Site icon Motherhood.co.th Blog

32 วิธี ที่จะเปลี่ยนคุณเป็น “พ่อแม่ตัวอย่าง”

เป็นพ่อแม่ตัวอย่าง

นี่คือ 32 วิธี ที่จะทำให้คุณกลายเป็นพ่อแม่ตัวอย่าง

32 วิธี ที่จะเปลี่ยนคุณเป็น “พ่อแม่ตัวอย่าง”

เราได้รวบรวมเอาวิธีการต่าง ๆ มากมาย ที่จะช่วยเปลี่ยนแปลงพวกคุณให้เป็น “พ่อแม่ตัวอย่าง” เป็นพ่อแม่ในฝันที่ทำให้เด็ก ๆ มีความสุขและเต็มไปด้วยความอบอุ่นภายในครอบครัวของคุณ

ฝึกให้เขามีวินัยและรับผิดชอบตัวเองได้

ตั้งข้อจำกัดอย่างชาญฉลาด

เข้าควบคุม เด็ก ๆ ก็ต้องการขีดจำกัดที่ช่วยให้พวกเขาเข้าใจและจัดการกับโลกที่แสนสับสนได้ แสดงความรักของพวกคุณโดยการกำหนดขอบเขตเพื่อให้ลูก ๆ ของคุณสามารถสำรวจและค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ที่เขาสนใจได้อย่างปลอดภัย

อย่าตัดปีกของเด็ก ภารกิจชีวิตของเด็กวัยหัดเดินคือการได้รับอิสรภาพ ดังนั้น เมื่อเขามีพัฒนาการที่จะเก็บของเล่น เคลียร์จานบนโต๊ะอาหาร หรือแต่งตัวเองได้ การให้เด็กมีความรับผิดชอบเป็นสิ่งที่ดีสำหรับความภาคภูมิใจในตนเองของพวกเขา และลดความวุ่นวายของคุณลงด้วย

อย่าพยายามแก้ไขทุกอย่าง เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้ค้นพบวิธีแก้ปัญหาของตนเอง เมื่อคุณยอมรับความผิดหวังเล็กน้อยของลูกโดยไม่ต้องเข้าไปช่วยเหลือเขาในทันที คุณจะสอนให้เขารู้จักการพึ่งพาตนเอง

จำไว้ว่าวินัยไม่ใช่การลงโทษ การบังคับใช้ข้อจำกัดต่าง ๆ นั้นเป็นการสอนเด็กว่าควรปฏิบัติตนในโลกนี้อย่างไร และมันช่วยให้เขามีความเอาใจใส่ และควบคุมสถานการณ์ได้

เลือกการต่อสู้ของคุณ เด็ก ๆ ไม่สามารถเข้าใจกฎต่าง ๆ ที่มากเกินไปได้อย่างสมบูรณ์ ลืมการโต้เถียงในเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ อย่างการเลือกเสื้อผ้าที่ประหลาดหรือการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมเป็นครั้งคราว แต่ควรมุ่งเน้นไปสิ่งที่สำคัญจริง ๆ ซึ่งหมายถึงการไม่ตบตี ไม่พูดคำหยาบ หรือโกหก

สร้างเสริมนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เยาว์วัย

สร้างเวลาคุณภาพของคุณเอง

เล่นกับลูก ๆ บ้าง โดยปล่อยให้พวกเขาเลือกกิจกรรมและไม่ต้องกังวลกับกฎมากนัก เพียงแค่ปล่อยให้มันลื่นไหลและมีความสุขไปกับมัน

อ่านหนังสือด้วยกันทุกวัน เริ่มต้นเมื่อเขาเป็นทารกแรกเกิด ทารกชอบฟังเสียงของพ่อแม่ การกอดกับลูกและมีหนังสือในมือเป็นประสบการณ์ความผูกพันที่ดีที่จะทำให้เขาอ่านหนังสือไปตลอดชีวิต

กำหนดเวลาพิเศษประจำวัน ปล่อยให้ลูกของคุณเลือกกิจกรรมที่คุณจะได้อยู่ด้วยกันเป็นเวลา 10 หรือ 15 นาทีโดยไม่มีการขัดจังหวะ ไม่มีวิธีใดดีไปกว่าการแสดงความรักของคุณ

ส่งเสริมช่วงเวลากับพ่อ นี่คือทรัพยากรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดสำหรับการพัฒนาชีวิตของลูก ๆ ของเราคือเวลาที่ได้อยู่กับพ่อตั้งแต่อายุยังน้อยและบ่อยครั้ง เด็กที่มีพ่อที่มีส่วนร่วมจะแก้ไขปัญหาได้ดีกว่าและรับมือกับสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตได้ดี

สร้างความทรงจำที่อบอุ่น ลูก ๆ ของคุณอาจจะจำอะไรที่คุณพูดกับพวกเขาไม่ได้ แต่พวกเขาจะจำพิธีกรรมของครอบครัว เช่น เวลาเข้านอน และคืนแห่งการเล่นเกมที่คุณมีร่วมกัน

