Site icon Motherhood.co.th Blog

วิธีใช้เครื่องปั๊มนม ชวนคุณแม่เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก

วิธีใช้เครื่องปั๊มนม

เรียนรู้วิธีใช้เครื่องปั๊มนม เพื่อให้ได้นมเพียงพอแก่ลูกน้อย

วิธีใช้เครื่องปั๊มนม ชวนคุณแม่เรียนรู้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก

เพิ่งผ่านพ้นสัปดาห์แห่งการให้นมแม่โลกไปหมาด ๆ คุณแม่หลายคนก็คงเห็นถึงความสำคัญของการให้นมแม่กันแล้ว แต่อาจยังไม่มีข้อมูลที่จำเป็น เช่น “วิธีใช้เครื่องปั๊มนม” หรือการเลือกซื้อของที่เกี่ยวข้องกับการให้นมหลาย ๆ อย่าง วันนี้ Motherhood จะมาแนะนำการเลือกซื้อเครื่องปั๊มนม รวมถึงการใช้งานมันอย่างถูกวิธี เพื่อให้แม่ ๆ ทุกคนสามารถให้นมลูกน้อยได้อย่างไม่ขาดตอน

การปั๊มนมคืออะไร?

เป็นวิธีเก็บสำรองนมแม่ที่สะดวกและประหยัดเวลาในการให้นมลูก และยังช่วยให้คุณแม่หมดกังวลเรื่องปริมาณนมที่อาจไม่เพียงพอเมื่อให้นมจากเต้าอีกด้วย นอกจากนี้ ในกรณีที่คุณแม่ไม่ว่างหรือต้องไปทำงานนอกบ้าน ผู้ที่รับหน้าที่ดูแลแทนก็สามารถป้อนนมให้เด็กได้ทันที สิ่งสำคัญคือคุณแม่ควรเรียนรู้วิธีการปั๊มและการเก็บรักษานม เพื่อให้มั่นใจได้ว่าลูกน้อยจะได้รับนมที่มีคุณภาพ และยังเป็นผลดีต่อสุขภาพเต้านมของตัวคุณแม่เองเช่นกัน

การใช้เครื่องปั๊มนม ก็เพื่อให้แม่ได้ปลีกเวลาไปทำอย่างอื่นบ้าง

ทำไมต้องปั๊มนม?

คุณแม่จำนวนไม่น้อยเลือกการปั๊มนมเป็นตัวช่วยในการให้นมลูก เนื่องจากเป็นวิธีที่ผู้อื่นสามารถป้อนนมแทนได้ ทำให้คุณแม่มีเวลาทำกิจกรรมอื่น ๆ ได้ไปทำงาน หรือพักผ่อนจากการให้นม นอกจากนี้การปั๊มนมยังมีข้อดีอีกหลายประการ เช่น

เครื่องปั๊มนมแบบสองฝั่งเป็นที่นิยมากในขณะนี้

เริ่มปั๊มนมได้ตอนไหน?

การปั๊มนมควรเริ่มหลังคลอดบุตร โดยเฉพาะคุณแม่ที่มีปัญหาเรื่องน้ำนมไม่เพียงพอ อาจเริ่มปั๊มนมทันทีหลังคลอด เพราะจะช่วยให้น้ำนมไหลออกมามากขึ้น แต่ยังไม่ควรให้เด็กเรียนรู้การดูดนมจากขวดเร็วเกินไป เพราะอาจทำให้เด็กสับสนและติดดูดนมจากขวด ทว่าอาการนี้อาจไม่เกิดขึ้นเสมอไป เด็กบางคนปรับตัวได้ดี ทำให้ดูดนมจากเต้าและขวดนมสลับกันได้โดยไม่มีปัญหา

หากคุณแม่ไม่ได้เริ่มปั๊มนมตั้งแต่หลังคลอด และต้องกลับไปทำงานหลังครบกำหนดลาคลอด ควรเริ่มฝึกปั๊มนมอย่างน้อย 1-2 สัปดาห์ก่อนหน้า โดยอาจปั๊มนมหลังจากให้นมลูกเรียบร้อยแล้วหรือปั๊มระหว่างให้นมเลยก็ได้ การฝึกปั๊มนมจะช่วยให้คุณแม่เรียนรู้วิธีปั๊มนมได้อย่างถูกต้อง และยังเป็นการเริ่มเก็บสำรองน้ำนมไว้สำหรับลูกน้อยเมื่อถึงเวลาต้องกลับไปทำงาน

เลือกซื้อปั๊มนมอย่างไร?

