Site icon Motherhood.co.th Blog

5 เหตุผลว่าทำไมเด็ก ๆ ถึง “เกลียดเลข”

ทำไมลูกเกลียดเลข

5 เหตุผลที่เด็ก ๆ เกลียดวิชาคณิตศาสตร์ซะเหลือเกิน

5 เหตุผลว่าทำไมเด็ก ๆ ถึง “เกลียดเลข”

อย่าว่าแต่เด็กวัยเรียนหลายคนที่ “เกลียดเลข” เมื่อพูดถึงวิชานี้ขึ้นมาทีไร ก็ทำเอาผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ บางคนแอบเบ้ปากอยู่ในใจเหมือนกัน แต่มันมีเหตุผลอะไรกันที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความเกลียด ความขยาดต่อวิชานี้กันนะ Motherhood ไปหาคำตอบมาให้คุณแล้วค่ะ เพื่อที่คุณจะได้มีทางออกเวลาที่เห็นลูกทำการบ้านเลขทั้งน้ำตา

ทำไมเด็ก ๆ เกลียดเลข และพ่อแม่จะช่วยเปลี่ยนมันได้อย่างไร ?

1. คณิตศาสตร์ไม่ใช่เรื่องอัตโนมัติ

การเรียนรู้แบบท่องจำไม่ได้รับความนิยมในโรงเรียนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่การไม่รู้ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตัวเลขสำคัญ ๆ เช่น ตารางสูตรคุณ อย่างขึ้นใจเป็นสาเหตุหนึ่งที่เด็ก ๆ ต้องดิ้นรนกับวิชาคณิตศาสตร์

ผู้คนมักโต้แย้งว่ามันล้าสมัยและไม่ได้ช่วยให้เด็ก ๆ เข้าใจว่าตัวเลขทำงานอย่างไร แต่นั่นไม่เป็นความจริง การฝึกฝนทำให้สมบูรณ์แบบ และเด็ก ๆ ที่เรียนรู้จากการท่องจำและจำตัวเลขสำคัญ ๆ ได้โดยอัตโนมัติจะเป็นเด็กที่ชื่นชอบวิชาคณิตศาสตร์

พ่อแม่ทำอะไรได้บ้าง: กลับไปสู่พื้นฐานและช่วยให้ลูกของคุณเรียนรู้ตารางสูตรคูณอย่างขึ้นใจ เราไม่ได้หมายถึงการใช้เวลาหลายชั่วโมงในการท่องมันซ้ำแล้วซ้ำเล่า มีแอป เกม เพลง หนังสือ และแบบฝึกหัดแบบโต้ตอบมากมายที่ทำให้การเรียนรู้แบบท่องจำกลายเป็นเรื่องสนุก

มีตัวช่วยมากมายที่จะทำให้เด็กมองคณิตศาสตร์สนุกขึ้นได้

2. การบ้านเลขมันน่าเบื่อ

มีเด็กไม่กี่คนที่ชอบการบ้าน แต่การเรียนรู้ที่บ้านเป็นสิ่งสำคัญหากเด็ก ๆ ต้องการที่จะมีความมั่นใจและเชี่ยวชาญในวิชาคณิตศาสตร์ ตามหลักการแล้ว การบ้านควรทำต่อจากสิ่งที่เด็ก ๆ กำลังเรียนรู้ในชั้นเรียน เมื่อพวกเขารู้สึกว่าการบ้านของพวกเขาทำให้พวกเขามีความรู้มากขึ้น มันก็เพิ่มขีดความสามารถให้กับพวกเขาเอง

