เคล็ดลับ “ปั๊มน้ำนม” เก็บของคุณแม่มือใหม่
เมื่อไม่นานมานี้มีรายงานคุณภาพชีวิตเด็กประจำปี 2018 ออกโดยองค์กร Save the Children โดยได้จัดอันดับให้ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่ดีที่สุดต่อการเจริญเติบโตของเด็ก ชนะแถบสแกนดิเนเวียไปแบบกินขาด เพราะรัฐบาลของสิงคโปร์ได้ผลักดันมาตรการการศึกษารวมถึงการใช้ชีวิตด้านต่าง ๆ ให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้น ไม่เพียงเท่านั้นคุณพ่อคุณแม่ชาวสิงคโปร์ยังรู้จักการวางแผนในเรื่องอาหารการกินที่มีผลต่อสมองของเด็ก ๆ โดยตรงด้วย ซึ่งเริ่มตั้งแต่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งมีลูกน้อย
พวกเขาทราบดีว่าการเลี้ยงลูกน้อยด้วยนมแม่เป็นวิธีที่สำคัญที่สุด โดยเฉพาะการให้ลูกดูดนมจากเต้าของคุณแม่โดยตรง แต่คุณแม่หลาย ๆ ท่านต้องทำงานนอกบ้าน ไปต่างประเทศหลายวัน จนไม่มีเวลาให้นมลูกด้วยตัวเอง จึงต้องปั๊มนมและเก็บรักษาน้ำนมใส่ถุงเอาไว้ เพื่อเก็บเป็นสต็อกเอาไว้ใช้ในวันที่ไม่อยู่บ้าน นอกเหนือจากการปั๊มนมแล้วคุณแม่ชาวสิงคโปร์ยังมีวิธีการการเก็บรักษานมที่ถูกต้องด้วย เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะได้รับนมที่มีคุณภาพ และคงคุณภาพสารอาหารครบถ้วน มาดูกันค่ะว่าวิธีเก็บน้ำนมแม่ให้อยู่ได้นานที่สุดนั้นเขาทำกันอย่างไรบ้าง
หลังจากปั๊มนมเรียบร้อยแล้ว คุณแม่จะเก็บรักษานมในขวดพลาสติก ขวดแก้ว รวมถึงถุงชนิดปลอดสารบีพีเอที่ปิดสนิทโดยทันที (BPA เป็นสารที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการเกิดมะเร็งเต้านมและมะเร็งในต่อมลูกหมาก และส่งผลต่อความผิดปกติทางพันธุกรรมของเซลล์ในร่างกาย) จากนั้นก็นำไปแช่เย็น โดยแบ่งปริมาณความจุที่พอเหมาะประมาณ 60-120 มิลลิลิตรต่อ 1 บรรจุภัณฑ์ และหลีกเลี่ยงการบรรจุนมแม่ในบรรจุภัณฑ์อื่น ๆ ที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับแช่แข็งหรือใส่น้ำนมแม่โดยเฉพาะ เพราะอาจทำให้คุณภาพของนมลดลงหรือเน่าเสียได้ ก่อนให้นมเด็กทุกครั้งจะต้องสังเกตลักษณะของนมแม่ก่อนนำมาใช้เสมอ หากนมไว้นานเกินไปจนนมมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นเปรี้ยวผิดปกติก็จะทิ้งไปเลย โดยระยะเวลาการเก็บรักษานมแม่จะขึ้นอยู่กับลักษณะการเก็บรักษา ดังนี้
- เก็บในอุณหภูมิห้อง (นอกห้องแอร์) สูงกว่า 25 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 1 ชั่วโมง
- เก็บในอุณหภูมิปกติ (ในห้องแอร์) ต่ำกว่า 25 องศาเซลเซียส ไม่เกิน 4 ชั่วโมง
- เก็บในกระติกน้ำแข็งต่ำกว่า 15 องศาเซลเซียส สูงสุด 24 ชั่วโมง
- เก็บในตู้เย็นช่องธรรมดา 2 – 4 องศาเซลเซียส อยู่ได้ประมาณ 2 ถึง 5 วัน
- เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบประตูเดียวที่อุณหภูมิ –10 ถึง –15 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 2 สัปดาห์
- เก็บในช่องแช่แข็งของตู้เย็นแบบประตูแยกที่อุณหภูมิ –18 ถึง –20 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 3 เดือน
- เก็บนมในตู้แช่แข็งต่ำกว่า –20 องศาเซลเซียส อยู่ได้ 6 เดือน
จะเห็นได้ว่าการเก็บนมไว้ในตู้เย็นเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด แต่การแช่นมรวมกับอาหารอื่น ๆ ในตู้เย็นจะทำให้เกิดกลิ่นอาหารซึมเข้าไปในถุงเก็บนม นมจึงเหม็นหืน และอาจมีเชื้อต่าง ๆ ปนเปื้อน ถ้าเป็นไปได้ ควรแยกชั้นหรือแยกตู้ไปเลย
ด้วยเหตุนี้เองชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่จึงเลือกใช้ตู้เย็นจาก Hitachi เพราะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในเรื่องประสิทธิภาพการใช้งานรวมถึงการดีไซน์ออกแบบที่หรูหรา ลงตัวกับห้องครัวทุกสไตล์ ภายในตู้เย็น Hitachi จะมีช่องแบ่งเป็นสัดส่วน สำหรับแยกเก็บอาหารสด และนมโดยเฉพาะ มีระบบกักเก็บความเย็นในระดับที่เหมาะสม ทำให้อาหารต่าง ๆ คงความสดใหม่ตลอด และช่วยถนอมคุณค่าและรสชาติให้ยังเหมือนเดิมทุกอย่าง หากที่บ้านของคุณมีลูกน้อยและต้องเก็บนมเอาไว้ในตู้เย็นเหมือนกัน แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกตู้เย็นแบบไหน เราขอแนะนำตู้เย็น Hitachi บอกเลยว่าคุ้มค่าคุ้มราคา ไมทำให้น้ำนมเสื่อมคุณภาพแน่นอน
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th