รวม “ร้านตัดผมเด็ก” ที่น่าสนใจในกทม.

รวม “ร้านตัดผมเด็ก” ที่น่าสนใจในกทม.

เปิดเทอมกันแล้วนะคะคุณพ่อคุณแม่ ในช่วงเปิดเทอมใหม่ ๆ แบบนี้ เด็ก ๆ ต้องเตรียมตัวหลายอย่างทีเดียว รวมทั้งต้องตัดผมด้วย วันนี้เราจะมาแนะนำ “ร้านตัดผมเด็ก” ที่น่าสนใจในกรุงเทพฯกันค่ะ ว่ามีที่ไหนบ้างที่เชี่ยวชาญการตัดผมให้เด็กตัวน้อย ๆ ของเรา ถ้าอยากรู้ต้องติดตามอ่านให้ดีนะคะ

01 – Little Red Fox

ร้านจิ้งจอกแดงตัวน้อยแสนน่ารักแห่งนี้เป็นของสองสาวหุ้นส่วน คือคุณโบ-อรุณทิพย์ จรุงพิพฒน์ และคุณจิน-จินตรา กิจโชคเจริญกุล ทั้งสองสาวเริ่มจากความชื่นชอบเด็ก ๆ จึงจับธุรกิจทำเสื้อผ้าเด็ก จนในที่สุดได้แตกไลน์ออกมาเป็นร้านตัดผมสำหรับเด็ก ปัจจุบันมี 2 สาขา และมีสมาชิกประจำมากกว่า 17,000 คนเลยทีเดียว

ที่พิเศษไปกว่านั้นคือทางร้านช่างตัดผมประจำที่เป็นคุณแม่แล้วถึง 2 คนด้วยกัน ทำให้ช่างผูกพันกับเด็กและรู้วิธีเข้าหาเด็กได้อย่างไม่ยากเย็น รวมทั้งยังรับหน้าที่แบ่งปันข้อมูลของเด็ก ๆ ให้พี่ช่างคนอื่น ๆ ส่วนพนักงานที่ยังไม่มีลูกและเป็นผู้ช่วยช่างตัดผมนั้น ทาง Little Red Fox ก็มีหลักเกณฑ์ในการคัดสรร คือ ดูที่ความใจเย็นมาเป็นอันดับแรก และสามารถจัดการกับสถานการณ์เฉพาะหน้าได้ดี สามารถที่จะเอ็นเตอร์เทนเด็กให้สนุกได้ พูดคุยกับเด็กให้เขาลืมว่ากำลังตัดผมอยู่ได้

และด้วยความที่คาแรกเตอร์ของเด็กแต่ละคนนั้นไม่เหมือนกัน เป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดเดาได้ ทางช่างและผู้ช่วยทุกคนก็จะได้รับการเทรนให้เป็นคนช่างสังเกต เคลื่อนไหวรวดเร็ว และสามารถรับมือกับทุกสถานการณ์เฉพาะหน้า ซึ่งเคล็ดลับในการตัดผมเด็ก ๆ ของที่นี่สามารถแบ่งได้เป็นขั้นตอน ดังนี้

• สังเกตและดูบุคลิกเด็ก เด็กบางคนบุคลิกว่องไว ถ้าเขานึกตะหันหน้าก็หันเลยทันที ช่างจะต้องสังเกตไว้ก่อน เพื่อที่จะได้รู้ว่าต้องหลบกรรไกรอย่างไรในขณะที่ตัดผม
• พาเด็กขึ้นนั่งเก้าอี้ตัดผม ในขั้นตอนนี้หากเด็กไม่ยอมนั่ง ก็อาจให้นั่งบนตักคุณพ่อคุณแม่ไปก่อนในการตัดผมครั้งแรก
• ชวนเด็กพูดคุย เด็กบางคนก็ช่างเจรจา ชอบพูดคุยกับผู้ใหญ่ ตัดผมไปคุยไป ไม่ถึง 15 นาทีก็เสร็จ แต่จะมีเด็ก ๆ บางคนที่สมาธิสั้นหรือเป็นเด็กพิเศษ ช่างทุกคนก็ต้องสังเกตให้ได้และทำงานให้ไว
• ใช้วิธีล่อหลอกเด็ก ๆ หน้าที่นี้รับบทโดยผู้ช่วยช่างตัดผม ต้องคอยเล่นกับน้อง ๆ หนู ๆ เปิดการ์ตูน หาจุดสนใจให้เด็ก ๆ ทำให้หน้าโต๊ะตัดผมและโซนสระผมเต็มไปด้วยของเล่น

