รวมขั้นตอนและสถานที่ในการ “ทำพาสปอร์ตเด็ก”
การปิดเทอมมาถึงซะที เด็กๆจะได้หยุดเป็นเวลาหนึ่งเดือน ช่วงนี้คุณพ่อคุณแม่อาจวางแผนเที่ยวไว้แล้ว ถ้ามีแผนไปต่างประเทศ อย่าลืมคิดถึงเรื่อง “ทำพาสปอร์ตเด็ก” ด้วยนะคะ เพราะมีขั้นตอนหลายอย่างที่ซับซ้อนกว่าของผู้ใหญ่ แต่ถ้าได้ใช้เวลาอ่านบทความนี้อย่างละเอียด ก็จะพบว่าไม่ใช่เรื่องยากเลยค่ะ
พาลูกไปทำหนังสือเดินทางครั้งแรก ต้องเตรียมอะไรบ้าง?
คุณพ่อคุณแม่ที่กำลังวางแผนพาลูกๆไปเที่ยวต่างประเทศเป็นครั้งแรก อาจจะรู้สึกยุ่งยากอยู่ไม่น้อยเพราะต้องพาเขาไปทำหนังสือเดินทาง ซึ่งจะต้องใช้เอกสารมากกว่าของผู้ใหญ่ ด้านล่างนี้คือขั้นตอนการทำพาสปอร์ตสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี แต่จะมีขั้นตอนอย่างไรและต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้างนั้น ลองไปดูกันเลย
เอกสารประกอบการขอหนังสือเดินทางธรรมดาสำหรับเด็กที่มีอายุต่ำกว่า 15 ปี มีดังนี้
1. สูติบัตรฉบับจริง หากเป็นสำเนาต้องมีการรับรองสำเนาถูกต้องจากอำเภอหรือเขตมาแสดง พร้อมผู้มีอำนาจปกครอง
2. บัตรประชาชนฉบับจริงของพ่อและแม่ นำบัตรประชาชนฉบับจริงของทั้งพ่อและม่มาลงนามต่อหน้าเจ้าหน้าที่ โดยต้องเป็นบัตรประจำตัวประชาชนที่ยังไม่หมดอายุใช้งาน หรือบัตรที่ใช้แทนได้ตามกฎกระทรวงมหาดไทย หากชื่อนามสกุลของพ่อแม่ในสูติบัตรไม่ตรงกับบัตรประจำตัวประชาชน ให้นำหลักฐานการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย ในกรณีที่แม่หย่าและจดทะเบียนสมรสใหม่และใช้นามสกุลตามสามีใหม่ ให้นำหลักฐานการหย่าและการสมรสครั้งใหม่ที่เป็นต้นฉบับมาแสดงด้วย
3. หนังสือยินยอมให้ผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศ จะต้องได้รับการรับรองสำเนาถูกต้องจากทางอำเภอหรือเขต
4. เอกสารอื่นๆ เช่น หลักฐานใบเปลี่ยนชื่อ เปลี่ยนนามสกุล เอกสารหลักฐานการรับรองบุตรหรือรับบุตรบุญธรรม บันทึกการหย่า ซึ่งมีข้อความระบุให้บุตรอยู่ในความดูแลของพ่อหรือแม่
5. อัตราค่าธรรมเนียม ค่าธรรมเนียมแบบปกติ ราคา 1,000 บาท ส่วนอัตราค่าธรรมเนียมหนังสือเดินทางเล่มด่วน จะอยู่ที่ 2,000 หรือ 3,000 บาท แล้วแต่กรณี
กรณีบิดาหรือมารดา หรือทั้งบิดาและมารดาไม่สามารถมาลงนามให้ความยินยอมด้วยตนเอง
เฉพาะกรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปีบริบูรณ์ จะต้องให้บุคคลที่ไม่สามารถมาลงนามให้ความยินยอมฯ ต่อเจ้าหน้าที่ ทำหนังสือยินยอมผู้เยาว์เดินทางไปต่างประเทศจากอำเภอ สำนักงานเขต หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนฉบับจริงที่มีอายุการใช้งานของบิดา หรือมารดาที่ไม่สามารถให้ความยินยอมได้ ให้บุคคลอื่น ที่บรรลุนิติภาวะ (อายุ 20 ปีบริบูรณ์ขึ้นไป) เป็นผู้พาผู้เยาว์มายื่นคำร้องขอทำหนังสือเดินทางเพิ่มเติมจากหนังสือยินยอมฯ ข้างต้นพร้อมบัตรประชาชนฉบับจริงของผู้รับมอบอำนาจ
กรณีบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสและผู้เยาว์อยู่ในความปกครองของมารดา
มารดาสามารถลงนามให้ความยินยอมฯ ได้ ฝ่ายเดียวพร้อมกับบันทึกคําให้การรับรองการปกครองบุตร (ป.ค.14) ที่ออกโดยอําเภอ สำนักงานเขต หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น และบัตรประจําตัวประชาชนฉบับจริงของมารดา
กรณีผู้เยาว์เป็นบุตรบุญธรรม
ให้ผู้รับบุตรบุญธรรมเป็นผู้ลงนามให้ความยินยอมฯ พร้อมกับทะเบียนการรับบุตรบุญธรรม และบัตรประจําตัวประชาชนฉบับจริงของผู้รับบุตรบุญธรรม
กรณีบิดา-มารดาหย่า
บิดาหรือมารดาที่ระบุให้เป็นผู้ใช้อํานาจปกครองผู้เยาว์แต่ผู้เดียวในบันทึกการหย่า สามารถเป็นผู้ลงนามให้ความยินยอมฯ ได้ฝ่ายเดียวพร้อมบัตรประจําตัวประชาชนฉบับจริง
กรณีที่บิดา-มารดาหย่ากัน แต่มีสิทธิ์ในการดูแลบุตรร่วมกัน ทั้งพ่อและแม่ก็ต้องเดินทางมาทำหนังสือเดินทางกับบุตรด้วย แต่ถ้าหากฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดไม่สามารถมาเซ็นยินยอมได้ ก็ต้องทำหนังสือยินยอมจากอําเภอ สำนักงานเขต หรือสำนักทะเบียนท้องถิ่น หรือจากสถานเอกอัครราชทูตไทย หรือสถานกงสุลใหญ่ไทย กรณีที่บิดาหรือมารดาอยู่ในต่างประเทศมาด้วย
กรณีบิดาหรือมารดาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งเสียชีวิต
ให้บิดาหรือมารดาที่ยังมีชีวิตมาลงนามให้ความยินยอมฯ พร้อมกับใบมรณบัตรของอีกฝ่ายหนึ่ง และบัตรประชาชนฉบับจริง
กรณีบิดาหรือมารดาผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติ มิได้จดทะเบียนสมรส และไม่สามารถตามหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอม
บิดาหรือมารดาผู้เยาว์เป็นชาวต่างชาติมิได้จดทะเบียนสมรส และไม่สามารถตามหาฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมาให้ความยินยอมได้ และบิดามารดามิได้จดทะเบียนสมรสแต่บุตรอยู่ในความดูแลของฝ่ายหนึ่งฝ่ายเดียวมาตลอด และไม่สามารถตามหาอีกฝ่ายได้ ให้นำคำสั่งศาลซึ่งระบุชื่อผู้มีอำนาจปกครอง พร้อมบัตรประจำตัวประชาชนของผู้มีอำนาจปกครองมาแสดง พร้อมสูติบัตรตัวจริง
