Site icon Motherhood.co.th Blog

วิธีพูดกับลูกเรื่อง “ซานตาคลอส”

สอนลูกเรื่องซานตาคลอส

เมื่อเด็ก ๆ เริ่มสงสัยเรื่องซานตาคลอส พ่อแม่จะอธิบายยังไงได้บ้าง

วิธีพูดกับลูกเรื่อง “ซานตาคลอส”

วันคริสต์มาสใกล้มาถึงเต็มที และคุณก็คงหนีไม่พ้นที่จะต้องตอบคำถามลูกเรื่อง “ซานตาคลอส” อีกตามเคย แต่คุณจะมีวิธีอธิบายหรือบอกเล่าลูกเกี่ยวกับคุณลุงซานต้าอย่างไร ในเมื่อเรื่องราวของดินแดนขั้วโลกเหนือช่างเป็นเรื่องที่ดูจะไกลตัวพวกเราคนไทยเสียเหลือเกิน บทความวันนี้อาจมีทางออกดี ๆ ให้กับคุณค่ะ

ในขณะที่ลูกของคุณยังเล็ก เขาอาจจะได้พบเห็นคุณลุงซานต้าตัวปลอมเวลาที่เขาไปห้างสรรพสินค้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาส หรือแม้แต่ที่โรงเรียนของเขาเอง ก็อาจจะมีกิจกรรมที่ให้ครูผู้ชายสักคนแต่งตัวเป็นซานต้าแบกถุงของขวัญมาแจกเด็ก ๆ แต่เมื่อเด็กโตขึ้น พวกเขาอาจมีคำถามมากขึ้นเกี่ยวกับลุงซานต้าและวิธีการแจกของขวัญ เมื่อถึงเวลาที่คุณต้องให้ข้อมูลเพิ่มเติมกับพวกเขา นี่คือวิธีบอกลูก ๆ ของคุณเกี่ยวกับซานตาคลอส

แท้จริงแล้วคือนักบุญนิโคลัส

ซานตาคลอสมีจริงไหม ?

เรื่องเล่าของซานตาคลอส ชายหนวดเคราขาวในชุดสีแดงที่มาพร้อมกับกวางเรนเดียร์และรถลากเลื่อนเหาะได้ เขาลงไปหย่อนของขวัญให้เด็ก ๆ ทั่วโลกทางปล่องไฟ ดูเหมือนเรื่องราวของชายแก่ใจดีในชุดสีแดงนี้เป็นตำนานที่ไม่แน่ชัดว่ามีจริงหรือไม่ แต่เท่าที่มีผู้สืบค้นไว้ พบว่าลุงซานต้าขวัญใจเด็ก ๆ แท้จริงแล้วคือนักบุญนิโคลัส ที่ไม่ได้มีรูปร่างอ้วนท้วมตามตำนานซานต้าที่เราและพวกเด็ก ๆ ได้ยินแต่อย่างใด

นักบุญนิโคลัสเกิดในเมือง Patara แคว้น Lycia เขาเป็นลูกของคหบดีชาวคริสต์นิกายออร์โธด็อกซ์ผู้เคร่งศาสนา พ่อแม่ของเขาตายด้วยโรคระบาด เมื่อโตขึ้นเขาจึงได้รับการอุปการะจากลุงซึ่งเป็นบิชอปแห่ง Patara และต่อมาจึงได้เจริญรอยตามเป็นนักบวช

ภาพวาดของนักบุญนิโคลัสที่ประดับอยู่ตามโบสถ์คริสต์นั้น ไม่ใช่ภาพของชายเครางามที่มีรูปร่างอ้วนท้วมแบบซานตาคลอส แต่เป็นภาพของชายชราหนวดเครารุงรัง หัวล้าน และมีรูปร่างผอมสูง

หนึ่งในตำนานของขวัญแห่งซานตาคลอสที่เล่าต่อกันมา เกิดขึ้นจากการที่นักบุญนิโคลัสได้ช่วยเหลือครอบครัวยากจนที่มีลูกสาว 3 คนให้มีเงินสินสอด เพราะในช่วงเวลานั้นหญิงสาวที่ไม่แต่งงานอาจจะถูกกล่าวหาว่าเป็นโสเภณีได้ ท่านได้แอบไปที่บ้านของครอบครัวนั้นและหย่อนถุงใส่เหรียญทองไว้ตรงปล่องเตาผิง ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่หญิงสาวได้ตากถุงเท้าไว้ตรงเตาผิงพอดี ถุงใส่เหรียญทองจึงหล่นลงไปในถุงเท้านั้น และเมื่อตื่นเช้ามา เด็กสาวก็เจอของขวัญในถุงเท้าที่เป็นเหรียญทอง ทางครอบครัวพากันแปลกใจว่าใครมาช่วยเหลือพวกเขา และได้ทราบในภายหลังว่าคือนักบุญนิโคลัสนั่นเอง

