Site icon Motherhood.co.th Blog

น้ำคาวปลาหลังคลอด แม่มือใหม่ควรรู้ แบบไหนผิดปกติ

ทำความรู้จักน้ำคาวปลาหลังคลอด

น้ำคาวปลาหลังคลอดคืออะไร ผิดปกติหรือไม่ แม่มือใหม่ต้องรู้

น้ำคาวปลาหลังคลอด แม่มือใหม่ควรรู้ แบบไหนผิดปกติ

สำหรับคุณแม่มือใหม่ ในการตั้งครรภ์และการคลอดครั้งแรกย่อมมีอะไรให้กังวลและเรียนรู้มากมาย เรื่องของ “น้ำคาวปลาหลังคลอด” ก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน วันนี้ Motherhood จะพาคุณแม่ไปทำความรู้จักน้ำคาวปลา พร้อมทั้งเรียนรู้ที่จะสังเกตดูหากอะไรสิ่งใดผิดปกติ

น้ำคาวปลาคืออะไร?

น้ำคาวปลา (Lochia) คือ ของเหลวชนิดหนุ่งที่ถูกขับออกมาทางช่องคลอดหลังจากคลอดลูก  จากแผลภายในโพรงมดลูกบริเวณที่รกเคยเกาะอยู่ มีลักษณะคล้ายกับประจำเดือน โดยมีส่วนประกอบคือ เลือด น้ำเหลือง น้ำคร่ำหรือขี้เถ้า น้ำหล่อลื่น เศษเนื้อเยื่อหรือเยื่อบุโพรงมดลูก เศษรก เศษไขที่ติดตามเนื้อตัวของลูก เม็ดเลือดขาว และไขมันที่ยังหลงเหลืออยู่ภายในตัวของแม่ ในบางครั้งอาจมีกลิ่นเหม็นอับ ซึ่งลักษณะและสีของน้ำคาวปลาอาจแตกต่างกันไปตามสภาพของแผลที่มีการซ่อมแซมในช่วงวันหลังคลอด ดังนี้

ในช่วงแรก น้ำคาวปลาส่วนใหญ่อาจมีลักษณะคล้ายเลือด แต่หลังจากนั้น 3-4 วัน หรือ 1 สัปดาห์ขึ้นไปอาจเริ่มเปลี่ยนไปมีลักษณะคล้ายเมือกแทน โดยภายในช่วง 24 ชั่วโมงหลังคลอด แม่ที่คลอดแบบธรรมชาติจะมีน้ำคาวปลาออกมามากกว่าแม่ที่คลอดด้วยวิธีผ่าคลอด

เป็นสิ่งที่ปกติหรือไม่?

การมีน้ำคาวปลาถือเป็นการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติหลังคลอดของผู้หญิงซึ่งนับเป็นเรื่องปกติ โดยในช่วงวันแรก ๆ หลังคลอดอาจมีน้ำคาวปลาในลักษณะคล้ายเลือดออกมาค่อนข้างมาก เพราะในช่วงที่ตั้งครรภ์ ปริมาณเลือดในร่างกายจะเพิ่มสูงขึ้นถึง 50 เปอร์เซ็นต์ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับการสูญเสียเลือดตอนคลอด

แบบไหนที่ผิดปกติ?

น้ำคาวปลาลักษณะดังต่อไปนี้หมายถึงเกิดอาการผิดปกติ หากมีแล้วควรรีบไปพบแพทย์ทันที

  1. น้ำคาวปลามีกลิ่นเหม็นเน่า พร้อมกับมีอาการปวดมดลูกมาก อาจมีไข้ร่วมด้วย ซึ่งแสดงถึงการติดเชื้อ
  2. น้ำคาวปลามีปริมาณมาก แม้จะสวมใส่ผ้าอนามัยรองรับไว้ก็ยังต้องเปลี่ยนผ้าอนามัยทุก 1 ชั่วโมง ส่วนการมีสีแดงสด มีก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดออกมา จะเป็นภาวะเลือดออกผิดปกติหลังคลอด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากการรับประทานยาขับเลือด การมีชิ้นส่วนรกติดค้างอยู่ในมดลูก การติดเชื้อในเยื่อบุโพรงมดลูก ความผิดปกติในการแข็งตัวของเลือด เป็นต้น
  3. น้ำคาวปลาที่จางไปแล้วในตอนแรกกลับมามีสีแดงสดอีกครั้งตลอด 4 วันหลังคลอดหรือนานกว่านั้น และอาการไม่ดีขึ้นแม้นอนหรือพักผ่อนแล้ว
  4. มีน้ำคาวปลาออกมาก ร่วมกับมีอาการไข้ วิงเวียนศีรษะ คลื่นไส้ อ่อนเพลีย หัวใจเต้นเร็ว
หากมีนานเกิน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด เป็นสัญญาณความผิดปกติ

ควรดูแลตัวเองอย่างไร?