เครื่องปั๊มนมเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยให้ปั๊มนมได้สะดวกยิ่งขึ้น ซึ่งการเลือกชนิดเครื่องปั๊มนมที่เหมาะสมนั้นขึ้นอยู่กับความถี่ในการใช้ ระยะเวลาที่คุณแม่สะดวกปั๊มนม รวมทั้งปริมาณน้ำนมที่ต้องการ เครื่องปั๊มนมที่นิยมใช้ในปัจจุบันมี 2 ชนิด ได้แก่

นอกจากนี้ การเลือกเครื่องปั๊มนมยังควรคำนึงถึงปัจจัยอื่น ๆ ที่สำคัญ เช่น เครื่องปั๊มแบบไฟฟ้าอาจส่งเสียงดังขณะเครื่องทำงาน ขนาด และน้ำหนักของเครื่องอาจไม่สะดวกต่อการพกพา อีกทั้งต้องใช้กระแสไฟฟ้าหรือแบตเตอรี่ในการทำงาน คุณแม่บางคนอาจเลือกใช้เครื่องปั๊มนมทั้ง 2 ชนิดสลับกัน เพื่อให้ได้น้ำนมตามปริมาณที่ต้องการ และยังสามารถปั๊มนมได้ในกรณีที่ไฟดับหรืออยู่ในบริเวณที่ไม่มีกระแสไฟฟ้า

วิธีการปั๊มนมที่ถูกต้อง

ปัจจุบันคุณแม่ส่วนใหญ่นิยมปั๊มนมด้วยเครื่อง เนื่องจากใช้เวลาไม่มากและได้ปริมาณน้ำนมมากกว่าการปั๊มด้วยมือ ซึ่งการปั๊มนมด้วยมือและการปั๊มนมด้วยเครื่อง มีขั้นตอนดังต่อไปนี้

การปั๊มนมด้วยมือ

การปั๊มนมด้วยเครื่อง

เครื่องปั๊มนมไฟฟ้าจะสามารถปรับรอบดูดและแรงดูดได้ แต่บางรุ่นก็ไม่สามารถปรับรอบดูดได้ เป็นรอบดูดแบบคงที่ จะปรับได้เฉพาะแรงดูดอย่างเดียว ในช่วงแรกที่เพิ่งจะเริ่มทำการปั๊มนม ให้ปรับในระดับที่ยังรู้สึกสบายและไม่เจ็บ ค่อยๆเพิ่มความแรงของเครื่องปั๊มนมไปเรื่อย ๆ เมื่อร่างกายของแม่คุ้นเคยแล้ว ค่อยปรับระดับความแรงให้เพิ่มขึ้น ซึ่งโดยปกติแล้วการใช้เครื่องปั๊มนมจะไม่ทำให้คุณแม่รู้สึกเจ็บขณะปั๊ม หากมีอาการเจ็บแสดงว่าขนาดของกรวยเต้าที่ใช้ปั๊มนมนั้นผิดขนาด หรือตั้งอัตราการปั๊มนมสูงเกินไป ลองปรับการตั้งค่าให้ปั๊มแล้วรู้สึกสบายที่สุดและได้น้ำนมมากที่สุด หากลองปรับเปลี่ยนตามนี้แล้วยังรู้สึกเจ็บขณะปั๊มนม ควรไปพบผู้เชี่ยวชาญด้านนมแม่ เพื่อช่วยหาสาเหตุและแนวทางการแก้ไขที่ถูกต้องต่อไป

ในช่วงแรก อย่าเพิ่งปั๊มนมนานหรือแรงเกินไป เพราะอาจทำให้หัวนมแตกได้ ควรเริ่มต้นปั๊มนมครั้งละประมาณ 3-5 นาทีก่อน หลังจากที่ร่างกายเริ่มแข็งแรงขึ้นและเริ่มปรับตัวได้ ค่อยเพิ่มเวลาในการปั๊มมาเป็นประมาณข้างละ 15 นาที และหากคุณแม่ใช้เครื่องปั๊มนมแบบปั๊มคู่ก็สามารถปั๊มพร้อมกันสองข้างได้ นอกจากนี้ ช่วงที่น้ำนมยังมาไม่มาก อย่าเพิ่งปรับแรงดูดมากเกินไป ส่วนระยะเวลาปั๊มนมก็ค่อยๆเพิ่มให้นานขึ้นเป็น 20 นาที แต่ไม่ควรนานกว่า 30 นาที

ควรปั๊มนมได้ครั้งละเท่าไหร่?

