Site icon Motherhood.co.th Blog

อาการเจ็บท้องคลอด: มีกี่ขั้น อาการเป็นอย่างไร บรรเทาอย่างไร

อาการเจ็บท้องคลอดมีอะไรบ้าง

เรียนรู้เกี่ยวกับอาการเจ็บท้องคลอดและวิธีบรรเทา

อาการเจ็บท้องคลอด: มีกี่ขั้น อาการเป็นอย่างไร บรรเทาอย่างไร

ผู้หญิงหลายคนที่เคยผ่านการคลอดลูกมาแล้วพบว่า “อาการเจ็บท้องคลอด” นั้นมีมากมายอย่างไม่น่าเชื่อ แล้วอะไรคือสิ่งที่บรรดาว่าที่คุณแม่จะคาดหวังจากการคลอดได้บ้างละ มาติดตามคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญในบทความนี้กันเลยค่ะ

มดลูกเป็นอวัยวะที่กล้ามเนื้อจะเกิดการหดเกร็งอย่างแรงเพื่อบีบเอาตัวเด็กน้อยออกมา และการหดเกร็งตัวเหล่านี้เองเป็นสาเหตุหลักของความเจ็บปวดที่ได้รับจากการคลอด ความเจ็บปวดระหว่างการคลอดที่คุณจะได้พบนั้นยังขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่าง รวมไปถึงความแข็งแรงของการบีบตัว (ซึ่งจะเพิ่มขึ้นระหว่างการคลอด) การได้รับยาเร่งคลอดที่จะยิ่งทำให้เกิดการหดเกร็งตัวที่แรงขึ้น ขนาดและตำแหน่งของทารกในอุ้งเชิงกราน ไม่ว่าตัวเด็กจะเอาหน้าขึ้นหรือเอาหน้าลม (ตำแหน่งการคลอดในอุดมคติ) และความเร็วในการคลอดของแม่

นอกเหนือไปจากการรัดตัวของกล้ามเนื้อบริเวณหน้าท้องแล้ว บางครั้งก็จะเกิดในบริเวณลำตัวและอุ้งเชิงกรานของคุณด้วย คุณจะรู้สึกถึงแรงกดที่หลัง ฝีเย็บ กระเพาะปัสสาวะ และลำไส้ด้วย

“ทั้งหมดนี้รวมเข้าด้วยกันเพื่อสร้างความเจ็บปวด” นายแพทย์เจย์ โอไบรอัน ผู้อำนวยการแพทย์ของบริการสูตินรีเวชผู้ป่วยในโรงพยาบาลสตรีและทารกแห่งเมืองโพรวิเดนซ์ รัฐโรดส์ ไอร์แลนด์ กล่าว

การรวมกันของพันธุกรรมและประสบการณ์ชีวิตเป็นตัวกำหนดเกณฑ์ความเจ็บปวดของคุณหรือความสามารถในการทนต่อความเจ็บปวด ความกลัว ความกังวล และแม้แต่เรื่องราวด้านบวกหรือด้านลบที่คุณเคยได้ยินอาจช่วยให้คุณรับรู้ถึงความเจ็บปวด ยิ่งไปกว่านั้น คุณอาจจะไม่สามารถเปลี่ยนความสามารถในตัวของคุณให้ทนต่อความเจ็บปวดได้

ดังนั้น หากขีดจำกัดของคุณอยู่ในระดับต่ำ ให้ลองจัดเตรียมผู้ช่วยในการคลอดให้ดี งานศึกษาวิจัยแสดงให้เห็นว่าผู้หญิงที่คลอดกับดูลาหรือผดุงครรภ์มีการใช้ยาแก้ปวดน้อยลง มีการผ่าคลอดน้อยลง และพึงพอใจมากขึ้นกับประสบการณ์การคลอดของพวกเธอมากกว่าผู้หญิงที่ไม่ได้มีผู้ช่วยคลอดที่ดี

“เมื่อผู้หญิงรู้สึกอ่อนแอและเจ็บปวด ดูลาสามารถช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นซึ่งจะเป็นการขยายขีดความสามารถในการคลอดด้วย” เพนนี ซิมคิน ดูลาจากซีแอทเทิล กล่าว ซึ่งเธอเป็นผู้เขียนร่วมของ Pregnancy, Childbirth, and the Newborn: The Complete Guide

ความเจ็บปวดจากการคลอดมักจะเกิดขึ้นทีละน้อยและเพิ่มขึ้นเมื่อคุณก้าวผ่านแต่ละขั้นของการคลอด และนี่คือสิ่งที่คุณจะต้องรับมือ

