Site icon Motherhood.co.th Blog

12 วิธีแก้อาการแพ้ท้อง ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

12 วิธีแก้อาการแพ้ท้อง

นี่คือ 12 วิธีที่จะช่วยคุณบรรเทาอาการแพ้ท้อง

12 วิธีแก้อาการแพ้ท้อง ที่คุณแม่มือใหม่ต้องรู้

เตรียมพร้อมที่จะรับมือกับการแพ้ท้องหรือยังคะคุณแม่มือใหม่ทั้งหลาย มาติดตาม “วิธีแก้อาการแพ้ท้อง” จากผู้เชี่ยวชาญและบรรดาคุณแม่ผู้มากด้วยประสบการณ์กันดีกว่าค่ะ การเริ่มต้นบทบาทคุณแม่ของคุณจะได้ง่ายขึ้นไปอีกนิดนึง

ตามที่ดร.มาจอรี กรีนฟิลด์ แพทย์สูตินรีเวชวิทยาได้บอกเอาไว้ว่า ประมาณร้อยละ 70 ของผู้หญิงมีอาการคลื่นไส้ในช่วงต้นของการตั้งครรภ์ และประมาณร้อยละ 50 พบอาการอาเจียน มันเป็นเรื่องที่ธรรมดามาก แต่อาการของมันก็มีความแตกต่างหลากหลาย ผู้หญิงจำนวนมากมีอาการแพ้ท้องตลอดวัน บางคนมีอาการเป็นส่วนใหญ่ในตอนเย็น และผู้หญิงคนอื่น ๆ จะมีอาการถ้าพวกเขาไม่ได้นอนหลับอย่างเพียงพอ และอาการแพ้ท้องสามารถเริ่มได้เร็วที่สุดในช่วงหกสัปดาห์ของการตั้งครรภ์ และมีแนวโน้มที่อาการจะปรากฏสูงสุดประมาณสัปดาห์ที่แปดและเก้า

1. ลางาน

หากคุณคิดว่าการลากสังขารตัวเองลงจากเตียงในช่วงเช้าเพื่อไปทำงานมันผสมไปด้วยความคลื่นไส้แล้วละก็ อย่าไปฝืนมัน ใช้วันลาป่วยเพื่อพักร่างกายและสมองของคุณจะดีกว่า เพราะตอนนี้ร่างกายของคุณกำลังทำงานล่วงเวลาเพื่อเจ้าตัวน้อยในท้อง คุณสมควรที่จะได้พักบ้าง

ยิ่งกว่านั้นคุณควรจัดสรรเวลาพักร้อนในสัปดาห์ที่เจ็ดหรือแปดของคุณเมื่ออาการแพ้ท้องเริ่มสูงขึ้น ไม่ว่าในกรณีใด คุณไม่จำเป็นต้องเปิดเผยข่าวการตั้งครรภ์ต่อเพื่อนร่วมงานของคุณจนกว่าคุณจะพร้อม

น้ำมันหอมระเหยกลิ่นสดชื่นแบบมะนาวนั้นช่วยได้มาก

2. สูดดมกลิ่นหอมสดชื่น

ไม่ว่าจะเป็นกลิ่นจากรถขนขยะที่เรารู้กันอยู่แล้วว่าไม่น่าอภิรมย์ขนาดไหน หรือกลิ่นน้ำหอมจากเพื่อนร่วมงานในขณะที่ทุกคนเบียดเสียดกันอยู่ในลิฟท์ มันย่อมจะมีกลิ่นบางอย่างที่ทำให้คุณเกิดความปั่นปวน “เพราะอาการแพ้ท้องมักเกี่ยวข้องกับกลิ่น” มิเรียม เอริค นักโภชนาการอาวุโสและนักโภชนาการที่โรงพยาบาลสตรีบริกแฮมในบอสตันกล่าว ฮอร์โมนเอสโตรเจนเป็นฮอร์โมนที่มีหน้าที่รับผิดชอบต่อกลิ่น และถ้าคุณเป็นคนที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนสูง เช่นที่เป็นหญิงตั้งครรภ์อยู่ตอนนี้ คุณก็จะมีจมูกเรดาร์ ที่ต้องเผชิญกับกลิ่นอันน่ารังเกียจที่คุณไม่สามารถหลีกหนีได้ และกลิ่นแรงพวกนั้นจะทำให้คุณคลื่นไส้

