คนท้องกินทุเรียนได้ไหม กินแล้วจะส่งผลอย่างไร
คุณแม่ที่ตั้งครรภ์นั้นต้องดูแลสุขภาพของตัวเองอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน แต่บางครั้งก็แพ้ท้องอยากกินนั่นนี่ บางคนมีคำถามว่า “คนท้องกินทุเรียนได้ไหม” กินแล้วปลอดภัยต่อลูกในท้องหรือเปล่า หรือควรหลีกเลี่ยงไปเลยดี วันนี้เรามีคำตอบมาให้ค่ะ
การรับประทานทุเรียนตอนตั้งครรภ์ปลอดภัยมั้ย?
ทุเรียนเป็นผลไม้ชนิดนึงที่มีสารอาหารสูง แต่ผู้คนก็ยังตั้งข้อสงสัยกันมาตลอดว่ามันปลอดภัยหรือไม่ที่จะรับประทานในระหว่างที่ตั้งครรภ์ ประเทศในเอเชียบางประเทศ เช่นไทยเรา มีความเชื่อว่าทุเรียนคือผลไม้ต้องห้ามสำหรับคนท้อง เพราะมันจะเข้าไปสร้างความร้อนในร่างกายและกระทับถึงทารกในครรภ์ได้ ถึงกระนั้นก็ไม่มีงานวิจัยใดๆออกมารองรับว่าทุเรียนจะสามารถสร้างความร้อนมากขนาดนั้นภายในร่างกายหญิงตั้งครรภ์จนส่งผลเสียต่อทารกในครรภ์ได้จริง
หากเป็นเช่นนั้น คนท้องกินทุเรียนได้ไหม? แน่นอนค่ะ คุณแม่ท้องสามารถรับประทานทุเรียนได้ เพราะมันอุดมไปด้วยสารอาหารและวิตามินมากมาย ทั้งสารออร์กาโน-ซัลเฟอร์ (Organo-Sulphur) และ ทริปโตเฟน (Tryotophan) ซึ่งจะให้ผลลัพธ์ในการต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งยังมีคุณสมบัติต้านแบคทีเรีย ไวรัส และจุลชีพต่างๆด้วย จึงทำให้มันปลอดภัยสำหรับแม่ตั้งครรภ์ แต่ก็ต้องจำไว้ว่าไม่ควรเผลอใจรับประทานมากจนเกินไป เพราะจะส่งผลเสียได้เช่นกัน และหากคุณแม่ท่าไหนยังไม่เคยรับประทานทุเรียนมาก่อน และอยากจะลองเป็นครั้งแรกก็ควรปรึกษาแพทย์เพื่อความแน่ใจ
คุณประโยชน์ของทุเรียนที่มีต่อคุณแม่ตั้งครรภ์
ทุเรียนอุดมไปด้วยสารอาหารที่จำเป็นหลายอย่างต่อร่างกาย ทั้งสารที่ช่วยยับยั้งแบคทีเรีย ไวรัส และจุลชีพตามที่เคยกล่าวไปแล้วนั้น สำหรับคนท้อง ทุเรียนเองก็ยังให้ประโยชน์ได้ ดังนั้น
- อุดมไปด้วยไฟเบอร์
คุณแม่ท้องหลายคนจะต้องเผชิญกับอาการท้องผูกระหว่างตั้งครรภ์ เพราะฮอร์โมนในร่างกายผันผวนเปลี่ยนแปลง ทุเรียนจะมีฤทธิ์เป็นยาระบายอ่อนๆและช่วยในการขับเอาสารพิษที่ตกค้างออกจากอวัยวะภายใน และยังปกป้องเยื่อเมือกบุผิวที่มีในกระเพาะอาหารและลำไส้ เพราะในเส้นใยของไฟเบอร์จะช่วยลดระยะเวลาที่จะสัมผัสกับสารพิษ
- แหล่งรวมโฟเลท
ทุเรียนเต็มไปด้วยกรดโฟลิค ซึ่งจะช่วยป้องกันการเกิดความผิดปกติในทารกแรกเกิด เราจะได้รับกรดโฟลิคถึง 9% ของปริมาณที่แนะนำต่อวันในการรับประทานทุเรียนเพียง 100 กรัม
- มีวิตามินบีสูง
ทุเรียนเป็นแหล่งรวมของวิตามินบีหลายตัว ทั้งวิตามินบี 1 (ไทอามีน) วิตามินบี 2 (ไรโบฟลาวิน) และวิตามินบี 3 (ไนอาซิน) ซึ่งจะช่วยดูแลสุขภาพโดยรวมของหญิงตั้งครรภ์