ใช้นโยบายรักษ์โลกภายในบ้านให้เด็ก ๆ คุ้นเคย

เป็นแบบอย่างที่ดี

เป็นแบบอย่างที่ลูกของคุณสมควรได้รับ เด็ก ๆ เรียนรู้จากการดูตัวอย่างจากพ่อแม่ การสร้างแบบจำลองพฤติกรรมที่เหมาะสม น่าเคารพ และเป็นสิ่งดี จะได้ผลดีกว่าการบอกพวกเขาว่าต้องทำอะไร

ใช้ชีวิตอย่างเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น แสดงให้ลูก ๆ ของคุณเห็นว่าการดูแลสิ่งแวดล้อมนั้นง่ายเพียงใด ผลิตของเสียให้น้อยลง รีไซเคิล ใช้ซ้ำ และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมในแต่ละวัน คุณสามารถใช้เวลาช่วงบ่ายเก็บขยะรอบ ๆ ละแวกบ้านได้

พูดความจริงเสมอ คุณเองก็ต้องการให้ลูกมีนิสัยนี้ไม่ใช่หรือ ?

กอดคู่ของคุณต่อหน้าเด็ก ๆ การแต่งงานของคุณเป็นเพียงตัวอย่างเดียวที่ลูกของคุณมีเกี่ยวกับความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดและเรื่องของความรู้สึก ดังนั้น มันจึงเป็นหน้าที่ของคุณที่จะกำหนดมาตรฐานที่ดี

เคารพความแตกต่างของการเลี้ยงดู สนับสนุนแนวทางพื้นฐานของคู่คุณในการเลี้ยงลูก เว้นแต่ว่ามันจะไม่อยู่ในแนวทางเดียวกัน การวิพากษ์วิจารณ์หรือโต้เถียงกับคู่ของคุณจะทำอันตรายต่อชีวิตสมรสและความรู้สึกปลอดภัยของบุตรหลานของคุณ มากกว่าการยอมรับมาตรฐานที่แตกต่างไปจากของคุณเอง

ชื่นชมเขาเมื่อเขาทำในสิ่งที่ถูกที่ควร

รู้วิธีที่ดีในการชื่นชม

ให้คำชมตามสมควร แทนที่จะพูดง่าย ๆ ว่า “เยี่ยมมากลูก” พยายามเจาะจงว่าลูกของคุณทำอะไรที่สมควรได้รับการตอบรับเชิงบวก คุณอาจพูดว่า “การรอจนกว่าแม้จะคุยโทรศัพท์เสร็จเพื่อขอคุกกี้นั้นเป็นเรื่องที่ยาก และแม่ชอบความอดทนของหนูมาก”

เชียร์ในสิ่งดี เมื่อคุณสังเกตเห็นว่าลูกของคุณทำสิ่งที่ดีหรือเป็นประโยชน์ บอกให้เขารู้ว่าคุณรู้สึกเช่นไร มันเปป็นวิธีที่ดีในการเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดี เพื่อให้เขามีแนวโน้มที่จะทำมันต่อไป

เมาท์ถึงลูก ๆ ความจริงก็คือสิ่งที่เราไปได้ยินมานั้นมีอาณุภาพมากกว่าสิ่งที่บอกออกไปตรง ๆ ทำให้คำชมมีประสิทธิภาพมากขึ้นโดยให้ลูกของคุณ “แอบได้ยิน” ว่าคุณชมเขากับคุณตาคุณยายหรือแม้แต่ตุ๊กตาของเขา

ซื้ออาหารสำเร็จกลับบ้านบ้างก็ได้ถ้าคุณเหนื่อยที่จะเข้าครัว

เชื่อมั่นในตัวเอง

ให้ตัวเองได้หยุดพัก การขับรถแวะซื้ออาหารสำเร็จรูปเข้าบ้านเมื่อคุณเหนื่อยเกินไปที่จะทำอาหารไม่ได้ทำให้คุณเป็นพ่อแม่ที่ไม่ดี

เชื่อในกึ๋นแห่งความเป็นแม่ ไม่มีใครรู้จักลูกของคุณดีไปกว่าคุณ ทำตามสัญชาตญาณของคุณในเรื่องสุขภาพและความเป็นอยู่ของเขา หากคุณคิดว่ามีอะไรแปลกไป มีโอกาสมากที่คุณคิดถูก

เพียงพูดว่า “ไม่” ต่อต้านแรงกระตุ้นให้รับภาระหน้าที่พิเศษจากออฟฟิศ แล้วคุณจะไม่มีวันเสียใจที่ได้ใช้เวลากับลูก ๆ มากขึ้น