ความใส่ใจในรายละเอียดยังไม่หมดเพียงเท่านี้ เพราะทาง Little Red Fox มีสมุดบันทึกทรงผมให้เด็ก ๆ ผู้เป็นสมาชิกเก็บไว้เป็นประวัติ ทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ โดยสมุดเล่มนี้เป็นเหมือนการทำประวัติเพื่อเก็บเป็นอัลบั้มให้ทั้งเด็ก ๆ และคุณพ่อคุณแม่ได้เห็นว่าตั้งแต่เป็นเบบี๋จนเด็กโตขึ้น ทรงผมของเขาเปลี่ยนไปอย่างไรบ้าง รวมทั้งยังเก็บรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับเด็ก ๆ แต่ละคนด้วย เด็กหลาย ๆ คนแพ้ส่วนผสมในแป้ง ในแชมพู ทางร้านจึงเก็บทุกรายละเอียด เป็นประวัติว่ากับเด็กคนนี้ห้ามใช้แป้ง หรือยาสระผมต้องไม่มีส่วนผสมของอะไร นับว่าเป็นร้านตัดผมที่ใส่ใจทุกรายละเอียดจริง ๆ ร้านตัดผมผู้ใหญ่หลาย ๆ ร้านยังไม่ทำถึงขนาดนี้

เวลาทำการ: ทุกวัน ตั้งแต่ 10:30-20:30 น.

ค่าบริการ: ตัดผมเด็กแรกเกิด – 15 ปี 450 บาท ตัดผมม้าอย่างเดียว 200 บาท ตัดผมผู้ใหญ่ 500 บาท

เบอร์ติดต่อ: สาขาเมกาบางนา โทร. 096-130-8505 สาขาเซ็นทรัลอีสต์วิลล์ โทร. 063-368-5559

02 – Kiddy-Cutz

ที่นี่เป็นร้านตัดผมสำหรับเด็กในย่านลาดกระบังที่หลายคนรู้จักกันเป็นอย่างดี Kiddy-Cutz มีจุดเริ่มต้นมาจาก คุณหมี่-กฤษณา กิจกัญจนาสน์ เจ้าของร้าน ที่ตัดผมให้ลูกชายเองตั้งแต่แรกเกิด แต่ก็ได้ทรงที่ไม่สวยเท่าไหร่เพราะตัดเองไม่เป็น จนต้องพาไปร้านตัดผมในที่สุด ซึ่งก็ยังเกิดปัญหาต่อคือลูกร้องไห้ไม่ให้ความร่วมมือ ช่างก็ไม่อยากตัดให้ และทางคุณหมี่ก็เกรงใจช่างมากเช่นกัน พอลูกโตขึ้นอีกหน่อย อยากให้เขาเซ็ทผมทรงหล่อ ๆ บ้าง แต่ก็กังวลว่าผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในร้านตัดผมทั่ว ๆ ไปเป็นของสำหรับผู้ใหญ่ หากเด็กใช้อาจจะแพ้ จนได้ไอเดียมาจากแฟนว่าที่เมืองนอกเค้ามีร้านตัดผมสำหรับเด็กโดยเฉพาะ จึงอยากเปิดร้านเองในที่สุด

สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับผมสำหรับเด็ก ๆ ไม่ว่าจะเป็นแชมพู คอนดิชั่นเนอร์ มูส และเจลแต่งผม ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำมาสำหรับเด็กโดยเฉพาะ ทางร้านอิมพอร์ตมาจากอเมริกา ทำให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจได้ในคุณภาพว่าปลอดภัยสำหรับลูกน้อยอย่างแน่นอน

ที่ Kiddy-Cutz ช่างผมมีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการตัดผมเด็กมาโดยเฉพาะ ด้วยประสบการณ์มากว่า 12 ปี ซึ่งช่างมีความใจเย็น อัธยาศัยดี มีจิตวิทยาที่ดีในการคุยกับเด็ก นอกจากนี้ภายในร้านยังเต็มไปด้วยอุปกรณ์และเครื่องมือตัดผมที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ๆ

เวลาทำการ: 11:00 – 20:30 น.

ค่าบริการ: 260-300 บาท

เบอร์ติดต่อ: สาขา The Paseo ลาดกระบัง 081-648-2642

03 – Bambinista

ซาลอนแห่งนี้ตั้งอยู่ในย่านรามอินทรา และเป็นซาลอนที่ขึ้นชื่อในการดูแลเด็ก ๆ ดุจเจ้าชายและเจ้าหญิง ด้วยไอเดียของคุณผึ้ง-สาวิตรี ตาปสนันทน์ แรงบันดาลใจของเธอมาจากร้านทำเล็บสำหรับแม่และเด็กจากประเทศอิตาลี ซึ่งเธอได้นำเอาไอเดียมาต่อยอดให้เป็นธุรกิจร้านเสริมสวยครบวงจรสำหรับครอบครัว แถมเป็นแห่งแรกในประเทศไทยเสียด้วย

เนื่องจาก Bambinista เป็นซาลอนที่ให้บริการครบวงจรสำหรับทุกคนในครอบครัว ภายในร้านจึงมีบริการสระผม ตัดผม ทำเล็บ สปามือ สปาเท้า จัดปาร์ตี้วันเกิดให้กับเด็ก ๆ และยังมีบริการเพนท์หน้าและตัวเป็นรูปต่าง ๆ ตามใจเด็กด้วย

ดินแดนแห่งเทพนิยายในฝันสำหรับเด็ก ๆ แห่งนี้อบอวลไปด้วยกลิ่นหอมสนชื่น อีกทั้งยังปลอดภัยกับเจ้าหญิงเจ้าชายตัวน้อยที่มาใช้บริการ นั่นเป็นเพราะคุณผึ้งลงทุนคัดสรรผลิตภัณฑ์ในร้านทั้งหมดด้วยตัวเอง ตั้งแต่แชมพู ครีมนวด ยาทาเล็บ โดยเน้นว่าต้องเป็นผลิตภัณฑ์ออแกนิคที่ปลอดภัยสำหรับเด็ก ไม่มีส่วนผสมของสารเคมีเหม็นฉุนจนทำลายบรรยากาศภายในร้าน ทุกอย่างล้วนนำเข้ามาจากต่างประเทศ และเลือกจากแบรนด์ที่ได้รับรางวัลมาการันตีความปลอดภัย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ที่ใช้กับลูกค้าผู้ใหญ่ก็ผ่านมาตรฐานในการคัดสรรที่เข้มข้นไม่แพ้กัน

ที่ Bambinista จะปล่อยให้เด็ก ๆ เลือกและดีไซน์ทุกอย่างได้ด้วยตัวของพวกเขาเอง ไม่ว่าจะเป็นช่างของทางร้านหรือคุณพ่อคุณแม่ ก็จะไม่มีการบังคับเด็กหรือเลือกให้เสร็จสรรพ โดยทางร้านจะมีกระเป๋าเจ้าหญิงใบเล็ก ๆ ให้เด็กไปช็อปปิ้งยาทาเล็บสีต่าง ๆ แต่ที่น่าประหลาดใจไปกว่านั้นคือ ทางร้านไม่มีอัลบั้มหรือแคตตาล็อกทรงผมสำหรับเด็ก ๆ ไว้ให้เลือกเลย เพราะทางร้านเชื่อว่าเด็ก ๆ มีทรงผมที่ตัวเองอยากได้ และเลือกเองได้โดยไม่ต้องอ้างอิงกับแบบผมจากแหล่งใด