จนเมื่อเวลาผ่านไปร่วมร้อยปี ในค.ศ. 1870 ชาวฮอลแลนด์กลุ่มหนึ่งที่อพยพไปอยู่สหรัฐอเมริกาได้จัดงานฉลองนักบุญนิโคลัสขึ้นในทุกวันที่ 6 ธันวาคม พร้อมกับมีการแจกของขวัญให้เด็ก ประเพณีนี้ได้แพร่หลายออกไป และจากชื่อ ‘นิโคลัส’ ก็กลายเป็น ‘ซินเตอร์คลาส’ ในภาษาดัชท์ และกลายเป็นที่มาของ ซานตาคลอสในปัจจุบัน

ต่อมาจิตรกรนามโธมัส นาสต์ ได้เขียนภาพซานตาคลอสขึ้นมาเป็นชายแก่ร่างอ้วน ใส่เสื้อผ้าและหมวกสีแดง มีรถเลื่อนเป็นยานพาหนะที่มีกวางเรนเดียร์ลาก แต่อิทธิพลที่ทำให้ซานต้าแพร่กระจายไปทั่วอเมริกาคืองานเขียนของวอชิงตัน เออร์วิง นักประวัติศาสตร์ชาวอเมริกัน ที่เขียนถึงซานต้าในหนังสือ ‘Knickerbocker’s History of New York’ ประกอบกับบทกวีของเคลมองท์ คลาค มัวร์ ที่บรรยายถึงภารกิจส่งของขวัญของซานต้าไว้ ส่งผลให้เกิดพฤติกรรมการเลียนแบบขึ้นมากมายในช่วงคริสต์มาส ต่อมาภาพของซานตาคลอสก็ถูกนำไปโปรโมทตามห้างสรรพสินค้า ของตกแต่ง สื่อโฆษณาต่าง ๆ ตลอดจนภาพยนตร์ในช่วงเทศกาลคริสต์มาส ส่งผลให้ภาพจำดังกล่าวแพร่หลายมากยิ่งขึ้น และกลายเป็นสัญลักษณ์ของเทศกาลคริสต์มาสที่ทุกคนทั่วโลกเข้าใจตรงกันในที่สุด

จับตาดูคำถามของลูกให้ดี มันจะนำไปสู่บทสนทนา

จับตาดูคำถามของลูก

พวกเราในฐานะผู้ใหญ่เป็นคนเริ่มเรื่องราวทั้งหมด และมันก็เป็นหน้าที่ของเราเช่นกันที่จะจบเรื่องราวนั้น อย่างไรก็ตาม ทันทีที่เด็ก ๆ ของพวกเราเริ่มตั้งคำถาม มันก็ถึงเวลาแล้วที่เราจะต้องเริ่มกระบวนการวางแผน ให้คิดเสียว่านี่เป็นคำเชิญเพื่อให้คุณตัดสินใจว่าครอบครัวของคุณจะมองเรื่องราวของซานต้าอย่างไรในแบบที่ไม่เหมือนใคร

บางครั้งสัญญาณที่บ่งบอกว่าพวกเขาพร้อมมาจากการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในวิธีที่พวกเขาถามคำถามเกี่ยวกับซานต้า เมื่อเด็กเริ่มถามว่าซานตาคลอสมีจริงหรือไม่ พ่อแม่ผู้ปกครองส่วนใหญ่จะพูดว่า ‘แน่นอน’ หรือเปลี่ยนเส้นทางคำถามเพื่อไม่ให้ต้องตอบอะไรแบบเจาะจง

เมื่อเด็กพอใจกับคำตอบเช่นนี้ แม้ว่าพวกเขาจะเริ่มมีข้อสงสัย แต่พวกเขาก็อาจไม่พร้อมที่จะเลิกเชื่อ เมื่อเด็กพูดอะไรบางอย่างที่มีความหมายประมาณว่า ‘ซานต้าไม่มีจริงเหรอ?’ การสะท้อนคำถามกลับไปยังพวกเขามีประโยชน์เพื่อหาสาเหตุว่าทำไมพวกเขาถึงคิดเช่นนั้น เมื่อพวกเขาอายุมากขึ้นและสามารถคิดวิเคราะห์ได้มากขึ้น พวกเขาจะบอกคุณว่าซานต้าไม่ใช่ของจริง และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเพื่อนของพวกเขาพูดถึงซานต้าที่ไม่ได้มีอยู่จริง สิ่งเหล่านี้เป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่บอกว่าพวกเขาพร้อมจะได้ยินความจริง