เมื่อคุณไม่สามารถเปิดหน้าต่างหรือเดินหนีออกไปได้ ให้ลองดมกลิ่นหอมสดชื่น พกน้ำมันหอมระเหยกลิ่นมะนาวสักขวดหรือก้านโรสแมรี่สดใส่ในกระเป๋าของคุณ และหยิบมาสูดดมเมื่อจำเป็น

3. อาหารว่างที่ช่วยต่อการกับอาการแพ้ท้อง

ให้หาแครกเกอร์ที่มีรสเค็มนิด ๆ ติดไว้ที่โต๊ะทำงานหรือโต๊ะข้างหัวนอน คุณจะได้หยิบมันมากินในเวลาที่รู้สึกคลื่นไส้ หรือตอนตื่นขึ้นมากลางดึกด้วยความคลื่นไส้ และหาของว่างอย่างโยเกิร์ต เพรทเซล หรือแครกเกอร์กับชีส กินทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง รวมทั้งดื่มชาขิงหรือเปเปอร์มินท์ในระหว่างมื้ออาหารก็จะช่วยลดความคลื่นไส้เหล่านั้นลงไปได้ หรือถ้าคุณอยากกินอาหารที่มีแคลอรีสูง แต่ไม่ได้มีสารอาหารที่ดีสักเท่าไหร่ คุณก็สามารถกินมันได้ เพียงแต่ต้องคุมปริมาณการกินให้น้อยไว้ก่อน เมื่อคุณรู้สึกดีขึ้นก็ให้กินอาหารที่ดีกับสุขภาพตามปกติ

4. สื่อสารให้มากขึ้น

การส่งเสียงของความรู้สึกคุณเองไปยังคนรอบข้างก็สามารถช่วยบรรเทาอาการแพ้ท้องได้เหมือนกัน สามีของคุณอาจไม่รู้ว่าสบู่หอมของเขาทำให้คุณรู้สึกไม่สบายใจ หรือการที่เขามาจูบคุณหลังจากกินพิซซ่าดินเนอร์โดยไม่ได้แปรงฟันก่อน ก็จะต้องเจอกับปฏิกิริยาผงะออกของคุณ ดังนั้นจงบอกเขา และบอกให้เขารู้ว่าเขาสามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้บ้างเพื่อช่วยให้คุณรู้สึกดีขึ้น และเมื่ออารมณ์ของคุณดีขึ้น เขาก็จะรู้สึกดีขึ้นเช่นกัน

5. จดบันทึกอาการคลื่นไส้

ความวิงเวียนคลื่นไส้นั้นอาจดูเหมือนมันไป ๆ มา ๆ ตามอำเภอใจ แต่โดยการปรับร่างกายและสภาพแวดล้อมของคุณ อาจทำให้คุณพบว่ามันค่อนข้างมีแพทเทิร์นที่แน่นอน

หากคุณพบว่าตัวเองเริ่มมีอาการคลื่นไส้ในเวลาเดียวกันทุกเย็น เอริคกล่าวว่าอาจเป็นเพราะกลิ่นของการปรุงอาหารของเพื่อนบ้าน หรือคลื่นไส้ขึ้นมาในเวลาบ่ายสามตอนอยู่ที่ออฟฟิศ ก็อาจเป็นเพราะกลิ่นไมโครเวฟป็อบคอร์นจากเพื่อนร่วมงานเป็นเหตุ เมื่อคุณทราบถึงสาเหตุของการเจ็บป่วยแล้ว คุณสามารถทำตามขั้นตอนที่เหมาะสมเพื่อหลีกเลี่ยงสิ่งเหล่านี้ได้

