มีน้องคนใหม่ แต่ลูกคนเก่าไม่ปลื้ม ทำไงดี
เมื่อคุณพาทารกน้อยกลับเข้าบ้าน ไม่ต้องแปลกใจหากลูกวัยหัดเดินของคุณเกิดอาการไม่ปลื้มที่คุณ “มีน้องคนใหม่” สักเท่าไหร่ วันนี้เราจะมาดูเหตุผลที่อยู่เบื้องหลังของอาการเหล่านี้กันค่ะ
ทำไมพวกเขาถึงปฏิเสธน้องคนใหม่
เป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยหัดเดินจะมีอาการต่อต้านเมื่อน้องคนใหม่มาถึง เด็กในวัยนี้คิดในแง่ที่เป็นรูปธรรมมาก พวกเขาเห็นคนที่ใส่ผ้าอ้อมและใช้ขวดนมได้รับความสนใจทั้งหมดจากพ่อแม่และคนอื่นๆ ในครอบครัว ดังนั้น พวกเขาจึงอยากเป็นเหมือนเด็กทารกคนนั้น พวกเขาคิดว่าถ้าฉันใส่ผ้าอ้อมและดื่มนมจากขวด คุณแม่จะให้ความสนใจฉันแบบเดียวกัน
สถานการณ์นี้พบได้ทั่วไปในเด็กอายุระหว่าง 18 เดือนถึง 3 ปี ในวัยนี้โลกของเด็กยังคงหมุนรอบพ่อแม่ของเขาเป็นอย่างมาก และมีอิทธิพลภายนอกเล็กน้อยที่จะเบี่ยงเบนความสนใจของเขาจากสิ่งที่เกิดขึ้นที่บ้าน ยิ่งไปกว่านั้นเนื่องจากเด็กวัยหัดเดินขาดทักษะการใช้วาจาและความรู้ความเข้าใจในการแสดงความหึงหวง ความหงุดหงิด และความโกรธ วิธีการที่แสดงความรู้สึกเหล้านั้นคือการแสดงออกมาตรง ๆ เป็นเรื่องปกติที่เด็กวัยหัดเดินที่ได้รับการฝึกฝนให้ใช้ห้องน้ำแล้ว จะเกิด “อุบัติเหตุ” ที่ดูเหมือนจงใจบ่อยครั้งขึ้น หรืออยู่ ๆ ก็ปฏิเสธที่จะดื่มจากถ้วยหัดดื่มที่เขาเองก์ใช้มานาน เด็กที่หลับตลอดทั้งคืนอาจกลับมาตื่นขึ้นอีกครั้ง หลังจากนั้นทารกก็จะได้รับความสนใจในช่วงกลางดึก ดังนั้นพวกเขาอาจจะทำแบบนั้นเช่นกัน ไม่น่าแปลกใจที่เด็กวัยหัดเดินมีความต้องการมากที่สุด ในช่วงเวลานั้นที่ผู้ปกครองมุ่งเน้นที่จะตอบสนองความต้องการของพี่น้องของเขา
แม้ว่าบ่อยครั้งที่ความอึดอัดของเด็กวัยหัดเดินจะยังคงอยู่ตลอดทั้งวัน แม้ในยามที่ทารกจะงีบหลับ ในแง่หนึ่ง เด็กคนที่โตกว่าจะรู้สึกว่าเขาสูญเสียคุณ และต้องการให้แน่ใจว่าคุณยังอยู่ที่นั่น
วิธีช่วยลูกรับมือ
นี่คือวิธีที่จะช่วยให้เด็กวัยหัดเดินรับมือกับการมาถึงของน้องคนใหม่
- อย่าทำเกินจริง อย่าลงโทษหรือหัวเราะเยาะลูกน้อยวัยหัดเดินของคุณหากเขาต้องการกลับไปใช้ผ้าอ้อมหรือกินจากขวดนม หากลูกที่กำลังหัดใช้กระโถนหรือห้องน้ำ แต่พลาดขึ้นมา ก็อย่าได้หัวเราะเขาเป็นอันขาด เพราะเขากำลังเรียกร้องความสนใจจากคุณ ดังนั้น การมีปฏิกิริยาทางลบเท่ากับว่าทำให้เขาได้ในสิ่งที่กำลังมองหา และยิ่งทำให้เขามีพฤติกรรมเช่นนี้ต่อไป
- โอ๋ลูกนิดหน่อย อย่าได้พูดกับเขาว่า “หยุดทำตัวเหมือนเด็กเล็กเสียทีเถอะ” เพราะมันจะยิ่งทำให้เขาพุ่งความโกรธแค้นไปที่ทารกน้อยคนใหม่ หากลูกคนโตต้องการกินนมจากขวด ก็ปล่อยให้เขากินสัก 2-3 จิบ จากนั้นค่อยหาวิธีพาเขากลับไปใช้ถ้วย
