Site icon Motherhood.co.th Blog

6 แนวทาง “พูดกับลูกเรื่อง Covid-19”

วิธีพูดกับลูกเรื่อง covid-19

จะพูดกับลูกเรื่อง Covid-19 ยังไง ไม่ให้เขาตื่นตระหนก

6 แนวทาง “พูดกับลูกเรื่อง Covid-19”

ในความเป็นพ่อแม่ผู้ปกครอง ไม่ได้มีแต่คุณคนเดียวที่จะกังวลเกี่ยวกับ Covid-19 เด็ก ๆ ของคุณก็อาจกังวลเช่นกัน และเมื่อนั้นคุณควร “พูดกับลูกเรื่อง Covid-19” แต่จะพูดถึงมันอย่างไรไม่ให้เป็นการเพิ่มความวิตกกังวลหรือความกลัวให้กับลูกของคุณ วันนี้เรามีแนวทางในการพูดมาฝากกันค่ะ

มันเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ไม่ยากเลยว่าทำไมคุณถึงอาจต้องการหลีกเลี่ยงที่จะพูดถึงหัวข้อที่น่ากลัวอย่างการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนากับลูก ๆ ของคุณ พ่อแม่ทุกคนต้องการปกป้องลูกจากความวิตกกังวลที่สามารถหลีกเลี่ยงได้ แต่เมื่อพูดถึงการแพร่กระจายของ Covid-19 เด็ก ๆ อาจรู้เรื่องนี้มากกว่าที่พ่อแม่รู้เสียอีก ซึ่งก็ต้องขอบคุณสื่อโซเชียลและรายงานข่าวที่มีอย่างสม่ำเสมอ แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าสิ่งที่เด็ก ๆ ได้ยินในแต่ละวันอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องและอัพเดท

ก็เหมือนกับการคุยถึงหัวข้อหนัก ๆ อย่างอื่น มันเป็นสิ่งจำเป็นที่พ่อแม่จะคุยถึงเรื่องของไวรัสโคโรนากับลูก ๆ ในแบบที่จะช่วยลดความกังวลของพวกเขา ช่วยส่งเสริมความรู้ และหยุดการแพร่กระจายของข้อมูลที่ผิด และนี่คือเคล็ดลับส่วนหนึ่งสำหรับการเริ่มต้นการสนทนา

พ่อแม่ต้องทำหน้าที่คัดกรองข้อมูลที่ถูกต้องแก่เด็ก ๆ

1. ให้พวกเขาทราบข้อมูลเสมอ

การที่ไม่สามารถเห็นภาพรวมของสถานการณ์ Covid-19 อาจทำให้เด็ก ๆ ไม่สบายใจ พ่อแม่ควรทำหน้าที่จัดการกับข่าวลือ โดยเป็นแหล่งข้อมูลที่เปิดเผยและเชื่อถือได้ คุณสามารถอธิบายถึงไวรัสโคโรนาและต้นกำเนิดของมันให้เด็ก ๆ ฟัง จากนั้นก็ให้พวกเขาถามคำถาม คุณอาจจะหาภาพอินโฟกราฟฟิคการ์ตูนมาใช้เพื่อประกอบการอธิบาย

และต้องระมัดระวังไม่ให้พวกเด็ก ๆ รับสื่อโดยปราศจาคการดูแลของผู้ใหญ่ คุณต้องระวังในการที่สื่อจงใจพาดหัวแบบเร้าอารมณ์เพื่อให้คนสนใจเรื่องราว โดยเฉพาะเด็ก ๆ ไม่ควรรับข้อมูลดังกล่าวหากไม่มีผู้ใหญ่คอยคัดกรองข้อมูลที่เหมาะสมกับวัยและเนื้อหาที่อาจกระตุ้นให้เกิดความวิตกกังวลมากขึ้น

