Site icon Motherhood.co.th Blog

ผ้าอ้อมแบบไหนดี? มาเลือกผ้าอ้อมที่ใช่ให้กับลูกน้อย

้้เลือกผ้าอ้อมแบบไหนดี?

ช่วยเคลียร์ใจให้พ่อแม่มือใหม่เรื่องการเลือกผ้าอ้อมเด็ก

ผ้าอ้อมแบบไหนดี? มาเลือกผ้าอ้อมที่ใช่ให้กับลูกน้อย

การเป็นพ่อแม่มือใหม่ โดยเฉพาะเมื่อเพิ่งมีลูกคนแรก ก็มีเรื่องราวมากมายให้เริ่มเรียนรู้และอาจจะรู้สึกจับต้นชนปลายไม่ถูก “ผ้าอ้อมแบบไหนดี?” คงเป็นอีกคำถามหนึ่งที่พ่อแม่มือใหม่มักจะมีอยู่เสมอ ในเมื่อผ้าอ้อมเด็กที่มีอยู่ในท้องตลาดนั้นมากมายเหลือเกิน มีทั้งผ้าอ้อมผ้า ที่ก็มีเนื้อผ้าให้เลือกหลากหลายชนิด มีทั้งผ้าอ้อมสำเร็จรูปอีกมากมายหลายหลากแบรนด์ เราจะรู้ได้อย่างไรว่าผ้าอ้อมแต่ละแบบมีข้อดีข้อเสียตรงไหน และแบบไหนจะเหมาะสมกับลูกเรา วันนี้ Motherhood จะมาแบ่งปันวิธีการเลือกผ้าอ้อมสำหรับลูกน้อยค่ะ

ผ้าอ้อมแบบผ้า

ผ้าอ้อมที่เป็นประเภทผ้าจะเป็นแบบที่ใช้แล้วนำไปซักเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ได้ นิยมทำมาจากผ้าที่สามารถระบายอากาศได้ดี ชนิดของผ้าที่นำมาทำผ้าอ้อมผ้าสามารถแบ่งออกได้เป็น ผ้าอ้อมผ้าฝ้าย ผ้าอ้อมผ้าสำลี ผ้าอ้อมสาลู แต่พ่อแม่จะตัดสินใจเลือกซื้อให้กับลูกน้อย ก็ต้องดูที่คุณสมบัติของผ้าอ้อมแต่ละประเภท

ผ้าอ้อมแบบผ้าก็ทำมาจากผ้าหลากหลายแบบต่างกัน

1. ผ้าอ้อมสาลู

คือผ้าที่ทอหลวมๆ ไม่ฟอกหรือย้อมสี คุณสมบัติเด่นของผ้าสาลูคือซักแล้วไม่เป็นขน แห้งไว ระบายอากาศดี เหมาะที่จะใช้ในฤดูฝน เพราะแห้งเร็วมาก ซักง่าย ซักแล้วเนื้อไม่ยุ่ย ซึ่งผ้าชนิดนี้เหมาะในการเอามาทำผ้าอ้อมที่ห่อตัวเด็กชั้นในสุดและผ้าเช็ดปาก ในส่วนคุณภาพและราคาของผ้าสาลูจะขึ้นอยู่กับปริมาณฝ้าฝ้ายเป็นหลัก ปัจจุบันผ้าอ้อมสาลูที่นิยมกันมี  2 แบบ คือ ผ้าสาลูฝ้าย 100% ซึ่งเป็นเกรดที่ดีที่สุดแต่จะมีราคาสูง และผ้าสาลูทีซี ที่มีผ้าฝ้าย 35% ผสมกับโพลีเอสเทอร์ 65% ซึ่งราคาจะถูกกว่า

การจะเลือกซื้อผ้าอ้อมสาลูให้เลือกซื้อแบบเย็บริมจะดีกว่า แม้ว่าจะมีราคาที่แพงกว่าแบบโพ้งริมอยู่สักหน่อย แต่มีอายุการใช้งานนานกว่าหลายเท่าตัว บางทีสามารถใช้กับลูกได้มากกว่าหนึ่งคน การจะเลือกผ้อาอ้อมสาลูที่มีเนื้อผ้าอย่างดีให้เลือกดูที่เนื้อผ้า ต้องเลือกที่เนื้อจะแน่น จะเห็นว่าตาผ้าถี่มาก ลายผ้าจะสกรีนชัดเจน ส่วนผ้าสาลูเกรดธรรมดา เนื้อผ้าจะห่างๆ ลายผ้าจะไม่ชัดเจน แม้มีราคาถูก แต่ซักแล้วจะไม่ค่อยเก็บน้ำและยุ่ยง่าย ไม่ทน ใช้ไปไม่นานก็ขาด