สำหรับเวลาที่การเปลี่ยนแปลงเริ่มมีขึ้นจะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับตัวเด็ก แต่คาดว่าคำถามจะเกิดขึ้นอย่างจริงจังในช่วงที่เด็กอายุ 7-10 ปี ในปี 2019 House Method ได้ทำการสำรวจครอบครัวมากกว่า 4,500 ครอบครัวทั่วสหรัฐอเมริกา และพบว่าอายุเฉลี่ยโดยรวมที่เด็กไม่เชื่อในซานตาคลอสอีกต่อไปคือ 8.4 ปี

ท่าทีและความเชื่อของลูกอาจเปลี่ยนไปเองตามวัยที่โตขึ้น

ตอบสนองอารมณ์ของลูก

เด็ก ๆ ตอบสนองต่อการได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับซานต้าแตกต่างกัน เด็กวัย 9 ขวบบางคนดูเหมือนจะภูมิใจที่ได้เก็บความลับแบบที่คนโตแล้วมีกัน ซึ่งเธอสามารถเก็บมันไว้จากพี่น้องที่อายุน้อยกว่าของเธอได้ ในขณะที่เด็กบางคนอาจรู้สึกอับอายที่เชื่อมานาน หรือเสียใจที่ต้องสูญเสียซานต้าในแบบที่พวกเขารู้จักไป

อย่าพยายามชี้นำให้ลูกของคุณแสดงปฏิกิริยาบางอย่าง บทบาทของคุณในฐานะพ่อแม่ไม่ได้ควบคุมอารมณ์ของลูกไม่ว่าจะเป็นด้านบวกหรือด้านลบก็ตาม เป็นหน้าที่ของคุณในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดภัย มีความรัก และตรวจสอบได้ ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณกำลังโฟกัสอยู่ที่ความซื่อสัตย์ ความรู้สึกเชื่อมโยง และความเห็นอกเห็นใจกัน และทำให้การสนทนาจบลงด้วยความพึงพอใจของทุกคน

นอกจากนี้ คุณยังสามารถมุ่งเน้นไปที่วิธีการรักษาความรู้สึกดี ๆ ที่เกี่ยวข้องกับซานต้าต่อไป เป็นเรื่องสนุกที่ได้พูดคุยกับเด็ก ๆ เกี่ยวกับวิธีที่เราสามารถรักษาจิตวิญญาณแห่งซานต้าในช่วงเทศกาลคริสต์มาสได้ แม้ว่าเราจะแก่เกินไปที่จะเชื่อในเรื่องชายชุดแดงที่แจกของขวัญตลอดทั้งคืน การพูดคุยเกี่ยวกับจิตวิญญาณแห่งซานต้า – ความเอื้ออาทร ความเมตตา ความสุข สามารถช่วยให้เวทมนตร์มีชีวิตอยู่ได้ไม่ว่าเราจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม

จิตวิญญาณแห่งซานต้าคือการแบ่งปัน

นำพวกเขาจากการเชื่อในซานต้าไปสู่การเป็นซานต้า

คริสต์มาสเป็นเรื่องของการช่วยเหลือผู้อื่น ไม่เห็นแก่ตัว และขอบคุณในสิ่งที่คุณมี ไม่ใช่สิ่งที่คุณไม่มี เราสามารถสนับสนุนให้ลูก ๆ เชื่อในตัวซานต้า เพื่อที่วันหนึ่งพวกเขาจะได้กลายเป็นซานต้าและเป็นผู้มอบให้คนอื่น ๆ บ้าง

การสนทนาเกี่ยวกับซานต้ากับลูก ๆ ของคุณช่วยให้คุณเริ่มประเพณีใหม่ของครอบครัวด้วยกัน ทุกอย่างยังคงมีมนต์ขลัง น่าตื่นเต้น และสนุกสนาน ไม่ว่าคุณจะช่วยลูกเลือก ห่อ และมอบของขวัญที่เป็นความลับให้เพื่อนหรือสมาชิกในครอบครัวที่ลูกเลือก การทำสิ่งนี้ร่วมกันเป็นครอบครัว ลูกของคุณจะได้สัมผัสกับความสุขที่หวังว่าจะอยู่กับเขาตลอดไป จิตวิญญาณของซานตาคลอสมีอยู่จริงและอาศัยอยู่ในตัวเราทุกคนที่เชื่อในการให้และแบ่งปันกับผู้อื่น มันเป็นมรดกอันงดงามที่คนเป็นพ่อแม่จะส่งต่อให้ลูก ๆ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th