ทำไงดี เมื่อลูก “ล็อคลูกบิดประตู” ขังตัวเองอยู่ในห้อง ?
ลูกน้อยวัย 3 ขวบของคุณเคย (ไม่ว่าจะบังเอิญหรือตั้งใจ) “ล็อคลูกบิดประตู” จากด้านในห้องหรือเปล่า ? เชื่อว่าหลาย ๆ บ้านน่าจะเคยผ่านประสบการณ์นี้มาก่อน คุณจะแก้ไขยังไงเมื่อลูกเล็กของคุณขังตัวเองไว้ในห้อง ?
หากลูกน้อยของคุณขังตัวเองไว้ในห้องในตอนนี้ ทุกอย่างขึ้นอยู่กับว่าคุณมีประตูแบบไหน ประตูบางแบบมันง่ายพอ ๆ กับการหมุนตัวล็อคจากด้านนอกด้วยไขควงปากแบน หรือหากคุณต้องการป้องกันไม่ให้เรื่องเช่นนี้เกิดขึ้นอีก มันก็มีเคล็ดลับและะผลิตภัณฑ์มากมายที่สามารถป้องกันไม่ให้เด็ก ๆ ล็อกประตูและทำให้ตัวเองติดอยู่ในห้องได้ ลองมาดูวิธีง่าย ๆ ที่คุณสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ รวมถึงป้องกันไม่ให้เกิดขึ้นตั้งแต่แรก
วิธีเปิดประตูห้องนอนหรือห้องน้ำที่ล็อกโดยไม่มีรูกุญแจ
สิ่งแรกเลยก็คือ ลูกของคุณถูกขังอยู่ในห้องและคุณต้องเปิดให้เร็วที่สุด มีสถานการณ์ 2-3 สถานการณ์ที่แตกต่างกัน ที่คุณสามารถนำไปแก้ไขปัญหาได้
สถานการณ์ที่ 1 – เห็นได้ชัดว่าประตูมีรูกุญแจ
ในกรณีนี้ คุณควรมีกุญแจอยู่ที่ไหนสักแห่งในบ้านแน่นอน ถ้าคุณไม่มี ให้ลองใช้กุญแจบ้านภายนอกหรือกุญแจเสริมอื่น ๆ และดูว่าพอดีหรือไม่ คุณอาจต้องแปลกใจว่าวิธีนี้มันเวิร์ค หากคุณไม่มีกุญแจ และกุญแจอื่นที่มีอยู่ก็ไม่ได้ผล ก็ยังมีวิธีอื่นให้ลองทำ
สถานการณ์ที่ 2 – ถอดฮาร์ดแวร์ลูกบิดประตูออกด้วยไขควง
สิ่งหนึ่งที่ควรรู้ไว้เกี่ยวกับประตูด้านในบ้านก็คือมันมักจะออกแบบมาเพื่อความเป็นส่วนตัวและลดเสียงรบกวน โดยปกติแล้วไม่ได้มีไว้เพื่อเป็นเรื่องของมาตรการรักษาความปลอดภัย
ลูกบิดประตูภายในบ้านส่วนใหญ่สามารถคลายเกลียวได้ หากมีสกรูที่สามารถมองเห็นได้อยู่รอบ ๆ แผ่นปิดของลูกบิด เพียงแค่ถอดมันออกคุณก็จะสามารถเปิดประตูได้
หากไม่มีสกรูที่มองเห็นได้ให้ถอดออก คุณจะต้องดันสลักเล็ก ๆ ที่อยู่ใกล้กับฐานของลูกบิดประตูเพื่อถอดที่จับ และเปิดเผยให้เห็นสกรูซึ่งสามารถถอดออกได้ด้วยไขควง
สถานการณ์ที่ 3 – หมุนตัวล็อคจากด้านนอกด้วยไขควงปากแบน
ประตูบางแบบคุณก็สามารถงัดมันได้ด้วยไขควงปากแบนหรือเหรียญอะไรก็ตามที่คุณสามารถหาได้ในบ้าน ประตูห้องน้ำตามบ้านส่วนใหญ่มักเป็นแบบนี้ ประตูและล็อคเหล่านี้ส่วนใหญ่มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้คนเดินเข้ามาหาคุณในขณะที่คุณกำลังขับถ่าย ลูกบิดประตูแบบนี้ยอดเยี่ยมมากเพราะมันปลอดภัยจริงๆ แต่ก็ยังช่วยให้ประตูล็อคและใช้งานได้ตามปกติ
หากคุณอาศัยอยู่ในบ้านหลังเก่าที่เต็มไปด้วยประตูซึ่งเสี่ยงต่อการปิดล็อคโดยไม่ได้ตั้งใจ ให้ลองซื้อลูกบิดรุ่นใหม่มาเปลี่ยน และเปลี่ยนชิ้นส่วนประตูแบบเก่าทั้งหมดในบ้านของคุณ