หากคุณพ่อคุณแม่พาลูกน้อยมาใช้บริการที่นี่ รับรองว่าหมดห่วงเรื่องพื้นที่นั่งรอไปได้เลย เพราะทางร้านได้จัดพื้นที่นั่งรอไว้สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครองเป็นอย่างดี สามารถนั่งรอได้ในระหว่างที่เจ้าหญิงตัวน้อย ๆ ไปเสริมสวย แถมยังมีพื้นที่ให้เด็ก ๆ ได้นั่งวาดรูปและระบายสีระหว่างที่รอคุณพ่อคุณแม่ใช้บริการด้วยเช่นกัน

เวลาทำการ: วันอังคาร-อาทิตย์ 10:00-21:00 น.

ค่าบริการ: ตัดผมเด็ก เริ่มต้น 400 บาท ทำเล็บเด็ก เริ่มต้น 390-1,000 บาท

เบอร์ติดต่อ: The Crystal Park Ekamai-Ramindra 061-939-1555

ให้ลูกตัดผมเมื่อไหร่ดี?

หากลูกน้อยเกิดมาพร้อมผมที่ดกหนา เขาก็อาจจะพร้อมสำหรับการตัดผมได้ตั้งแต่อายุ 6-8 เดือน แต่ถ้าลูกน้อยเป็นเด็กผมบาง มีผมน้อย เขาอาจจะไม่จำเป็นต้องเข้าร้านตัดผมจนกว่า 2 ขวบ กับคำถามที่ว่าควรพาลูกไปร้านตัดผมเมื่อไหร่ดี จึงไม่มีคำตอบที่ตายตัว

ทำอย่างไรเมื่อลูกไม่ยอมตัดผม

คุณพ่อคุณแม่อาจหารางวัลเล็กๆน้อยๆมาเป็นเครื่องจูงใจให้ลูก นำสิ่งที่ลูกชอบมากที่สุดมาให้ลูกถือเล่นขณะตัดผม หรือให้รางวัลแก่เขาเมื่อตัดผมเสร็จแล้ว ค่อย ๆ ให้ลูกเผชิญกับการตัดผม โดยพาไปทำความคุ้นเคยกับร้านตัดผม แม้จะยังไม่ตัดผมในตอนนั้นเลยก็ตาม คุณพ่อคุณแม่สามารถไปคุยกับช่างตัดผมพร้อมกับพาลูกไปด้วย หรือพาเขาไปร้านตัดผมด้วยเมื่อมีสมาชิกในบ้านคนอื่น ๆ ไปตัดผม

หากพบว่าลูกไม่อยากตัดผมเพราะกลัวเครื่องตัดผม ให้เลือกไปร้านตัดผมเด็กโดยเฉพาะ เพราะเขาจะมีของเล่นสำหรับเด็กไว้บริการ ขณะที่ลูกกำลังตัดผมคุณพ่อคุณแม่ควรกอดและสัมผัสเขาเบา ๆ หรือให้ถือขนมที่ลูกชอบขณะกำลังตัดผม หรือให้เขาเล่นของเล่นที่มีเสียงคล้ายเครื่องตัดผม เช่น ของเล่นที่ใช้ถ่าน ที่มีเสียงและเคลื่อนไหวได้ เพื่อให้เขาเกิดความสนุกสนานและเกิดความคุ้นเคยกับเสียงเครื่องตัดผมมากขึ้น ที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่ควรอยู่กับลูกจนตัดผมเสร็จ ถ้าลูกต่อต้านการตัดผมมากจริง ๆ ควรตัดผมให้ในเวลาที่ลูกหลับจะง่ายกว่า