มีหลายปัจจัยที่จะทำให้คุณแม่รู้สึกถึงความเจ็บมากหรือน้อย

ระดับขั้นความเจ็บปวดระหว่างการคลอด

1. อาการเจ็บท้องเตือน

การเจ็บท้องเตือนนั้นเกิดจากการที่กล้ามเนื้อเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการคลอดที่ใกล้เข้ามา โดยคุณแม่จะรู้สึกแน่นบริเวณช่วงท้อง และรู้สึกเป็นช่วง ๆ แต่ละช่วงมีความเจ็บปวดและระยะเวลาไม่เท่ากัน รวมถึงบริเวณที่เจ็บอาจเปลี่ยนไปเรื่อย ๆ ซึ่งอาการจะหายไปเมื่อคุณแม่เดิน หยุดพัก หรือเปลี่ยนอิริยาบถ

2. อาการเจ็บท้องจริง

การเจ็บท้องจริงเกิดมาจากการบีบตัวของมดลูกที่เตรียมพร้อมสำหรับการคลอด โดยจะมีอาการที่ไม่ตายตัวและแตกต่างกันไปในแต่ละคน ซึ่งอาการที่มักพบได้บ่อย คือ ปวดตื้อ ๆ บริเวณหลังและท้องส่วนล่าง คุณแม่บางรายอาจมีอาการปวดบริเวณข้างลำตัวและต้นขา และปวดคล้ายกับอาการปวดประจำเดือนหรือท้องเสีย แต่มีความรุนแรงมากกว่า ทั้งนี้ อาการเจ็บท้องจริงจะเกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอและมีความถี่มากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งอาการจะค่อย ๆ รุนแรงขึ้นตามการบีบตัวของมดลูก นอกจากนี้ ความเจ็บปวดจากการเจ็บท้องจริงนั้นยากที่จะบรรเทาอาการ ไม่ว่าจะด้วยการเปลี่ยนอิริยาบถหรือการใช้ยาช่วยบรรเทาความเจ็บปวดก็ตาม

อย่างไรก็ตาม อาการปวดทั้งสองชนิดนี้ไม่สามารถบอกได้ว่าใกล้ถึงเวลาคลอดแล้วหรือไม่ เพราะบางรายอาจมีอาการปวดติดต่อกันหลายวัน แต่กลับไม่มีการเปลี่ยนแปลงบริเวณอุ้งเชิงกรานที่เป็นสัญญาณเตือนของการคลอดเลย หรือบางรายอาจมีอาการเจ็บท้องเตือนแค่เพียงเล็กน้อยเท่านั้น หากคุณแม่มีอาการเจ็บท้องอย่างต่อเนื่อง เจ็บทุก 5 นาทีติดต่อกันเป็นเวลาประมาณ 1 ชั่วโมง มีอาการน้ำเดิน ซึ่งจะมีน้ำใส ๆ คล้ายน้ำปัสสาวะไหลออกมาทางช่องคลอดในปริมาณมาก หรือมีมูกเลือดออกจากช่องคลอด ควรรีบไปพบแพทย์ทันทีเพราะอาการเหล่านี้เป็นสัญญาณใกล้คลอด

หากศึกษาและเตรียมพร้อมก่อนคลอดจะช่วยได้มาก

วิธีรับมืออาการเจ็บท้องคลอด

แม้ความเจ็บปวดที่เกิดขึ้นในระหว่างคลอดนั้นอาจมีความรุนแรงมาก แต่คุณแม่ก็สามารถบรรเทาความเจ็บปวดนั้นได้บ้างด้วยการปฏิบัติตัวตามวิธีการต่าง ๆ ดังนี้

1. ศึกษาขั้นตอนการคลอดล่วงหน้า 

หากได้ศึกษาขั้นตอนการคลอดว่าต้องทำอย่างไร อาจเกิดอะไรขึ้นได้บ้าง และความเจ็บปวดจะเกิดขึ้นช่วงไหน รวมทั้งฝึกการเบ่งคลอดเบื้องต้นหรือฝึกหายใจแบบ Lamaze มาก่อนถึงวันคลอดจริง อาจช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลลงได้บ้าง โดยอาจศึกษาด้วยตนเอง เข้าอบรมคอร์สเตรียมคลอด หรือสอบถามข้อมูลจากแพทย์

2. ทำจิตใจให้ผ่อนคลาย

เมื่อคุณแม่รู้สึกกลัวความเจ็บปวด อาจทำให้เกิดความเครียดและส่งผลให้ความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นได้ ซึ่งมีหลายวิธีที่ช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เช่น หายใจเข้าลึก ๆ เปิดเพลงฟัง หรือใช้น้ำมันหอมระเหยช่วยผ่อนคลาย