สิ่งที่ต้องทำในวันมายื่นคำร้อง
นำเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปแสดงให้ครบถ้วน โดยเฉพาะการยื่นคำร้องกรณีผู้เยาว์อายุต่ำกว่า 15 ปี และผู้เยาว์อายุ 15 ปีขึ้นไป แต่ยังไม่ครบ 20 ปีบริบูรณ์ หากเอกสารที่นำไปแสดงไม่ครบถ้วนจะต้องนำเอกสารเหล่านั้นไปแสดงเพิ่มเติมในวันรับเล่ม ซึ่งจะทำให้การรับเล่มล่าช้า เนื่องจากต้องใช้เวลาในการบันทึกข้อมูลเอกสารที่นำไปแสดงเพิ่มเติมลงในระบบให้ครบถ้วน ขั้นตอนของการยื่นขอหนังสือเดินทางใหม่ มีดังนี้
1. การตรวจสอบเอกสาร
ตรวจสอบเอกสารประกอบการยื่นคําร้องขอทําหนังสือเดินทาง หากถูกต้องครบถ้วนจะแจกบัตรคิว และเรียกผู้ร้องเข้ารับบริการตามลําดับ
2. เข้ารับบริการ
เรียกผู้ร้องเข้ารับบริการตามคิว วัดส่วนสูง
3. การพิจารณา
เข้าบูธบริการ ตรวจสอบเอกสารประกอบการยื่นคําร้องขอทําหนังสือเดินทางอีกครั้ง ตรวจสอบข้อมูลจากฐานข้อมูลของกระทรวงการต่างประเทศ ตรวจสอบข้อมูลจากส่วนบริหารและพัฒนาเทคโนโลยีการทะเบียน กรมการปกครอง กระทรวงมหาดไทย เก็บข้อมูลชีวมาตร ได้แก่ รูปใบหน้า ลายนิ้วมือ 10 นิ้ว ลายมือผู้ถือหนังสือเดินทาง และทําสัญญายินยอมชดใช้ค่าเสียหายของผู้ที่จะเดินทางไปต่างประเทศ
4. ชำระค่าธรรมเนียม
ชำระค่าธรรมเนียม 1,000 บาท และค่าส่งไปรษณีย์แบบ EMS 40 บาท หรือแบบ PSP 60 บาท หากประสงค์ให้จัดส่งทางไปรษณีย์ รับใบเสร็จรับเงิน และรับใบนัดรับเล่ม
ระยะเวลารอรับพาสปอร์ต
1. ถ้ายื่นกรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ สามารถรอรับได้ 2 วันทำการ ไม่นับวันยื่น ถ้ารับทางไปรษณีย์จะได้ 5 วันทำการ
2. ถ้ายื่นสำนักสาขาในกรุงเทพฯ (ปิ่นเกล้าและบางนา) จะได้เล่มภายใน 2 วันทำการ ไปรษณีย์ 5 วันทำการ
3. ถ้ายื่นสาขาต่างหวัด และขอให้จัดส่งทางไปรษณีย์ในเขตเมือง จะได้หนังสือพาสปอร์ต 5 วันทำการ
สถานที่ให้บริการทำหนังสือเดินทาง
1. กรมการกงสุล ถนนแจ้งวัฒนะ เบอร์ติดต่อ 02 981 7257 เปิดให้บริการ จันทร์ ถึง ศุกร์ 08:00 – 15:30 น.
2. สํานักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว บางนา- ศรีนครินทร์ ชั้น 2 ศูนย์การค้าธัญญาพารค์ โซน E เบอร์ติดต่อ 02 136 3800-01 เปิดให้บริการ จันทร์ ถึง ศุกร์ 08:30 – 15:30 น.