ปริมาณนมที่ปั๊มได้นั้นไม่ใช่ข้อพิสูจน์ว่าแม่มีนมพอสำหรับลูกหรือไม่ เนื่องจากปริมาณน้ำนมที่ได้นั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง เช่น เพิ่งจะเริ่มปั๊มหรือปั๊มมานานแล้ว ระยะเวลาในการปั๊ม คุณภาพของเครื่องปั๊มที่ใช้ จำนวนครั้งในการปั๊มแต่ละวัน ฯลฯ ปัจจัยเหล่านี้มีผลต่อปริมาณน้ำนมที่ปั๊มได้ในแต่ละคน หากคิดว่าปริมาณน้ำนมยังไม่พอ จะต้องใช้เครื่องปั๊มนมให้ถูกวิธี

เมื่อปั๊มนมออกมาเพียงพอ ก็ยังต้องเก็บรักษาให้ถูกวิธีเช่นกัน

เก็บรักษานมแม่อย่างไร?

หลังจากปั๊มนมเรียบร้อยแล้ว คุณแม่ควรเก็บรักษานมในขวดแก้ว ขวดพลาสติก หรือถุงชนิดปลอดสารบีพีเอ BPA ที่ปิดสนิท โดยแบ่งเก็บในปริมาณ 60-120 มิลลิลิตรต่อ 1 บรรจุภัณฑ์ จากนั้นควรนำไปแช่เย็นทันที นอกจากนี้ ควรหลีกเลี่ยงการบรรจุนมแม่ในบรรจุภัณฑ์อื่นที่ไม่ได้ออกแบบมาสำหรับแช่แข็งหรือใส่น้ำนมแม่ เพราะอาจทำให้คุณภาพของนมลดลงหรือเสียได้

หากทิ้งนมแม่ไว้ระยะหนึ่ง ไขมันที่อยู่ในนมจะแยกตัวจากน้ำนมและลอยขึ้นมาอยู่ด้านบน ซึ่งไม่ใช่เรื่องผิดปกติ เช่นเดียวกับสีของนมแม่ที่อาจแตกต่างจากสีนมปกติที่มีสีเหลืองนวล โดยเป็นผลจากการรับประทานอาหารหรือใช้ยารักษาโรคบางชนิด อย่างไรก็ตาม ควรสังเกตลักษณะของนมแม่ก่อนนำมาใช้เสมอ ไม่ควรให้เด็กดื่ม หากนมมีกลิ่นเหม็นหรือกลิ่นเปรี้ยวผิดปกติ  โดยระยะเวลาการเก็บรักษานมแม่จะขึ้นอยู่กับลักษณะการเก็บรักษา ดังนี้

การแช่แข็งอาจทำให้สารภูมิคุ้มกันหรือแอนติบอดีที่อยู่ในนมถูกทำลายได้ หากไม่จำเป็นจึงไม่ควรแช่น้ำนมในช่องแช่แข็ง อย่างไรก็ตาม คุณแม่ให้ลูกดื่มนมแม่ที่แช่แข็งได้ตามปกติ เพราะยังคงมีประโยชน์และคุณค่าทางอาหาร ทั้งยังช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันในการป้องกันโรคที่อาจเกิดกับเด็กได้ เพียงแต่วิธีการนำน้ำนมแช่แข็งมาใช้นั้นควรแกว่งถุงที่ใส่นมเบา ๆ ในน้ำอุ่น หลีกเลี่ยงการใช้น้ำร้อนจัด เพราะอาจทำให้สูญเสียคุณค่าทางอาหาร และไม่ควรอุ่นนมแม่ด้วยเตาไมโครเวฟ เพราะนมจะร้อนเกินไปจนเด็กดื่มไม่ได้ รวมทั้งอาจทำลายสารอาหารที่มีประโยชน์ในน้ำนมอีกด้วย ทั้งนี้ นมแม่ที่นำมาอุ่นแล้วจะอยู่ในอุณหภูมิห้องได้ไม่เกิน 1 ชั่วโมง และนำกลับไปแช่ตู้เย็นได้อีกไม่เกิน 24 ชั่วโมง แต่ไม่สามารถนำกลับไปแช่แข็งได้อีก เพราะจะทำให้นมเสื่อมคุณภาพ

บรรดาคุณแม่ที่ยังมีความกังวลกับเรื่องการปั๊มนมคงจะหายข้องใจกันไปไม่มากก็น้อยนะคะ เรื่องของการให้นมลูกเองยังมีอะไรอีกมากที่คุณแม่ต้องค่อยๆเรียนรู้ไป ติดตามสาระดี ๆ จาก Motherhood ได้เสมอค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th