6. อย่าปล่อยให้ขาดน้ำ

อาจฟังดูติ๊งต๊องที่จะบอกว่าการพยายามดื่มน้ำให้ได้ครบ 8 แก้วเป็นความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ในช่วงนี้ สาเหตุก็เพราะว่าท้องของคุณมันไม่ค่อยอยากจะรับอะไรสักเท่าไหร่นี่สิ ถึงแม้จะเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องดื่มน้ำเข้าไปให้มาก เพราะยิ่งคุณขาดน้ำมากเท่าไหร่คุณก็ยิ่งมีอาการคลื่นไส้มากขึ้นตามข้อมูลของกรีนฟิลด์ หากต้องการความชุ่มชื้นลองทำตามวิธีต่าง ๆ เพื่อหลอกล่อให้ร่างกายให้ได้รับน้ำ เอริคพบว่าสำหรับผู้หญิงบางคนของขบเคี้ยวรสเค็ม เช่น มันฝรั่งทอดและชีส จะยิ่งเข้าไปกระตุ้นความกระหาย ในขณะที่หลายคนก็ยึดมั่นที่จะจิบน้ำใส่น้ำแข็งแข็งเย็น ๆ หรือเครื่องดื่มร้อน “อุณหภูมิสร้างความแตกต่าง” เอริคกล่าว “หากเครื่องดื่มมาในอุณหภูมิที่อุ่นอย่างครึ่ง ๆ กลาง ๆ บางครั้งก็ทำให้คนยิ่งคลื่นไส้

ขนมปังกรอบรสเค็มนิด ๆ ช่วยให้หายคลื่นไส้ได้

7. เลือกอาหารที่เหมาะสมกับคุณ

แม้ว่าการกินอาหารจะเป็นสิ่งสุดท้ายที่คุณรู้สึกอยากจะทำ แต่คุณก็จะเป็นที่จะต้องกิน สิ่งที่ต้องคำก็คือหาว่าควรจะกินอะไร แม่ทุกคนกับท้องไส้อันปั่นป่วนล้วนมีความต้องการที่แตกต่างกัน อะไรที่ทำให้คนนึงรู้สึกดีขึ้น อาจจะทำให้อีกคนอ๊อกออกมาเลยก็ได้ แม้ว่าจะไม่มีกฎเกณฑ์ที่ยากหรือรวดเร็วว่าอาหารใดที่เวิร์คที่สุดสำหรับแม่ที่แพ้ท้องทุกเช้า แต่ผู้หญิงหลายคนพบว่ามันง่ายกว่าที่จะยึดติดกับอาหารบางประเภท อาหารรสจืดและคาร์โบไฮเดรตสูงอย่างแครกเกอร์ ซีเรียลแห้ง และเพรทเซล จัดเป็นตัวเลือกที่ดี เช่นเดียวกับแตงโมแช่เย็น ส่วนอาหารมันและรสจัดอาจทำให้คุณปวดท้อง แต่ถ้าคุณพบว่ามันเวิร์คสำหรับคุณ จะลองกินดูก็ไม่เสียหาย

ถ้าคุณกังวลว่าจะได้รับสารอาหารเพียงพอหรือไม่ ลองกินซุปไก่ซึ่งจะช่วยให้คุณชุ่มชื้นและให้พลังงานแก่คุณ นอกจากนี้ ควรกินอาหารเย็นมากขึ้น เพราะอาหารร้อนมีแนวโน้มที่จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้มากกว่าอาหารเย็นที่มีกลิ่นหอม

8. เล่นสนุกกับขิง

ขิงได้รับการขนานนามว่าเป็นผู้ช่วยเยียวยากระเพาะอาหาร การศึกษาแสดงให้เห็นว่ามันอาจช่วยระงับอาการคลื่นไส้ ลองเพิ่มขิงชิ้นบาง ๆ ลงในน้ำร้อนหรือชาที่คุณดื่ม หรือจะกินขิงเชื่อมเป็นของว่างก็ได้ หรือแม้แต่ขนมปังขิงที่หาสูตรได้ทั่วไปในอินเตอร์เน็ต เอริคแนะนำให้อุ่นแยมขิงในไมโครเวฟแล้วเทลงบนไอศครีมวานิลลา