พ่อแม่ทำอะไรได้บ้าง: ในฐานะผู้ปกครอง คุณไม่ต้องพูดอะไรมากเกี่ยวกับการบ้านที่ครูกำหนดมาให้ แต่มีวิธีสร้างสิ่งที่ทำให้ลูกเรียนรู้และทำให้สนุกมากขึ้น ตัวอย่างเช่น หากได้รับใบงานเรื่องเศษส่วน คุณสามารถใช้แบบฝึกหัดสนุก ๆ ที่ดาวน์โหลดมาได้หรือจากในแอปเพื่อทดสอบความรู้ของพวกเขา หรือฝึกฝนด้วยตัวอย่างในชีวิตจริง เช่น การตัดพิซซ่าเป็นชิ้น ๆ เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นว่ามีการใช้เศษส่วนทุกวันอย่างไร

บอร์ดเกมและเกมไพ่ ปริศนาตัวเลข เช่น ซูโดกุ หนังสือที่สำรวจแนวคิดทางคณิตศาสตร์ที่สำคัญ ล้วนช่วยทำให้ความสนุกกลับคืนสู่ตัวเลขได้

อย่าถ่ายทอดมุมมองที่เป็นลบของคุณต่อวิชานี้ไปสู่ลูก

3. เด็กไม่เข้าใจ

ในชั้นเรียนที่มีเด็กที่แตกต่างกัน 30 คน ทุกคนมีจุดแข็งและจุดอ่อนต่างกัน เด็กบางคนอาจพยายามดิ้นรนเพื่อให้ตามทัน แต่ไม่เต็มใจที่จะพูด หมายความว่าชั้นเรียนดำเนินไปเร็วเกินไป และพวกเขาถูกทิ้งไว้ข้างหลังเพราะพวกเขาไม่เข้าใจ เด็กบางคนหมดความมั่นใจเพราะพวกเขาไม่เข้าใจแนวคิด

พ่อแม่ทำอะไรได้บ้าง: บ่อยครั้ง คุณสามารถระบุช่องว่างในความรู้ของบุตรหลานผ่านการดูการบ้านร่วมกัน หากพวกเขากำลังดิ้นรนกับแนวคิดบางอย่าง เป็นการดีอย่างยิ่งที่จะละทิ้งการบ้านและใช้เวลาครึ่งชั่วโมงทำงานเกี่ยวกับแนวคิดนั้นร่วมกันแทน เขียนโน้ตถึงครูเพื่ออธิบายสิ่งที่คุณได้ทำไปแล้ว ไม่มีใครจะมาคัดค้านในสิ่งที่คุณทำนี้ ถ้ามันจะทำให้พวกเด็ก ๆ เข้าใจได้มากขึ้นและไปต่อกับคนอื่น ๆ ในชั้นเรียนได้

คุณต้องร่วมทำความเข้าใจแนวคิดพื้นฐานไปพร้อมกับลูก

4. คณิตศาสตร์นั้น ‘ยาก’ และ ‘ไม่เจ๋ง’

การไม่ชอบคณิตศาตร์อาจเป็นประเด็นสำคัญสำหรับเด็ก ๆ โดยเฉพาะเด็กผู้หญิง ไม่มีใครอยากให้มันเป็นวิชาโปรดของพวกเขา เหมือนเป็นสเตอริโอไทป์ไปแล้วว่ามันเป็นอะไรที่น่าเบื่อและไม่ค่อยได้ใช้งานในชีวิตจริง ไม่ต้องพูดถึงว่ามันยากเกินไป ในฐานะผู้ใหญ่ เรามักจะเสริมทัศนคติเหล่านี้โดยไม่รู้ตัวโดยแสดงความประหลาดใจหากบุตรหลานของเราบอกว่าพวกเขาชอบวิชาคณิตศาสตร์ และพูดถึงตัวเองว่าเรา ‘ขยะแขยง’ มันมากขนาดไหน