เมื่อพาลูกไปตัดผมที่ร้านเป็นครั้งแรก

หากคุณพ่อคุณแม่เพิ่งจะพาลูกน้อยไปตัดผมที่ร้านเป็นครั้งแรก อาจจะต้องเตรียมตัวหรือเตรียมของใช้จำเป็นที่ต้องใช้ในการตัดผมไปเพิ่มด้วย ดังนี้

• เลือกร้านที่เหมาะสำหรับเด็ก

คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกหาร้านตัดผมที่มีประสบการณ์ในการตัดผมเด็ก ที่ร้านควรมีการ์ตูน ของเล่น หรือหนังสือต่าง ๆ เพื่อให้เด็กได้รับความบันเทิงและผ่อนคลาย ในส่วนของช่างผมก็ควรมีความชำนาญและมีประสบการณ์ในการตัดผมเด็กโดยเฉพาะ

• วางแผนให้รอบคอบ 

นัดหมายเวลากับทางร้านให้ดี ด้วยการโทรหรือติดต่อผ่านทางโซเชียลมีเดียเพื่อจองคิวล่วงหน้า ไม่ควรเลือกตัดผมในเวลาที่ลูกต้องรับประทานอาหารและเวลาที่ลูกต้องนอนกลางวัน เพื่อไม่ให้ลูกเกิดอาการงอแง

• พูดคุยกับลูกเรื่องการตัดผม

คุณพ่อคุณแม่ควรอธิบายขั้นตอนการตัดผมว่าลูกจะต้องเจออะไรบ้าง เช่น จะต้องมีการคลุมผ้า หรือ ช่างตัดผมจะต้องใช้กรรไกรตัดผมลูกออก โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะแสดงท่าทางให้ดูหรือเปิดรูปภาพและคลิปวิดีโอให้ลูกดูประกอบ

• เสื้อผ้าสำหรับเปลี่ยน

ในการตัดผมอาจมีเศษผมไปติดตามตัวของเด็ก ๆ ทำให้ระคายเคืองหรือคัน ตามปกติทางร้านตัดผมก็จะมีผ้าคลุมให้ แต่ผ้าคลุมอาจไม่สามารถป้องกันเศษผมได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ การพกเสื้อผ้ามาเปลี่ยนก็ย่อมดีกว่า เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้ไม่ระคายเคือง

• เตรียมตัวเป็นลูกมือจำเป็น

การเดาใจเด็ก ๆ อาจจะเป็นเรื่องลำบาก เพราะเด็กบางคนไม่ร้องโยเยในครั้งแรกที่มาตัดผม แต่กลับมาร้องในครั้งที่สองหรือครั้งต่อ ๆ ไป คุณพ่อคุณแม่อาจต้องช่วยช่างตัดผมอุ้มลูกไว้ในท่าที่ถนัด รวมทั้งต้องคอยป้องกันไม่ให้ลูกเอามือสะบัดออก เพื่อความปลอดภัยของตัวเขาเอง

เรื่องการตัดผมเด็กถึงจะไม่ใช่เรื่องที่ง่าย แต่ก็ไม่ใช่เรื่องที่ยากเกินความสามารถนะคะ ที่สำคัญคือ ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่ต้องการจะพาลูกน้อยไปรับบริการที่ร้านหรือจะอยากประหยัดสตางค์ด้วยการตัดเอง ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดหรือจัดแต่งทรงผมให้ลูกน้อยที่เลือกใช้นั้นต้องมั่นใจได้ว่าจะไม่เป็นอันตรายสำหรับเด็กจริง ๆ ปราศจากสารเคมีที่จะก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวอันบอบบางของลูกน้อยค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th