อย่ายอมรับการดูหมิ่นจากลูกของคุณ อย่ายอมให้ลูกหยาบคายหรือพูดเรื่องที่ทำร้ายคุณหรือใคร ๆ ถ้าเชาทำเช่นนั้น ให้บอกเขาอย่างหนักแน่นว่าคุณจะไม่ยอมให้มีการดูหมิ่นทุกรูปแบบ

ทำตามแผนของคุณ ระดมผู้ดูแลคนอื่น ๆ ในชีวิตของบุตรหลานของคุณ ไม่ว่าจะคู่ของคุณ ปู่ย่าตายาย คนรับเลี้ยงเด็ก พี่เลี้ยงเด็ก ให้รับทราบถึงแนวทางของคุณ เพื่อช่วยเสริมสร้างค่านิยมและพฤติกรรมที่คุณต้องการปลูกฝัง ซึ่งรวมถึงทุกอย่างตั้งแต่การกล่าวขอบคุณ และการมีน้ำใจไปจนถึงการไม่ส่งเสียงโอดครวญ

ฝึกทักษะการเข้าสังคมและความมั่นใจให้เขาตั้งแต่ยังเล็ก

อย่าลืมสอนทักษะทางสังคม

ถามคำถามเหล่านี้กับลูก ๆ 3 คำถามทุกวัน ศิลปะการสนทนาเป็นทักษะทางสังคมที่สำคัญ แต่พ่อแม่มักละเลยที่จะสอน ถามเด็ก ๆ เช่น “หนูสนุกที่โรงเรียนไหม” “หนูทำอะไรในปาร์ตี้ที่หนูไป” หรือ “พรุ่งนี้บ่ายวันพรุ่งนี้หนูอยากไปไหน”

สอนเด็ก ๆ ด้วยเคล็ดลับแห่งความกล้าหาญนี้ บอกให้พวกเขาสังเกตสีดวงตาของคนเสมอ การสบตาจะช่วยให้เด็กที่ลังเลมีความมั่นใจมากขึ้น และจะช่วยให้เด็ก ๆ กล้าแสดงออกมากขึ้น และมีโอกาสน้อยที่จะถูกแกล้ง

รับรู้ถึงอารมณ์ที่รุนแรงของลูกของคุณ เมื่อพายุอารมณ์ของลูกคุณสงบลง ให้ถามเขาว่า “หนูรู้สึกอย่างไร” และ “หนูคิดว่าอะไรจะทำให้ดีขึ้น” แล้วฟังเขา เขาจะหายจากอารมณ์ฉุนเฉียวง่ายขึ้นถ้าคุณปล่อยให้เขาได้พูดออกมา

การแบ่งปันและจิตอาสาจะสร้างความภูมิใจในตนเองให้ลูก

เลี้ยงลูกให้มีความซาบซึ้งในบุญคุณ

แสดงให้ลูกของคุณเห็นว่าจะเป็นพลเมืองที่มีความรับผิดชอบได้อย่างไร หาวิธีช่วยเหลือผู้อื่นทั้งปี เด็ก ๆ จะรู้สึกถึงคุณค่าในตนเองโดยการเป็นอาสาสมัครในชุมชนของตนเอง

อย่าเลี้ยงลูกเป็นเด็กเอาแต่ใจ โปรดจำสิ่งนี้ให้ขึ้นใจ ไม่มีเด็กคนใดเป็นศูนย์กลางจักรวาล จงสอนเขาตามนี้

เรื่องสุขภาพของลูกต้องดูแลไม่ให้ขาดตกบกพร่อง

คำแนะนำด้านสุขภาพที่พ่อแม่ทุกคนควรปฏิบัติตาม

พาลูกไปฉีดวัคซีน การระบาดของโรคหัดและโรคอื่น ๆ ยังคงเกิดขึ้นในประเทศของเราและทั่วโลก เพราะฉะนั้นการฉีดวัคซีนจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ปกป้องรอยยิ้มนั้น การส่งเสริมให้ลูกแปรงฟันวันละ 2 ครั้ง ด้วยยาสีฟันผสมฟลูออไรด์จะช่วยป้องกันฟันผุได้ และพาเขาไปพบทันตแพทย์เพื่อตรวจฟันทุก ๆ 6 เดือน

เก็บครีมกันแดดไว้ข้างยาสีฟัน ทาครีมกันแดดทุกวันจนเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรตอนเช้า ทำจนกว่ามันจะกลายเป็นธรรมชาติเหมือนการแปรงฟัน

รู้ว่าเมื่อไหร่ควรฝึกใช้ห้องน้ำ มองหาสัญญาณสองอย่างนี้ว่าลูกของคุณพร้อมที่จะใช้กระโถน เขารู้สึกได้ถึงความอยากที่จะฉี่และอึ (ซึ่งแตกต่างจากการรู้ว่าเขาทำราดไปแล้ว) และเขาขอให้คุณเปลี่ยนผ้าอ้อม

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th