- เต็มไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ
ทุเรียนมีสังกะสี ทริปโตเฟน และออร์กาโน-ซัลเฟอร์ ที่ให้ผลในการต้านอนุมูลอิสระ มันจะรวมกันปกป้องคุณแม่และตัวอ่อนจากมลสารอนุมูลอิสระ
- วิตามินซีสูง
วิตามินซีไม่เพียงแต่ช่วยในเรื่องระบบภูมิคุ้มกันเท่านั้น แต่มันยังช่วยว่าที่คุณแม่และตัวอ่อนในการดูดซึมแคลเซียมและธาตุเหล็กอีกด้วย
- แร่ธาตุจัดเต็ม
ในทุเรียนมีทั้งธาตุเหล็ก ทองแดง แมงกานีส และแมกนีเซียม ซึ่งจำเป็นต่อผู้หญิงตั้งครรภ์ในการสร้างเลือดเพิ่มเติมเพื่อไปเลี้ยงตัวอ่อน
- ปราศจากไขมันอิ่มตัว
ทุเรียนไม่มีคลอเรสเตอรอลและไขมันอิ่มตัว ในขณะที่มีปริมาณเกลือต่ำ จึงช่วยระบบไหลเวียนเลือดในร่างกายระหว่างที่ตั้งครรภ์
- ป้องกันการเกิดกรด
ทุเรียนช่วยป้องกันการเกิดกรด เพราะมันมีฤทธิ์ต้านความเป็นกรด
- ต้านเศร้า
ช่วยต้านความซึมเศร้าระหว่างการตั้งครรภ์และหลังคลอดได้
ทำไมถึงควรรับประทานทุเรียนแต่น้อยในช่วงตั้งครรภ์?
ถึงแม้ทุเรียนจะมีสารอาหารมากมาย แต่ก็เป็นอาหารที่มีค่าดับชีน้ำตาลสูง เพราะเต็มไปด้วยน้ำตาลและคาโบไฮเดรท ทุเรียน 2 เม็ดขนาดกลางจะให้พลังงานถึง 60 แคลอรี่ ดังนั้นการรับประทานทุเรียนมากเกินไปอาจนำไปสู่การพุ่งขึ้นอย่างเฉียบพลันของน้ำตาลกลูโคสในเลือด และจะเพิ่มน้ำให้ตัวอ่อนด้วย สิ่งนี้จะกลายเป็นอุปสรรคในการคลอดแบบธรรมชาติ และยังเป็นสาเหตุสำคัญของโรคอ้วนในวัยเด็กด้วย
ใครที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทุเรียนระหว่างตั้งครรภ์?
ระดับน้ำตาลและคาโบไฮเดรทที่สูงในทุเรียนได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นอันตรายต่อแม่ท้องบางคน คุณแม่กลุ่มที่ควรหลีกเลี่ยงการรับประทานทุเรียนในช่วงนี้ ได้แก่
- คุณแม่ที่มีภาวะเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- คุณแม่ที่มีประวัติการเป็นเบาหวานขณะตั้งครรภ์
- คุณแม่ที่มีสมาชิกใกล้ชิดในครอบครัวเป็นโรคเบาหวาน
- คุณแม่ที่มีภาวะน้ำหนักเกิน
- คุณแม่ที่ได้รับการแนะนำให้ควบคุมน้ำหนักอย่างเคร่งครัด
- คุณแม่ที่ตั้งครรภ์มาถึงไตรมาสที่สาม
ถึงตอนนี้ ถ้าคุณแม่ยังสงสัยอยู่ว่าคนท้องกินทุเรียนได้ไหม และกินได้มากน้อยอย่างไร ทางสายกลางคือคำตอบที่ดีที่สุดค่ะ แต่จะให้ดียิ่งขึ้นก็ต้องได้คำปรึกษาจากแพทย์ก่อนเสมอ
โดยสรุปแล้วทุเรียนนั้นถือว่าปลอดภัยสำหรับผู้หญิงตั้งครรภ์ เพราะมันมีสารอาหารที่จำเป็นมากมายและดีต่อการตั้งครรภ์ด้วย เพียงแต่ต้องรับประทานให้พอเหมาะ ไม่รับประทานจนมากเกินไป และรู้ตัวอยู่เสมอว่าเข้าข่ายห้ามรับประทานหรือไม่
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th