2. อย่าเป็นคนตื่นตระหนก

เด็กมีความไวต่อความวิตกกังวลของพ่อแม่ ดังนั้น แม้ว่าคุณอาจกังวลเกี่ยวกับข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจนและคำถามที่ยังไม่ได้รับคำตอบเกี่ยวกับไวรัสโคโรนา แต่จงพยายามที่จะทำให้สิ่งต่าง ๆ ดูเป็นแง่ดีกับลูกของคุณ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถพูดว่า “คนที่อายุน้อยกว่าอย่างลูกมีแนวโน้มที่จะเป็นโรคนี้กันน้อย และถ้าลูกติดเชื้อ อาการมันอาจจะหนักเท่าเป็นหวัดก็ได้”

การเล่าเรื่องผ่านภาพจะทำให้เด็กเล็กเข้าใจได้ง่ายขึ้น

3. ใช้ภาษาที่เหมาะสมกับวัย

เด็กเล็กจะยังไม่เข้าใจเกี่ยวกับการกักตัวหรือการส่งผ่านเชื้อโรค แต่คุณยังสามารถพูดคุยเกี่ยวกับไวรัสโคโรนากับพวกเขาได้ โดยใช้คำศัพท์ที่มีชีวิตชีวา เช่น เชื้อโรคและแมลง รวมทั้งใช้ภาพเคลื่อนไหวเข้าช่วย นอกจากนี้ยังควรใช้ภาษาที่เป็นรูปธรรมให้มากมากเกี่ยวกับวิธีที่ขี้มูกหรือน้ำลายสามารถทำให้เชื้อโรคส่งผ่านไปยังบุคคลอื่น ๆ เพราะเด็ก ๆ ยังจำความเจ็บป่วยของตนเองได้ ดังนั้นการอ้างอิงตัวอย่างเด่น ๆ เหล่านั้นจะเป็นประโยชน์อย่างแท้จริง

4. พูดคุยเกี่ยวกับการตอบสนองของรัฐบาลต่อ Covid-19

บอกลูกของคุณเกี่ยวกับทุกสิ่งที่มีคนทำเพื่อต่อสู้กับโรค เช่น ป้องกันการเดินทางข้ามจังหวัด การปิดโรงเรียน และทดสอบการใช้วัคซีน การได้รู้ว่าทางการมีแผนจะช่วยเหลือผู้คนอย่างไรบ้างจะลดความกังวลของบุตรหลานได้

5. อย่าทำอะไรให้เป็นเรื่องใหญ่จนเกินไป

คุณอาจจะตุนอาหาร ทำความสะอาดของใช้ในบ้าน หรือของอื่น ๆ แต่การทำสิ่งเหล่านี้มากเกินไปอาจมีส่วนทำให้ลูกของคุณตื่นตระหนก ควรป้องกันเด็กเล็กจากการเตรียมพร้อมต่าง ๆ ของคนในครอบครัว หากพวกเขาสอบถามถึงสิ่งของที่คุณตุนไว้มากเป็นพิเศษ แค่บอกเขาไปว่าคุณกำลังเตรียมการสำหรับทั้งครอบครัวจะได้มีพอใช้

สุขอนามัยของมือคือสิ่งที่สำคัญที่สุดในการป้องกันตัวเองจากโรค

6. อย่าเพิกเฉยต่อสุขอนามัยของมือ

วิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไวรัสโคโรนาคือการรักษาความสะอาดของมือ สอนลูก ๆ ของคุณให้ล้างมือด้วยสบู่และน้ำอย่างน้อย 20 วินาที หรือใช้เวลานานเท่ากับการร้องเพลง ABC สิ่งนี้มีความสำคัญอย่างยิ่ง ก่อนที่จะรับประทานอาหารหรือสัมผัสใบหน้าของเรา เนื่องจากละอองของแบคทีเรียที่เป็นพาหะสามารถเข้าสู่ร่างกายของเราผ่านทางจมูก ตา และปาก

นอกจากนี้ยังต้องสอนให้เด็ก ๆ ไอหรือจามเข้าไปในข้อพับแขนของพวกเขา ทิ้งกระดาษชำระที่ใช้แล้วทันที และเช็ดสิ่งของสาธารณะ เช่น แป้นพิมพ์ ก่อนใช้งาน การจำกัดตัวเองจากการได้รับแบคทีเรียจะสามารถช่วยให้ครอบครัวของคุณปลอดเชื้อ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th