม่จำเป็น
10. หมั่นเช็คตัวเองให้สวมใส่หน้ากากอนามัยอย่างถูกต้องอยู่เสมอ เพื่อประสิทธิภาพในการป้องกันที่ดี

หวังว่าทุกคนจะรักษาเนื้อรักษาตัวให้ปลอดภัยในช่วงที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่กำลังแพร่กระจายได้เป็นอย่างดีนะคะ นอกจากมาตรการป้องกันที่แพทย์แนะนำแล้ว เรื่องอาหารการกินที่ดีและการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอก็เป็นอีกวิธีที่จะช่วยเสริมภูมิต้านทานของเราให้แข็งแรงด้วยค่ะ

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th