2. ผ้าอ้อมเนื้อผ้าสำลี

คุณสมบัติเด่นของผ้าสำลีคือ ผ้าหนามีขนนุ่ม แต่ใส่แล้วไม่ระบายอากาศ ซักแห้งยาก และซักแล้วเป็นขน ทั้งนี้เมื่อใช้ไปนานๆเนื้อผ้าจะแข็งและเป็นขนเยอะขึ้น ส่วนเรื่องราคาจะอยู่ในระดับปานกลาง ซึ่งผ้าสำลีก็จะมีหลายเกรดเช่นกัน มีทั้งเกรดธรรมดาที่เนื้อผ้าจะแข็งและตาผ้าจะห่างกว่าผ้าสำลีอย่างดี ที่จะไม่ค่อยมีขนผ้าและเนื้อไม่นุ่ม อย่างไรก็ตามผ้าอ้อมชนิดนี้เหมาะที่จะใช้ในฤดูหนาวหรือห้องแอร์ ใช้แล้วลูกน้อยจะรู้สึกอบอุ่น

หลักในการเลือกซื้อผ้าอ้อมเนื้อผ้าสำลีคือ ให้ดูที่เนื้อผ้าเรื่องความห่างของตาผ้าและความหยาบของเนื้อผ้า เลือกผ้านุ่มๆ มีขนฟูเยอะๆ

3. ผ้าอ้อมผ้าฝ้าย

ผ้าอ้อมผ้าชนิดนี้เป็นคนละชนิดกับผ้าอ้อมสาลูที่ผสมผ้าฝ้าย แต่คนมักจำสับสนกัน ผ้าฝ้ายมีคุณสมบัติเด่นคือ ผ้าจะลื่น เป็นขนและแข็ง แต่มีความแข็งแรง ทนทานต่อการซัก พิมพ์ลายติดลวดลายชัดเจน สวยงาม นิยมนำมาทำเป็นผ้ารองปูนอน และทำเป็นผ้ากันเปื้อนรองนอนแล้วเย็บติดกับผ้ายางไว้ แต่ไม่เหมาะนำมาทำเป็นผ้าอ้อมหรือพับเป็นกางเกงซับฉี่

4. ผ้าอ้อมเด็กผ้าไม่ทอ

ผ้าไม่ทอชนิดนี้ไม่ได้ทำมาจากเส้นใยฝ้ายธรรมชาติ แต่เป็นผ้ามาจากเส้นใยสังเคราะห์ เหตุที่เรียกกันว่าผ้าไม่ทอ เพราะผ้าชนิดนี้เกิดจากการนำเส้นใยมาเรียงตัวกันเป็นผ้าเลย โดยไม่ต้องผ่านการถักทอ

เนื่องจากทำมาจากเส้นใยสังเคราะห์ ทำให้เวลานำไปพิมพ์ลาย ลายที่ได้จะมีความคมชัด สวยงามมาก แต่คุณสมบัติการดูดซึมน้ำจะไม่ดี เนื้อผ้าค่อนข้างแข็ง ใส่แล้วไม่ระบายอากาศ มีราคาปานกลาง

ข้อดีของผ้าอ้อมแบบผ้า

ข้อเสียของผ้าอ้อมแบบผ้า

คุณพ่อคุณแม่จะเห็นได้ว่าผ้าแต่ละชนิดนั้นมีคุณสมบัติ ที่แตกต่างกัน คงจะฟันธงไปเลยไม่ได้ว่าชนิดไหนดีกว่ากัน ต้องดูการใช้งานเป็นหลักว่าผ้าอ้อมนั้นจะเอาไปทำอะไร ไปห่อตัวลูก ไปปูรองพื้น ไปห่ม ก็ดูให้เหมาะตามคุณสมบัติของผ้าและสภาพอากาศ คุณพ่อคุณแม่สามารถเลือกได้ตามความเหมาะสม

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปใช้สะดวกยามเดินทาง

ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

ผ้าอ้อมสำเร็จรูป คือ ผ้าอ้อมที่เย็บเป็นตัว มีแผ่นซึมซับ ใช้แล้วทิ้งไป ไม่สามารถใช้ซ้ได้ ผ้าอ้อมประเภทนี้พบได้ตามโฆษณาทั่วไป มักมีให้เลือกหลายขนาด ตามขนาดตัวของเด็ก และในสมัยนี้ยังนิยมทำเป็นแบบกางเกงสวมเพื่อเพิ่มความสะดวกให้พ่อแม่

ข้อดีของผ้าอ้อมสำเร็จรูป

ข้อเสียของผ้าอ้อมสำเร็จรูป

ผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบไหนดี?

ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่่่ต้องรู้ว่าผ้าอ้อมสำเร็จรูปนั้นมี 2 แบบ คือ แบบเด็กแรกเกิด จะมีเว้าตรงสะดือ ใช้ตอนสะดือยังไม่หลุด ส่วนมากใช้ในช่วงประมาณ 2-3 อาทิตย์แรก ส่วนแบบที่สองคือ แบบทั่วไป อันนี้จะไม่มีเว้าตรงสะดือ แต่จะมีขนาดที่แตกต่างกันออกไปให้เลือกใชตามขนาดตัวของลูก

หากมีการใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป คุณพ่อคุณแม่ควรเปลี่ยนทุกครั้งที่ลูกถ่าย หรือไม่ก็ทุก 2-3 ชั่วโมง เพื่อสุขอนามัยที่ดีของลูก และเพื่อลดความเสี่ยงในการเป็นผื่นผ้าอ้อมได้

ผ้าอ้อมกึ่งสำเร็จรูปรวมทั้งข้อดีข้อเสียของผ้าอ้อมแบบอื่นๆไว้

ผ้าอ้อมกึ่งสำเร็จรูป

ผ้าอ้อมประเภทนี้เป็นการรวมตัวกันระหว่างผ้าอ้อมแบบผ้าและผ้าอ้อมสำเร็จรูป โดยจะมีแผ่นซึมซับที่สามารถถอดเปลี่ยนซักได้ และ ตัวกางเกงเองก็ซักได้เช่นกัน ทำให้บางคนเรียกมันว่ากางเกงผ้าอ้อมสำเร็จรูปแบบมีแผ่นซึมซับ ซึ่งทำให้ข้อดีและข้อเสียของผ้าอ้อมประเภทนี้จะอยู่กลางๆ

ต้องซื้อผ้าอ้อมไว้มากแค่ไหน?

ในข้อนี้คุณพ่อคุณแม่จะต้องรู้ถึงปัจจัยในใช้ชีวิตของครอบครัวตัวเองเสียก่อน พราะแต่ละครอบครัวก็มีความยุ่งยากในแต่ละเรื่องแตกต่างกันไป หากมีความยุ่งยากเรื่องการเงิน แต่มีเวลาเยอะ ก็ใช้ผ้าอ้อมแบบผ้า หากยุ่งยากเรื่องเวลา แต่เงินเยอะและไม่มีเวลามาซัก ก็เลือกใช้ผ้าอ้อมแบบสำเร็จรูปไป แต่โดยทั่วไปแล้วจะนิยมใช้แบบผสมผสานกันไป คือ กลางวันใช้ผ้าอ้อมผ้า กลางคืนใช้ผ้าอ้อมสำเร็จรูป

โดยเฉลี่ยแล้วใน 1 วันเด็กแรกเกิดนั้นจะมีการเปลี่ยนผ้าอ้อมวันละประมาณ 1 โหล จากนั้นเด็กลดอัตราการขับถ่ายลงเมื่ออายุเพิ่มขึ้น สำหรับการใช้ผ้าอ้อมแบบผ้า หากมีการซักทุกวัน ผ้าอ้อมประมาณ 3 โหล น่าจะเป็นตัวเลขที่พอดี

ส่วนขนาดของผ้าอ้อมที่ใช้ห่อตัวลูกควรมีขนาด 27-30 นิ้วขึ้นไป เพราะเด็กโตเร็ว ส่วนขนาดเล็กกว่านี้นิยมใช้เป็นผ้าอ้อมเพื่อการเช็ดปากและน้ำลายมากกว่า และควรซื้อเผื่อไว้อีก 1 โหล ที่เป็นผ้าอ้อมขนาดใหญ่เพื่อใช้ปูรองนอนด้วย

ก็คิดว่าครบทุกประเด็นของการเลือกซื้อผ้าอ้อมประเภทต่างๆให้เหมาะสมกับลูกน้อยแล้วนะคะ หวังว่าจะช่วยลดความสับสนของคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ลงไปได้ไม่มากก็น้อย

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th