Site icon Motherhood.co.th Blog

การทำหมัน จะทำหมันแบบไร้แผลไปเลยดีมั้ย

การทำหมันยุคใหม่

การทำหมันมีแบบใดบ้าง เลือกแบบไหนถึงจะดี

การทำหมัน จะทำหมันแบบไร้แผลไปเลยดีมั้ย

สำหรับครอบครัวที่มีลูกเพียงพอกับความต้องการแล้ว “การทำหมัน” ก็เป็นตัวเลือกของการคุมกำเนิดแบบถาวรที่ดี แต่สมัยนี้เรามีการทำหมันแบบไร้แผล ที่จัดว่าเป็นการคุมกำเนิดแบบถาวรที่มั่นใจได้ว่าหมันจะไม่หลุดจริง ๆ หากคุณเป็นอีกคนที่ยังไม่แน่ใจว่าการทำหมันประเภทต่าง ๆ นั้นมีข้อดีข้อเสียที่แตกต่างกันอย่างไร ต้องลองอ่านบทความวันนี้ค่ะ

การทำหมันหญิง

ที่ผ่านมาการทำหมันสำหรับผู้หญิงมีทำกันอยู่เพียง 2 วิธีเท่านั้น คือ การทำหมันเปียก (Tubal ligation) และทำหมันแห้ง

แพทย์จะตัดและผูกบริเวณท่อนำไข่

เป็นการทำหมันหลังจากคลอดแล้ว โดยแพทย์จะตัดท่อนำไข่ทั้งสองข้างและผูกช่วงปลายที่ตัดไว้ สำหรับการทำหมันประเภทนี้ในกรณีที่คลอดธรรมชาติ ถ้าคลอดแล้วไม่มีปัญหาอะไร แพทย์ก็สามารถทำหมันให้ได้เลย โดยจะทำการเจาะหน้าท้องบริเวณใต้สะดือเพื่อเข้าไปยังท่อนำไข่ จากนั้นจึงทำการตัดท่อนำไข่ทั้ง 2 ข้าง

เป็นการทำหมันที่มดลูกมีขนาดปกติ โดยแพทย์จะผ่าตัดเข้าทางหน้าท้องเหนือกระดูกหัวหน่าวเล็กน้อย จากนั้นจะใช้วิธีผูกและตัดท่อนำไข่ แต่เมื่อวิทยาการของการทำหมันได้พัฒนามากขึ้น แพทย์จึงหันมาใช้วิธีส่องกล้องเข้าไปในช่องท้องบริเวณใต้สะดือ ทำให้การทำหมันง่ายขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก

การทำหมันวิธีนี้ แพทย์จะส่องกล้องเข้าไปในโพรงมดลูก และนำเครื่องมือซึ่งโลหะรูปสปริงใส่ผ่านช่องคลอด แล้วสอดผ่านเข้าไปทางปลายเปิดของท่อนำไข่เมื่อเข้าไปได้แล้วสปริงจะถ่างขยายตัวออกมา หลังจากใส่สปริงเข้าไปแล้วก็จะทำการบล็อกท่อนำไข่ โดยใช้เวลาในการผ่าตัดไม่นาน เพียง 5-10 นาทีเท่านั้น จากนั้นต้องรอเวลาการเกิดพังผืดประมาณ 3 เดือนหลังจากการทำหมัน ทำให้ยังต้องมีการคุมกำเนิดระหว่างช่วงเวลา 3 เดือนนี้ด้วย หลังจากนั้นเมื่อมีเพศสัมพันธ์การตั้งครรภ์ก็จะไม่เกิดขึ้น การทำหมันชนิดนี้รวดเร็ว ไม่เจ็บ และยังไม่มีแผลอีกด้วย สามารถกลับไปทำงานต่อหรือไปทำกิจกรรมอย่างอื่นได้ตามปกติ แต่ควรทราบไว้ว่าการทำหมันไร้แผลถือเป็นการทำหมันถาวร หากตัดสินใจทำแล้วก็จะไม่สามารถมีลูกได้อีก