3. สํานักงานหนังสือเดินทางชั่วคราว ปิ่นเกล้า อาคาร SC Plaza ชั้น 2 (สายใต้ใหม่) เบอร์ติดต่อ 02 422 3431 เปิดให้บริการ จันทร์ ถึง ศุกร์ 08:30 – 15:30 น
เทคนิคการถ่ายรูปทำวีซ่าให้เด็กเล็ก
สำหรับครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ แต่อยากเที่ยวต่างประเทศ นอกจากความวุ่นวายในการเตรียมเอกสารเพื่อทำพาสปอร์ตแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่พ่อแม่หลายๆคนชอบมองข้าม ซึ่งนั่นก็คือการถ่ายรูปเพื่อทำวีซ่าให้ทารกนั่นเอง เพราะการถ่ายรูปวีซ่าให้เด็กนั้นไม่ง่ายอย่างที่หลายคนคิด หากคุณพ่อคุณแม่กำลังตัดสินใจว่าควรพยายามถ่ายรูปวีซ่าให้ลูกเอง หรือพาลูกไปถ่ายรูปที่ร้านดี Motherhood มีคำแนะนำเกี่ยวกับเรื่องนี้มาฝาก
- ใช้ฉากหลังสีขาว ถ้าไม่มีสีขาว จะใช้ฉากสีอ่อนเรียบๆ อื่นๆ ก็ใช้ได้เช่นกัน เพราะสามารถมาปรับแต่งได้ในภายหลัง แต่ควรเป็นพื้นผิวเรียบ และไม่มีลวดลาย
- ควรถ่ายในที่ที่มีแสงส่องใบหน้า การใช้แสงแฟลชไม่ค่อยดีกับเด็กทารก ดังนั้นใช้แสงธรรมชาติจะดีกว่า นอกจากจะได้ภาพที่เป็นธรรมชาติ ก็ยังเห็นหน้าเด็กได้ชัดเจนอีกด้วย
- หลีกเลี่ยงเสื้อสีขาว เพราะอาจจะกลืนหายไปกับฉากหลังที่มีสีอ่อนอยู่แล้ว เลือกเสื้อที่มีสีสันหน่อย จะได้ไม่กลืนไปกับ
- หลอกล่อเด็กให้มองมาที่เลนส์ ใช้ของเล่นชิ้นโปรดหรือเปิดรายการให้ดูในแท็บเลต โดยให้อยู่ในระนาบเดียวกับเลนส์มากที่สุด อย่าชูไว้เหนือกล้องหรืออยู่หลังกล้อง
- ถ่ายรูปให้ได้มากที่สุด เพื่อจะได้เลือกรูปที่ดีที่สุดในภายหลัง ดีกว่าต้องพยายามมานั่งถ่ายใหม่ทุกครั้ง
หากลูกยังเล็กเกินกว่าจะลุกขึ้นมานั่งได้ด้วยตัวเอง คุณพ่อคุณแม่ก็ยิ่งต้องใช้ความพยายามมากขึ้นไปอีกในการจัดท่าเพื่อถ่ายรูป
- ใช้เก้าอี้หัดนั่งสำหรับเด็ก และให้ผู้ใหญ่ช่วยจับเด็กไว้ไม่ให้ล้ม แต่ก็ต้องแอบๆ ไม่ให้ตัวผู้ใหญ่ติดเข้าไปในภาพด้วย
- นำเก้าอี้มาห่อด้วยผ้าหรือกระดาษขาว เพื่อจัดให้เป็นพื้นหลัง แล้วก็ผูกเด็กไว้ให้อยู่ในท่าที่ตั้งตรง แต่ต้องระวัง หากผูกหลวมไปเด็กอาจจะตก หากแน่นไปเด็กจะไม่สบายตัว
- หากลูกยังเล็กเกินกว่าจะพอจัดท่าให้นั่งได้ก็ให้นอนไปเลย แล้วใช้ผ้าปูสีขาวเป็นฉาก แต่ลำบากตรงผู้ใหญ่ต้องยืนถ่ายแบบคร่อมอยู่ข้างบนเด็ก และอย่าลืมจับผ้าให้ตึงๆด้วย
- หากวิธีด้านบนยังไม่ได้ผล ก็ต้องอุ้มอย่างเดียวเลย โดยให้คนอุ้มเป็นฉาก ใส่เสื้อสีขาวแล้วก็อุ้มในท่าที่ถนัด จัดให้เด็กอยู่ในท่านั่ง จัดแต่งองค์ประกอบดีๆ ไม่ให้มือหรืออะไรโผล่เข้าไปในเฟรม
หวังว่าบทความนี้จะช่วยลดความกังวลของคุณพ่อคุณแม่ในการพาลูกไปเที่ยวต่างประเทศลงได้บ้างนะคะ ทั้งในเรื่องการเตรียมเอกสารไปทำหนังสือเดินทางเล่มแรกของลูก หรือการถ่ายภาพเพื่อขอวีซ่าสำหรับเด็กทารก ขอให้ทุกคนเที่ยวในช่วงปิดเทอมให้สนุกนะคะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th