วิธีอื่น ๆ ในการเปิดประตู
หากวิธีข้างต้นไม่ได้ผลคุณอาจยังมีตัวเลือกบางอย่างให้ลอง
ให้ลูกเปิดประตู
นี่อาจไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับเด็กวัยหัดเดินหรือเด็กทารก แต่เด็กส่วนใหญ่ที่สามารถล็อคประตูโดยไม่ได้ตั้งใจอาจคิดวิธีปลดล็อกได้ด้วยคำแนะนำเล็กน้อยจากคุณ
ใช้เครื่องมืออื่น ๆ เพื่อแงะ
อาจจะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีเท่าไหร่นัก ทุกคนบอกว่าคุณสามารถใช้ไขควงหรือบัตรเครดิตเพื่อเปิดประตูที่ล็อกได้ แต่ในทางปฏิบัติแล้วมันไม่ได้ง่ายขนาดนั้นเสมอไป แต่ถ้าคุณรู้สึกลำบากใจและไม่มีทางเลือกอื่นให้ลองใช้
- กิ๊บดำ
- ไขควง
- มีดตัดเนย
- ไม้แขวนเสื้อ
เตะประตูเข้าไป
ไม่แนะนำให้ใช้วิธีนี้ เว้นแต่คุณจะรู้สึกว่าลูกของคุณกำลังตกอยู่ในอันตรายหากคุณไม่ได้เข้าไปในทันที เช่น ลูกของคุณถูกขังอยู่ในห้องน้ำโดยมีน้ำในอ่างเต็ม หรือมีเครื่องหนีบผมร้อน ๆ หรืออะไรที่คล้ายกัน
การทำเช่นนี้จะทำลายประตูและวงกบประตูของคุณ ซึ่งจำเป็นต้องมีการซ่อมแซมที่มีราคาแพง นอกจากนี้ ยังอาจเป็นอันตรายได้หากลูกของคุณยืนอยู่ใกล้ประตูเมื่อคุณเตะเข้าไป โปรดทราบว่าคุณสามารถเตะประตูได้อย่างมีประสิทธิภาพก็ต่อเมื่อประตูเป็นแบบที่เปิดออกไปจากตัวคุณ
เตะไปข้างหน้าโดยใช้ส้นเท้าของคุณ เตะให้ใกล้กับกลไกการล็อคหรือรูกุญแจให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ประตูควรแตกออก
โทรหาช่างทำกุญแจ
นี่เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่ไม่เหมาะอย่างยิ่ง เพราะจะใช้เวลานานมากและอาจต้องเสียเงิน แต่ถ้าคุณไม่คิดว่าลูกของคุณกำลังตกอยู่ในอันตราย คุณลองแล้วก็ยังไม่สามารถเปิดประตูได้ด้วยตัวคุณเอง และไม่ต้องการให้บ้านของคุณเสียหาย นี่เป็นทางเลือกหนึ่งที่ดี
พยายามเข้าทางหน้าต่าง
หากห้องที่มีปัญหามีหน้าต่าง ให้ดูว่าคุณสามารถเข้ามาจากด้านนอกได้หรือไม่ นี่เป็นตัวเลือกที่ดีอย่างยิ่งสำหรับห้องที่อยู่ชั้นล่างของบ้าน เป็นความคิดที่ดีที่จะปิดหน้าต่างของคุณไว้ แต่บางครั้งมันก็ดีที่คุณอาจจะลืมปิด
วิธีป้องกันประตูไม่ให้ล็อคเพื่อความปลอดภัยของเด็ก
ตอนนี้เราจะมาพูดถึงวิธีที่จะทำให้แน่ใจว่าบุตรหลานของคุณจะไม่ถูกขังโดยไม่ได้ตั้งใจในห้องในบ้านของคุณอีกต่อไป มีทางเลือกในการป้องกันดังนี้
ทางเลือกที่ 1: เปลี่ยนลูกบิดประตูด้วยทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า
ลูกบิดประตูรุ่นใหม่ที่แม้จะล็อค แต่สามารถหมุนได้ง่ายจากด้านนอกด้วยไขควงปากแบนในกรณีฉุกเฉิน คุณสามารถซื้อลูกบิดเหล่านี้ได้แบบยกแพ็ค และเปลี่ยนลูกบิดทุกอันในบ้านของคุณ ด้วยวิธีนี้ หากลูกของคุณล็อคประตูอีก คุณสามารถเข้าไปได้ภายใน 5 วินาทีได้อย่างง่ายดาย หากคุณมีไขควง เหรียญ หรือลิ่มแบนอื่น ๆ ที่ใช้ประโยชน์ได้