พ่อแม่ทำอะไรได้บ้าง: สิ่งแรกที่ต้องทำคือเปลี่ยนวิธีที่เราพูดถึงคณิตศาสตร์ด้วยตัวเราเอง หยุดพูดว่าคุณ ‘ทำไม่ได้’ และเห็นด้วยกับลูกของคุณว่ามันน่าเบื่อ หากคุณกำลังช่วยทำการบ้านและมีบางอย่างที่คุณไม่แน่ใจ ให้ลองสำรวจแนวคิดกับลูกของคุณและให้ความรู้กับตัวเอง มากกว่าที่จะ ‘ไว้ให้พ่อเขาดูให้แล้วกัน’ หรือผลักปัญหาไปที่โรงเรียนกวดวิชา

สิ่งสำคัญคือต้องชี้ให้เห็นถึงศักยภาพของคณิตศาสตร์ มันอาจไม่ใช่เรื่องที่น่าสนใจสำหรับพวกเขา แต่มีโอกาสมากมายที่มาจากความเข้าใจในวิชาคณิตศาสตร์ เป็นเรื่องยากสำหรับบุตรหลานของคุณที่จะมองข้ามเรื่องคณิตศาสตร์น่าเบื่อและไม่เกี่ยวข้องกับตัวเอง หากพวกเขาชื่นชมมัน ประตูก็จะเปิดไปสู่อาชีพการงานในอนาคต ตั้งแต่การพัฒนาวิดีโอเกมไปจนถึงการออกแบบแฟชั่น

พูดให้ลูกเข้าใจว่าคณิตศาสตร์จะเปิดประตูสู่ความสำเร็จอื่น ๆ อีกมากมาย

5. คณิตศาสตร์ดูเหมือนจะใช้ไม่ได้กับชีวิตจริง

บางวิชาเกี่ยวข้องกับชีวิตประจำวันได้ง่าย แต่เด็ก ๆ มักมองว่าคณิตศาสตร์เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในห้องเรียนล้วน ๆ การทำเช่นนี้อาจทำให้ดูเหมือนเป็นการออกกำลังกายที่ซ้ำซากจำเจและไร้จุดหมาย และเป็นสิ่งที่พวกเขาสามารถลืมได้ทันทีที่เสียงออดของโรงเรียนดังขึ้น

ถ้าลูกของคุณเข้าใจว่าคณิตศาสตร์ประยุกต์ใช้กับชีวิตจริงได้อย่างไร พวกเขาจะเลิกมองว่ามันเป็นวิชาที่ไร้ประโยชน์ ไม่ว่าจะชอบหรือไม่ก็ตาม ตัวเลขมีอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเราต้องใช้คณิตศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ในทุก ๆ อย่าง ตั้งแต่การช็อปปิ้ง การวางแผนการเดินทาง ไปจนถึงการหาว่าคุณต้องใช้เวลานานแค่ไหนที่จะเตรียมตัวให้พร้อมก่อนไปโรงเรียน

พ่อแม่ทำอะไรได้บ้าง: มีโอกาสมากมายที่จะแสดงให้ลูกของคุณเห็นว่าตัวเลขเกี่ยวข้องกับชีวิตจริงอย่างไร การใช้ตัวอย่างในชีวิตประจำวัน เช่น หาวิธีวางกระป๋องในตู้ในครัวหรือเวลาที่คุณขับรถไปบ้านเพื่อน ช่วยนำคณิตศาสตร์เข้ามาในบริบทประจำวัน และแสดงให้พวกเขาเห็นว่ามันมีความสำคัญในชีวิตของเราเพียงใด

เพื่อให้เด็ก ๆ อินกับมันขึ้นมาได้จริง ให้ใช้ความสนใจของบุตรหลานของคุณ ตัวอย่างเช่น หากพวกเขารักฟุตบอล แสดงวิธีคำนวณสถิติ เช่น คะแนนที่ทีมต้องการสำหรับการเลื่อนตำแหน่ง หรือหากพวกเขาหลงใหลในการทำขนม ใช้การทำเค้กเพื่อสำรวจแนวคิดทางคณิตศาสตร์ เช่น การชั่งน้ำหนัก การวัด และการคำนวณเวลาทำอาหาร

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th