Site icon Motherhood.co.th Blog

ลูกพูดไม่ชัด อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง

ลูกพูดไม่ชัด พ่อแม่อย่าละเลย

หมั่นสังเกตว่าลูกมีปัญหาในการออกเสียงหรือไม่

ลูกพูดไม่ชัด อย่าปล่อยให้เป็นปัญหาเรื้อรัง

หลังจากที่ลูกรักเริ่มหัดพูดได้บ้างแล้ว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่อาจจะกังวลตามมาก็คงเป็นความกลัวว่า “ลูกพูดไม่ชัด” แต่ก็ยังมีพ่อแม่อีกจำนวนนึงที่มองข้ามปัญหานี้ อาจจะเพราะมองว่าน่ารักดีแบบเด็กๆ เห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย เลยไม่ได้ให้ความสำคัญ หากปล่อยไปอาจส่งผลเสียกับเด็กในการใช้ชีวิตได้

โดยปกติแล้วเด็กจะเริ่มมีพัฒนาการของการพูดเป็นคำได้ตอนที่เขาอายุ 1 ขวบ เช่น แม่ พ่อ หม่ำ ส้ม มา เป็นต้น และจะเริ่มพูดยาวเป็นประโยคได้เมื่อเข้าอายุ 2 ขวบ พอเข้าช่วง 3-4 ปี ลิ้นของเด็กจะทำงานได้ดีขึ้น เขาจะเริ่มออกเสียง ร.เรือ กับ ล.ลิง ได้ โดยที่เด็กจะเริ่มออกเสียงพยัญชนะต่างๆได้มากขึ้นไปตามช่วงวัย คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ในครอบครัวสามารถช่วยกันสังเกตว่าเด็กมีอาการพูดไม่ชัดได้ด้วยการฟังเขาออกเสียงพยัญชนะตามช่วงอายุ หรือสังเกตจากการเปรียบเทียบกับเด็กวัยเดียวกัน โดยเฉพาะในเวลาที่เขาพยามสื่อสารกับพ่อแม่ เราเข้าใจสิ่งที่เขาพูดหรือไม่

หากลูกมีอายุเกิน 2 ขวบแล้วยังพูดไม่ชัด คุณพ่อคุณแม่สามารถปรึกษาแพทย์เพื่อประเมินหาสาเหตุได้ จากนั้นก็จะเข้าขั้นตอนการรักษาหรือการบำบัดการพูดต่อไป

นักบำบัดจะแก้ไขเสียงที่ลูกไม่สามารถออกได้ชัด

ทำไมลูกพูดไม่ชัด

  1. มีโครงสร้างปาก ลิ้น ฟัน ที่ผิดปกติ เช่น ถ้าลิ้นไม่กระดก มีเอ็นยึดใต้ลิ้น จะทำให้การออกเสียงที่ต้องกระดกลิ้นมีปัญหา หรือโครงสร้างเพดานปากอ่อนผิดปกติ ทำให้เด็กมีเสียงพูดที่อู้อี้ บูบี้ เป็นต้น
  2. พูดไม่ชัดด้วยตัวเอง ทั้งที่โครงสร้างภายในปากไม่มีความผิดปกติใดๆ อาจเกิดจากการเลี้ยงดู เช่น เวลาที่เด็กพูดไม่ชัดแล้วผู้ใหญ่หัวเราะชอบใจ แถมชมว่าน่ารัก เด็กก็จะจำว่าการออกเสียงแบบนั้นเป็นเรื่องที่ถูก จนติดนิสัยพูดไม่ชัด
  3. ขาดการกระตุ้นที่เหมาะสม เช่น ผู้ปกครองไม่มีเวลา จึงให้ลูกอยู่กับโทรทัศน์หรือคอมพิวเตอร์ เด็กเลยรับสารจากช่องทางเดียว ไม่มีการสื่อสารกับผู้คนรอบข้าง ทำให้พัฒนาการทางภาษาของเด็กหยุดชะงัก
  4. มีความผิดปกติทางพันธุกรรม เช่น มีภาวะออทิสติก มีความผิดปกติทางการได้ยิน หรือมีประวัติคนใกล้ชิดในครอบครัวพูดช้าหรือพูดไม่ชัด

ผลกระทบเมื่อลูกพูดไม่ชัด

ปัญหาพูดไม่ชัดนี้ส่งผลต่อตัวเด็กเองหลายอย่าง เช่น การพูดกับเพื่อนแล้วเพื่อนไม่เข้าใจ หรือหากเพื่อนต้องถามย้ำบ่อยๆเพราะฟังไม่เข้าใจ ก็จะทำให้เด็กรู้สึกอับอาย สูญเสียความมั่นใจ ไม่อยากพูด หรือหากโดนเพื่อน bully ก็ยิ่งทำให้เขาเก็บตัว เข้าสังคมน้อยลง

ในบางรายอาจจะส่งผลกระทบไปถึงการเขียนและการสะกดคำ เช่น หากเด็กพูดคำว่าน้ำส้มเป็น “น้ำต้ม” เวลาเด็กเขียนก็จะสะกดตัวตามเสียงที่เขาพูดนั่นเอง

เด็กบางคนมีโครงสร้างในปากที่ผิดปกติ เขาเลยไม่สามารถออกเสียงบางเสียงได้

วิธีการรักษา

เริ่มต้นจากการประเมินโครงสร้างภายในช่องปากของเด็กก่อนว่ามีส่วนที่ผิดปกติหรือไม่ และตรวจการได้ยินของเด็กว่าปกติดีไหม เพราะการได้ยินไม่ชัดก็จะส่งผลให้ลูกพูดไม่ชัดด้วย จากนั้นทำการประเมินทีละเสียงเพื่อหาว่ามีเสียงไหนบ้างที่เด็กออกเสียงได้ไม่ชัด หากพบว่าการที่เด็กไม่สามารถออกเสียงบางเสียงได้นั้นเกิดมาจากมีโครงสร้างภายในปากที่ผิดปกติอย่างมาก แพทย์อาจจะต้องพิจารณาแก้ปัญหาด้วยการผ่าตัดแก้ไข หากเป็นอาการพูดไม่ชัดแบบที่เด็กไม่มีความผิดปกติในช่องปากเลย แพทย์จะจัดให้เด็กพบกับนักบำบัด และเข้ารับการบำบัดในเสียงที่เด็กออกได้ไม่ชัด ซึ่งพ่อแม่ต้องมีส่วนช่วยโดยการนำกลับไปฝึกฝนเพิ่มเติมที่บ้านด้วย มีงานวิจัยที่บ่งชี้ว่าเสียงหนึ่งเสียงจะต้องใช้เวลาฝึกอย่างน้อย 3 เดือนในการพูดให้ชัด

ปัญหาการพูดไม่ชัดของลูกเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรละเลย เพราะจะส่งผลกระทบต่อบุคลิกภาพและสภาพจิตใจของเด็กได้อย่างมาก คุณพ่อคุณแม่และสมาชิกในครอบครัวควรช่วยกันสังเกตการออกเสียงของลูก หากพบปัญหาจะได้เข้ารับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญให้ทันท่วงที

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th