3. ควบคุมลมหายใจ

การควบคุมลมหายใจเป็นอีกวิธีหนึ่งที่อาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดในระหว่างคลอดได้ ซึ่งอาจใช้เทคนิคเดียวกับการควบคุมจังหวะการหายใจขณะออกกำลังกายหรือขณะควบคุมความเครียด โดยให้เลือกวิธีที่เหมาะกับตนเองที่สุด เช่น หายใจเข้าลึก ๆ อย่างช้า ๆ ให้ลมหายใจออกมาจากกระบังลม

4. ขยับร่างกาย

การเดินไปมาหรือโยกตัวช้า ๆ การได้เปลี่ยนอิริยาบถอาจช่วยบรรเทาความเจ็บปวดขณะคลอดได้ อีกทั้งแรงโน้มถ่วงยังอาจช่วยในเรื่องการเคลื่อนไหวและการกลับหัวของเด็กได้อีกด้วย แต่หากไม่สามารถเคลื่อนไหวได้สะดวกเพราะอุปกรณ์บางอย่าง อาจใช้วิธีนั่งข้างเตียงหรือยืนข้างเตียงแทน

5. มีเพื่อนอยู่ข้าง ๆ คณะคลอด

การให้บุคคลใกล้ชิดอย่างสามีหรือคนในครอบครัวอยู่ด้วยในขณะคลอดอาจช่วยลดความกังวลของคุณแม่ได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งคนที่อยู่เคียงข้างจะสามารถให้กำลังใจคุณแม่ ช่วยสื่อสารกับแพทย์ขณะคลอด หรือช่วยเตือนคุณแม่เรื่องการควบคุมลมหายใจได้อีกด้วย อย่างไรก็ตาม ควรสอบถามแพทย์หรือเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ดีก่อนว่าทางโรงพยาบาลอนุญาตให้สามีหรือญาติอยู่ด้วยขณะคลอดหรือไม่ หากอนุญาต ก็ควรปฏิบัติตามกฎของโรงพยาบาลอย่างเคร่งครัดด้วย

6. นวดขณะคลอด

การนวดเป็นวิธีที่ช่วยบรรเทาความเจ็บปวดระหว่างคลอดได้ ปกติแล้วดูลาจะใช้มือนวดบริเวณขมับ มือ ช่วงล่างของแผ่นหลัง หรือบริเวณเท้า นอกจากการนวดจะช่วยบรรเทาความเจ็บปวดแล้ว ยังช่วยให้คุณแม่รู้สึกผ่อนคลายจากความเครียดด้วยเช่นกัน

7. ใช้ยาช่วยบรรเทาความเจ็บปวด

ก่อนคลอด คุณแม่ควรปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการใช้ยาเพื่อช่วยบรรเทาความเจ็บปวดขณะคลอด เพราะยาแต่ละชนิดมีวิธีใช้ สรรพคุณ และผลข้างเคียงที่แตกต่างกัน การใช้ยาเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดขณะคลอดจึงควรอยู่ในความดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด

หากต้องการบล็อคหลัง ควรปรึกษาแพทย์ก่อนทำการคลอด

การให้ยาบรรเทาปวดและการบล็อคหลัง

ผู้หญิงบางคนอาจรู้สึกผิดถ้าเลือกใช้ยาบรรเทาอาการปวดจากการคลอด ราวกับว่าพวกเธอมีส่วนทำให้ทารกตกอยู่ในภาวะเสี่ยง ในความเป็นจริงแล้วการใช้ยาบรรเทาปวดระหว่างคลอดและการบล็อคหลังเป็นสิ่งที่ปลอดภัย นายแพทย์วิลเลียม แคมแมน ผู้อำนวยการแผนกระงับความรู้สึกในผู้ป่วยสูติกรรมแห่งโรงพยาบาลสตรีในบอสตันกล่าว

“มีข้อมูลที่ผิดเพี้ยนมากมาย ความเสียงและภาวะแทรกซ้อนถูกพูดถึงมากเกินไป และผู้หญิงต้องทนทรมานโดยไม่จำเป็นเลย” แคมแมนกล่าว

ยิ่งไปกว่านั้นประโยชน์ของการแก้ปวดอาจอยู่ได้นานหลังจากทารกเกิด ตามข้อมูลของนายแพทย์กิลเบิร์ต แกรนท์ ผู้อำนวยการแผนกระงับความรู้สึกในผู้ป่วยสูติกรรมแห่ง New York University Langone Medical Center มีความเชื่อมโยงระหว่างความเจ็บปวดการคลอดบุตรที่ไม่ได้รับการบรรเทาและอาการซึมเศร้าหลังคลอด ภาวะผิดปกติทางจิตใจจากเหตุการณ์รุนแรง และอาการปวดเรื้อรัง

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th