การทำหมันชาย

การทำหมันชาย (Vasectomy หรือ Male sterilization) คือ การคุมกำเนิดถาวรโดยการตัดและผูกท่อทางเดินของเชื้ออสุจิ เพื่อไม่เปิดโอกาสให้เชื้ออสุจิเดินทางเข้ามาในช่องคลอดขณะมีเพศสัมพันธ์ได้ โดยที่ลูกอัณฑะยังคงผลิตเชื้ออสุจิและฮอร์โมนต่าง ๆ อยู่เหมือนเดิม เพียงแต่ตัวอสุจิจะไม่สามารถเดินทางผ่านท่ออสุจิออกมาได้ และพวกมันจะสลายตัวไปเองตามกรรมวิธีของร่างกาย โดยไม่เป็นอันตรายใด ๆ ส่วนน้ำอสุจิก็ยังคงมีอยู่เหมือนเดิมตามปกติ

ผ่าตัดท่อทางเดินเพื่อให้ตัวอสุจิเดินทางออกมาไม่ได้

ส่วนวิธีการผ่าตัดทำหมันชายในปัจจุบันจะมีอยู่ด้วยกัน 2 วิธี คือ

ใครที่ไม่ควรทำหมันชาย

  1. ผู้ที่ยังไม่แน่ใจว่าจะอยากมีลูกอีกหรือไม่
  2. ผู้ที่มีภาวะแข็งตัวของเลือดผิดปกติ หากได้รับยาละลายลิ่มเลือดหรือยาต้านการแข็งตัวของเกล็ดเลือด ควรแจ้งให้แพทย์ทราบก่อน และต้องงดยาดังกล่าวก่อนทำการผ่าตัด
  3. ในช่วงเวลาที่ทำการผ่าตัดทำหมัน จะต้องไม่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์หรือมีการติดเชื้อบริเวณถุงอัณฑะ

ประสิทธิภาพในการทำหมัน

การทำหมันชายถือเป็นวิธีการคุมกำเนิดที่ดีที่สุดในปัจจุบัน เนื่องจากปลอดภัย มีผลข้างเคียงน้อย และมีประสิทธิภาพสูงมาก แม้จะไม่ 100% ก็ตาม ซึ่งตามหลักแล้วการทำหมันชายอย่างถูกต้องจะมีโอกาสล้มเหลว ทำให้ฝ่ายหญิงเกิดการตั้งครรภ์ได้เพียง 0.1% เท่านั้น ซึ่งหมายความว่า จำนวนการตั้งครรภ์ต่อปีของผู้หญิงจำนวน 1,000 คน จะมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ประมาณ 1 คน แต่โดยทั่วไปแล้วจากการใช้งานจริงกลับพบว่า อัตราการล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์จะเพิ่มสูงมากขึ้นเล็กน้อยเป็น 0.15% หรือคิดเป็น 1 ใน 666 คน ในจุดนี้คาดว่าเกิดจากการความผิดพลาดในการผ่าตัด หรือเกิดจากการเชื่อมต่อกันเองของท่อทางเดินของเชื้ออสุจิ

ในขณะที่การทำหมันหญิงแบบทั่วไป (Tubal ligation) จะมีโอกาสล้มเหลวทำให้เกิดการตั้งครรภ์ได้มากกว่าการทำหมันชายมากกว่า 5 เท่าตัว คือ 0.5% หรือคิดเป็นอัตรา 1 ใน 200 คน

หากมีลูกพอแก่ความต้องการแล้ว การทำหมันก็เป็นการคุมกำเนิดที่ดี

ผู้หญิงหรือผู้ชาย ใครควรเป็นฝ่ายทำหมัน ?

ผู้ชายบางคนมักจะไม่ยอมทำหมันเพราะไม่เคยผ่านความเจ็บปวดอย่างการคลอดเหมือนที่ผู้หญิงต้องเผชิญ บวกกับมีความเชื่อผิด ๆ ที่คิดว่าการทำหมันคือการตอน ทำแล้วจะใช้งานไม่ได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำหมันชายนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ง่ายมาก สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัยสูง ราคาไม่แพง ด้วยเหตุผลเหล่านี้ทำให้แพทย์ส่วนใหญ่ก็มักแนะนำให้ฝ่ายชายเป็นผู้ทำหมัน

เรื่องการวางแผนคุมกำเนิดนั้นเป็นสิ่งที่ต้องคิดให้รอบคอบนะคะ เพราะมันสามารถส่งผลถึงเรื่องการเงินในครอบครัวด้วย หากคิดว่ามีลูกเพียงพอกับที่ต้องการแล้ว ก็ให้ปรึกษาแพทย์ตั้งแต่ยังไม่คลอดเลยว่าหากจะทำหมันหลังคลอดเจ้าตัวน้อยเลยจะดีหรือไม่ หรือแพทย์จะมีคำแนะนำอย่างไรนอกเหนือไปจากนี้ค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th