- ชื่นชมในพฤติกรรมที่เป็นผู้ใหญ่ให้มากขึ้น แสดงออกให้ชัดเจนว่าลูกของคุณไม่จำเป็นที่จะต้องทำตัวเหมือนเด็กทารกเพื่อดึงดูดความสนใจ ให้ชื่นชมเขาเมื่อเขาทำอะไรสำเร็จดังเช่นที่คุณเคยทำเมื่อยังมีเขาเป็นแก้วตาดวงใจเพียงคนเดียว สร้างโอกาสให้เขาได้แสดงออกถึงการเติบโตมากขึ้น ขอให้เขาช่วยดึงผ้าอ้อมหรือถือฟองน้ำ ขณะที่คุณอาบน้ำให้ทารกน้อย และให้แสดงออกถึงความขอบคุณ
- ต้องประนีประนอม หากลูกขอกลับไปใช้ผ้าอ้อม ให้เขาใช้กางเกงผ้าอ้อมสำหรับว่ายน้ำแทน และยังคงให้ใช้กระโถนต่อไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะเริ่มเลิกใช้กางเกงผ้าอ้อมไปในที่สุด หากลูกขอให้คุณให้นมเขา นั่นก็อาจเป็นเพราะเขาสนใจในความใกล้ชิดที่เคยได้รับ ดังนั้น ให้เขามานั่งตักคุณและกอดเขาให้บ่อยขึ้น
- พูดถึงความรู้สึก ช่วยให้ลูกของคุณเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ตัวอย่างเช่น คุณอาจพูดว่า “มีการเปลี่ยนแปลงในครอบครัวของเรา มันเคยมีเพียงพ่อ แม่ และหนู เราเลยมีเวลามากพอที่จะอยู่กับหนู แต่ตอนนี้น้องชายของหนูอยู่ที่นี่ และเราต้องแบ่งปันเวลาของเราให้กับเขา มันอาจจะยากสำหรับหนู และมันก็ยากสำหรับพ่อแม่เช่นกัน เพราะพ่อแม่ก็ชอบที่จะใช้เวลากับหนูเหมือนกัน”
- หาผู้ช่วยแบบตัวต่อตัว จัดให้มีเพื่อนหรือพี่เลี้ยงเด็กเพื่อดูแลทารกน้อยของคุณ เพื่อให้คุณสามารถอุทิศเวลาให้กับลูกคนแรกของคุณได้มากขึ้นอีกนิด ไม่ว่าจะไปที่พิพิธภัณฑ์ ไปปิกนิค หรือเพียงแค่เดินเล่นแถวบ้าน ใช้ช่วงเวลางีบของทารกเป็นช่วงเวลาพิเศษในการอ่านพูดคุยหรือร้องเพลงกับลูกคนโตของคุณ
เตรียมตัวก่อนพาน้องคนใหม่กลับบ้าน
รับมือกับความอิจฉาของเด็กวัยหัดเดิน โดยเตรียมตัวเขาให้พร้อมกับการมาเยือนของน้องน้อยคนใหม่
- พาไปเยี่ยมเด็กคนอื่น เป็นการแสดงให้ลูกของคุณเห็นว่าการได้ใช้เวลากับเด็กตัวน้อย ๆ มันเป็นเช่นไร โดยการพาไปพบปะกับญาติหรือเพื่อนที่เพิ่งมีสมาชิกตัวน้อยคนใหม่
- ซื้อตุ๊กตา และใช้มันเพื่อแสดงให้เห็นว่าคุณจะเปลี่ยนผ้าอ้อมและให้อาหารเด็กน้อยได้อย่างไร กระตุ้นให้ลูกช่วยเลี้ยงตุ๊กตาก่อนที่ทารกน้อยคนใหม่จะมาถึง รวมทั้งให้เขาช่วยดูแลหลังจากที่ทารกน้อยเข้าบ้านแล้วเช่นเดียวกัน
- อ่านหนังสือ เลือกหาหนังสือสำหรับเด็กที่พูดถึงการเป็นพี่ชายหรือพี่สาวคนโต และอ่านให้ลูกของคุณฟัง
- ให้เขามีส่วนร่วมในการเตรียมการ ลูกคนโตของคุณสามารถช่วยเตรียมสถานที่ให้พร้อมต้อนรับทารกคนใหม่ โดยการวางเบาะบนเก้าอี้หรือเปลโยก แสดงออกให้เขารับรู้ถึงการมีส่วนร่วมนี้ด้วยคำพูดง่าย ๆ เช่น “ลูกจะเป็นพี่ชายที่ยอดเยี่ยมมากเลยเมื่อน้องมาถึง”
อย่างไรก็ตาม ขอให้คุณเข้าใจไว้ด้วยว่า ไม่ว่าคุณจะทำสิ่งใด มันจะต้องใช้เวลาสำหรับลูกคนโตของคุณ ในการที่เขาจะทำความคุ้นเคยกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่สมาชิกครอบครัวคนใหม่เพิ่มเข้ามา ทำใจร่ม ๆ เข้าไว้ กว่าคุณจะรู้ตัว เผลอแปบเดียวคุณก็มีเด็กโตสองคนในบ้านแล้วค่ะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th