ทางเลือกที่ 2: ป้องกันไม่ให้ประตูที่มีอยู่ล็อคหรือปิดจนสุด
คุณสามารถใช้ตัวช่วยแบบโฮมเมดหรือสินค้าที่วางขายจำนวนมากเพื่อป้องกันเด็กเล็กจากประตูที่มีในบ้านของคุณ ผู้คนจำนวนมากจะติดเทปที่แข็งแรง เช่น เทปพันสายไฟ ทับกลไกการล็อคของประตูเพื่อไม่ให้ปิดได้เต็มที่ นี่เป็นวิธีแก้ปัญหาที่ค่อนข้างมีประสิทธิภาพแม้ว่าจะดูน่าเกลียดไปนิดก็ตาม
คำแนะนำอีกอันหนึ่งก็คือการถอดและกลับด้านลูกบิดประตูทั้งหมดในบ้านของคุณ เหตุผลก็คือตอนนี้กลไกการล็อคอยู่ด้านนอกห้องนอนหรือห้องน้ำ และตอนนี้ลูกของคุณไม่สามารถล็อคเข้าไปข้างในได้อีกต่อไป
นี่ไม่ใช่วิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุด เพราะตอนนี้มีความเป็นไปได้ที่เขาหรือเธอจะขังคุณไว้ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นวิธีที่แย่กว่าในสถานการณ์ที่ต้องเผชิญ เนื่องจากคุณไม่มีเครื่องมือหรือวิธีอื่น ๆ ในการออกไป
ทางเลือกที่ 3: สนทนาเรื่องความปลอดภัย (และแผนสำรอง)
เมื่อลูกวัยเตาะแตะของคุณสามารถล็อคประตูได้ด้วยตัวเอง อาจเป็นช่วงเวลาที่ดีที่จะพูดคุยกันว่าทำไมพวกเขาถึงไม่ควรทำเช่นนั้น ตั้งความคาดหวังและอธิบายถึงอันตรายจากการที่พวกเขาขังตัวเองอยู่ในห้อง คุณยังสามารถสอนวิธีล็อคและปลดล็อคประตูอย่างถูกต้องเพื่อให้พวกเขารู้ว่าจะออกไปอย่างไร และถึงกระนั้นก็ยังควรมีแผนสำรองไว้เสมอ
ฝึกฝนวิธีการข้างต้นที่ประตูของคุณล่วงหน้า เพื่อที่คุณจะได้รู้ว่าต้องเปิดประตูอย่างไรเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ตรวจสอบให้แน่ใจว่าคุณมีเครื่องมือที่จำเป็นเสมอ เช่น ไขควงปากแบน
หากลูกของคุณขังตัวเองไว้ในห้องที่ล็อค อย่าตกใจ ประตูภายในบ้านส่วนใหญ่ไม่ใช่สิ่งที่ยากที่จะเปิดออก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในบ้านที่ทันสมัย วิธีที่ง่ายที่สุดและพบบ่อยที่สุดคือ
- หมุนล็อคจากด้านนอกด้วยไขควง
- การถอดลูกบิดและกลไกการล็อค (ควรเป็นไปได้กับประตูภายในบ้าน)
- หรือเพียงแค่แนะนำให้บุตรหลานของคุณทราบวิธีปลดล็อกจากข้างใน
หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับอันตรายต่าง ๆ และไม่มีวิธีไหนเวิร์คอีก คุณสามารถเตะประตูเข้าไปได้ตลอดเวลา การซ่อมแซมอาจจะมีราคาแพง แต่สุดท้ายคุณก็ต้องยอมเสียค่าใช้จ่ายเล็ก ๆ น้อย ๆ
ทางออกที่ดีที่สุดของคุณคือเตรียมพร้อมสำหรับสถานการณ์นี้แต่เนิ่น ๆ และเปลี่ยนลูกบิดประตูของคุณด้วยทางเลือกที่ปลอดภัยกว่า หรืออย่างน้อยก็ฝึกเปิดมันเพื่อให้คุณพร้อมในกรณีฉุกเฉิน
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th