Site icon Motherhood.co.th Blog

รักลูกไม่เท่ากัน คุณเป็นพ่อแม่แบบนั้นหรือเปล่า ?

พ่อแม่รักลูกไม่เท่ากัน

คุณรู้ตัวหรือเปล่าว่าคุณอาจรักลูกไม่เท่ากัน ?

รักลูกไม่เท่ากัน คุณเป็นพ่อแม่แบบนั้นหรือเปล่า ?

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะถามตัวเองว่าคุณเคยทำให้ลูก ๆ รู้สึกว่าคุณ “รักลูกไม่เท่ากัน” บางครั้งคนพี่อาจจะรู้สึกว่าคุณรักน้องมากกว่าเขา ซึ่งมันอาจสร้างบาดแผลให้กับเด็ก ๆ ที่รู้สึกว่าพ่อแม่รักพวกเขาไม่เท่ากัน วันนี้ Motherhood จะพาคุณไปดูว่าเบื้องหลังทางจิตวิทยาของปัญหานี้คืออะไร

หรือหนูไม่ใช่คนโปรดของพ่อกับแม่ ?

เชื่อว่าผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ หลายคนเมื่อมองย้อนกลับไปในวัยเด็ก อาจจะเคยรู้สึกน้อยใจว่าทำไมเราถึงไม่ใช่ลูกคนโปรดของพ่อแม่ เรื่องนี้มีผลวิจัยมารองรับว่า พ่อแม่ที่รักลูกไม่เท่ากันอาจส่งผลให้เด็กมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ จนอาจพัฒนาเป็นอาการซึมเศร้า และสามารถส่งผลต่อไปจนถึงวัยกลางคนได้

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้พ่อแม่บางคนแสดงออกว่ารักลูกไม่เท่ากันนั้น มาจากรูปร่างหน้าตา บุคลิก และลักษณะนิสัยของตัวเด็กเอง ซึ่งคุณพ่อคุณแม่บางคนเข้าใจในข้อนี้ และระมัดระวังตัวเองไม่แสดงออกให้ลูกเห็นมากนัก แต่สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่เผลอตัวแสดงมันออกมา จึงทำให้ลูกเข้าใจว่าพวกคุณรักลูกไม่เท่ากัน สิ่งนี้ส่งผลต่อสุขภาพจิตและการแสดงออกทางพฤติกรรมของลูกเป็นอย่างมาก

เด็กที่รู้สึกว่าพ่อแม่รักลูกไม่เท่ากันจะมีแนวโน้มที่จะเกิดปัญหาสูง ทั้งพฤติกรรมที่มีต่อพี่น้อง รวมถึงความสัมพันธ์ที่มีต่อพ่อแม่ ยังไม่รวมถึงการเรียกร้องความสนใจผ่านพฤติกรรมในรูปแบบต่าง ๆ ที่เขาอาจจะติดไปใช้กับผู้อื่นด้วย และเมื่อเขาโตขึ้น เขาอาจมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับคนรอบข้าง เช่น เกิดความไม่ไว้วางใจ หรือเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย

นอกจากนี้ การเป็นลูกคนโปรดของพ่อแม่ก็อาจก่อให้เกิดปัญหาได้เช่นกัน เพราะเด็กอาจจะได้รับการตามใจหรือเอาใจไปแทบทุกเรื่อง ทำให้เด็กมีแนวโน้มเอาแต่ใจสูง เพราะเขารู้สึกว่าตัวเองเป็นลูกรัก เป็นลูกคนโปรดของพ่อกับแม่

เด็กอาจมีพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ หากเขาคิดว่าพ่อแม่ไม่สนใจเขา