9. ปรับแต่งคอมพิวเตอร์

คุณอาจจะคิดว่าการท่องเว็บจะช่วยเบี่ยงเบนความสนใจของคุณออกจากอาการคลื่นไส้ที่อาจจะมีขึ้น แต่แสงสว่างจากจอมอนิเตอร์และเอฟเฟกต์แฟลชที่ตรวจไม่พบอาจทำให้คุณรู้สึกคลื่นไส้มากขึ้น เพื่อต่อสู้กับสิ่งมัน เอริคแนะนำให้ปรับหน้าจอของคุณเพื่อลดอาการปวดตา ทำให้ขนาดฟอนต์เป็นตัวหนาและใหญ่ขึ้นและเปลี่ยนพื้นหลังเป็นสีชมพูหรือน้ำตาลอ่อน เอริคยังแนะนำให้หยุดพักช่วงสั้น ๆ จากคอมพิวเตอร์ด้วยการทำอะไรอย่างอื่นหรือแค่หลับตา

10. หันเหความสนใจ

อาการวิงเวียนคลื่นไส้นี้ไม่ง่ายที่เราจะทำเมินมัน แต่การหาอะไรทำเพื่อให้เบี่ยงเบนความสนใจตัวเองได้ก็อาจจะช่วยให้คุณลืมมันไปได้สักพัก อ่านหนังสือ ต่อจิ๊กซอว์ เล่น Sudoku หรือออกไปเดินเล่น คุณแม่บางคนถึงกับอ้างว่าการออกกำลังกายช่วยบรรเทาอาการคลื่นไส้ แต่จงแน่ใจว่าได้พูดคุยกับแพทย์ของคุณก่อน และแน่นอน คุณต้องฟังร่างกายของคุณ ถ้าคุณเริ่มรู้สึกเหนื่อยหรือไม่สบายใจ ก็แปลว่ามันถึงเวลาที่จะหยุด

หากิจกรรมเบี่ยงเบนความสนใจจากอาการคลื่นไส้วิงเวียนที่มี

11. พก Survival kit

ไม่ว่ามันจะเกิดขึ้นบ่อยครั้งแค่ไหน แต่การอาเจียนในที่สาธารณะก็ไม่ได้ทำให้คุณรู้สึกสะดวกใจหรือชินกับมันมากขึ้นเท่าไหร่เลย แต่เพื่อให้สถานการณ์ไม่ยุ่งยากจนเกินไปนัก อย่าลืมที่จะออกจากบ้านโดยมีจัดสิ่งของจำเป็นเหล่านี้ลงไปด้วย ซึ่งกรีนฟิลด์แนะนำให้พกเสื้อตัวใหม่ ยาสีฟัน แปรงสีฟัน และน้ำยาบ้วนปาก เพื่อช่วยให้คุณสดชื่นหลังอาเจียน พวกลูกอมมินท์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีไม่แพ้กัน นอกจากนี้ยังเป็นความคิดที่ดีที่จะพกถุงพลาสติก สำหรับช่วงเวลาที่น่าหวาดเสียวไม่สามารถกลั้นได้จนกว่าจะถึงห้องน้ำที่อยู่ใกล้ที่สุด รวมถึงของขบเคี้ยวอย่างแครกเกอร์หรือเพรทเซิลที่คุณสามารถเคี้ยวเมื่อเริ่มรู้สึกว่าท้องของคุณว่าง

12. นอนลงซะ

บางครั้งทางออกที่ดีที่สุดกลับเป็นสิ่งที่ง่ายดาย ลองนอนหลับ ปิดตา หายใจลึก ๆ แล้วก็พักผ่อนบ้าง แพทย์และคุณแม่หลายคนบอกว่าการนอนหลับเป็นวิธีที่ดีในการหลบหนีไปจากอาการแพ้ท้อง และร่างกายของคุณต้องการมัน หากคุณมีลูกเล็กอยู่แล้วคนหรือสองคน ให้หาคนมาช่วยดูเขาแม้ว่าจะเพียงไม่กี่ชั่วโมงต่อวัน หากคุณมีปัญหาในการนอนหลับ ลองสวมหน้ากากปิดตาหรือแว่นกันแดดสีเข้มเพื่อช่วยป้องกันแสงจ้า

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th