ในช่วงที่มีน้ำคาวปลา คุณแม่หลังคลอดควรปฏิบัติดังต่อไปนี้

  1. รักษาความสะอาดของร่างกาย อาบน้ำอย่างน้อยวันละ 1 ครั้ง และดูแลอวัยวะเพศให้สะอาดอยู่เสมอ แต่ไม่จำเป็นต้องฟอกสบู่ในบริเวณนี้
  2. หากมีแผลฝีเย็บ ควรดูแลบริเวณดังกล่าวเป็นพิเศษ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ
  3. ใช้ผ้าอนามัยชนิดใหญ่พิเศษของโรงพยาบาลที่เหมาะสำหรับผู้หญิงหลังคลอด และจัดเตรียมไว้เผื่อใช้ในปริมาณมาก เพราะในช่วงแรกจะมีน้ำคาวปลาลักษณะคล้ายเลือดไหลออกมาค่อนข้างมาก
  4. ควรเปลี่ยนผ้าอนามัยตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้เกิดการหมักหมม อับชื้น ซึ่งอาจทำให้เกิดการสะสมเชื้อโรคต่าง ๆ ได้
  5. ล้างมือให้สะอาดก่อนเปลี่ยนผ้าอนามัยทุกครั้ง เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ
  6. ห้ามใช้ผ้าอนามัยแบบสอดหรือถ้วยอนามัยจนกว่าจะถึงเวลานัดตรวจหลังคลอด 6 สัปดาห์ เพราะช่องคลอดและมดลูกอาจยังไม่ฟื้นตัวหรือหายดี ซึ่งอาจเพิ่มโอกาสติดเชื้อได้ง่าย
  7. ไม่แช่อ่างน้ำหรือว่ายน้ำ เนื่องจากปากมดลูกยังเปิดอยู่ อาจทำให้มีน้ำเข้าไปในโพรงมดลูก ทำให้เกิดการติดเชื้อได้
  8. ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ในช่วงหลังคลอด อย่างน้อย 3 เดือน
  9. ควรสวมใส่เสื้อผ้าที่สวมใส่สบาย ไม่ควรใส่กางเกงรัดรูป เพราะอาจทำให้เกิดการอับชื้นสะสมได้
  10. หลีกเลี่ยงการทำงานหนักและยกของหนัก
  11. เลือกรับประทานอาหารที่มีธาตุเหล็กสูง เพื่อบำรุงร่างกายที่มีการเสียเลือดในปริมาณมาก
  12. ดื่มน้ำสะอาดให้มากเข้าไว้ และนอนพักผ่อนมาก ๆ
ควรเตรียมซื้อผ้าอนามัยมาใช้ให้เหมาะสม

เมื่อไหร่น้ำคาวปลาจะหมด?

น้ำคาวปลาควรลดน้อยลงภายใน 2-3 สัปดาห์ และหมดไปภายใน 4-6 สัปดาห์หลังคลอด แต่อาจมีปัจจัยบางอย่างทำให้น้ำคาวปลาถูกขับออกมามากกว่าปกติในบางช่วง เช่น

ทั้งนี้ คุณแม่อาจพบลิ่มเลือดเป็นก้อนขนาดเล็กกว่าลูกกอล์ฟปะปนออกมากับน้ำคาวปลา ซึ่งอาจไม่ใช่เรื่องน่ากังวล แต่ก็ควรระวังและสังเกตอาการตนเองอยู่ตลอดเวลา เพราะความผิดปกติต่าง ๆ ของน้ำคาวปลา อาจบ่งบอกถึงภาวะแทรกซ้อนจากการคลอดอย่างการตกเลือดหรือการติดเชื้อได้

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th