พ่อแม่ก็ลำเอียงได้

นักวิจัยชาวอเมริกันจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย พบว่า 70% ของพ่อแม่มักมีลูกรัก ที่พวกเขาจะรักมากกว่าลูกคนอื่น ๆ นักวิชาการเชื่อว่าพ่อแม่ส่วนหนึ่งนั้นมีความรักแบบ 2 มาตรฐาน งานวิจัยนี้ยังยืนยันว่า ตามธรรมชาติแล้วพ่อแม่จะรักลูกไม่เท่ากัน พ่อแม่ทุกคนมี 2 มาตรฐาน แต่เป็นเรื่องยากที่พ่อแม่จะกล้ายอมรับ ว่าตอนเองรักลูกไม่เท่ากัน แต่การแสดงออกที่พ่อแม่ทำต่อลูกจะเป็นสิ่งที่เด็ก ๆ รับรู้ถึงความลำเอียงนั้นได้ไม่ยากเลย และมันเป็นจุดเริ่มต้นของปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

และลูกรักของพ่อหรือแม่ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเป็นลูกคนเดียวกันก็ได้ บางครั้งพ่ออาจจะรักลูกคนโตมากกว่า ในขณะที่แม่อาจจะมีความรู้สึกโน้มเอียงไปทางลูกคนเล็ก หรือบางครั้งอาจจะขึ้นอยู่กับการเป็นลูกสาวหรือลูกชายของเด็กก็ได้เช่นกัน รวมทั้งปัจจัยอื่น ๆ เช่น ลูกคนไหนได้ดังใจพ่อแม่มากกว่ากัน หรือทำเรื่องให้พ่อแม่ปลื้มใจได้มากกว่า

ความรู้สึกพิเศษของพ่อแม่ที่มีกับลูกคนใดคนหนึ่งนี้ บางครั้งพ่อแม่อาจจะทำลงไปโดยไม่รู้ตัว แต่คุณอย่าลืมว่าลูกอีกคนของคุณสามารถรับความรู้สึกได้ไว เขาจะรู้สึกได้ว่าพ่อแม่รักพี่หรือน้องของเขามากกว่า และสิ่งเหล่านี้จะทำให้เด็กไม่สบายใจได้

อย่าลำเอียงและเลือกปฏิบัติกับลูก

ทำอย่างไรเมื่อคุณรักลูกไม่เท่ากัน ?

เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกรู้สึกว่าคุณรักลูกไม่เท่ากันหรือมีความลำเอียง สิ่งแรกที่พ่อแม่สามารถทำได้คือต้องทำความเข้าใจว่าลูก ๆ ทั้งหมดของคุณ แต่ละคนมีบุคลิก ความสนใจ และความชอบที่แตกต่างกัน พ่อแม่จึงต้องระมัดระวังในการช่วยเหลือพวกเขาหรือการวางตัวเข้าข้างลูกคนใดคนหนึ่ง การที่พ่อแม่เข้าไปให้ความช่วยเหลือลูกคนใดคนหนึ่งเป็นพิเศษตลอดเวลา ย่อมทำให้ลูกคนอื่น ๆ เข้าใจว่าพี่น้องตัวเองเป็นคนโปรดของพ่อกับแม่มากกว่า หรือหากพ่อแม่อ่อนไหวกับลูกคนที่มีบุคลิกขี้อ้อนจนมากเกินไป พ่อแม่ก็อาจจะมุ่งความสนใจไปที่ลูกคนนั้นมากกว่าและเขาจะถูกมองว่าเป็นลูกรักของพ่อแม่

อย่าปล่อยให้ความรู้สึกรักลูกไม่เท่ากันเป็นตัวการทำร้ายความรู้สึกของเด็ก ๆ เลยนะคะ หากพบว่าลูกเริ่มมีพฤติกรรมที่เข้าข่ายเรียกร้องความสนใจ คุณพ่อคุณแม่ก็ไม่ควรเพิกเฉย แต่ควรให้ความสนใจกับลูกทุกคนอย่างเท่าเทียมกันค่ะ รวมทั้งสื่อสารให้ลูกเข้าใจว่าทำไมบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ถึงมีความจำเป็นที่จะต้องใส่ใจลูกอีกคนมากกว่า

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th