Site icon Motherhood.co.th Blog

ปิดเทอมนี้ “เที่ยวเมืองรอง” สัมผัสมุมมองแปลกใหม่

ปิดเทอมนี้พาลูกเที่ยวเมืองลอง แล้วจะพบกับมุมมองแปลกใหม่

ปิดเทอมนี้ “เที่ยวเมืองรอง” สัมผัสมุมมองแปลกใหม่

สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่มีแผนจะพาลูกเที่ยวไทยในช่วงปิดเทอมนี้ อยากให้ลองมองการ “เที่ยวเมืองรอง” ดูบ้าง ซึ่งเมืองรองที่อยู่ในลิสท์รายชื่อของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยเขาโปรโมทกันก็มีถึง 55 เมืองเลยค่ะ แต่เราจะคัดมาเฉพาะเมืองที่มีกิจกรรมเด็ดๆ เหมาะสมกับการพาเจ้าตัวเล็กไปเปิดหูเปิดตานะคะ

ทำไมต้องเที่ยวเมืองรอง?

สถานที่ท่องเที่ยวตามเมืองยอดฮิตที่มักเป็นตัวเลือกแรกๆของใครหลายคน ปริมาณคนก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆทุกปีตามความนิยม การเลือกไปเที่ยวเมืองยอดนิยมเหล่านี้อาจทำให้หมดสนุก วันหยุดที่ควรจะเป็นวันพักผ่อนสบายๆอาจจะต้องเหนื่อยขึ้นเท่าตัว เพราะต้องเผชิญกับผู้คนเยอะไม่แพ้ในเมือง หากพาไปเที่ยวตรงกับช่วงปิดเทอมหรือวันหยุดยาวก็จะเกิดการแย่งกินแย่งใช้ ไหนจะนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติอีก กลายเป็นว่าทุกคนแย่งกันกิน แย่งกันเที่ยว อออยู่ตามสนามบิน กระจุกตัวตามเส้นทางไปยังสถานที่ยอดนิยม ทางออกของปัญหานี้คือ การไปเที่ยวเมืองเงียบๆ ที่ผู้คนยังไม่พลุกพล่าน ซึ่งก็คือเมืองรองนั่นเอง พอดีกันกับที่การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยกำลังส่งเสริมการเที่ยวเมืองรองอยู่ในช่วงนี้ เมืองรองที่ว่ามีถึง 55 จังหวัด คิดเป็น 3 ใน 4 ของจำนวนจังหวัดทั้งหมดในประเทศไทยเลยทีเดียว

การมาเที่ยวชุมชนในเมืองรองนั้นดีหลายอย่าง นอกจากทั้งครอบครัวจะได้กินของอร่อยที่ชาวบ้านปรุงเสร็จใหม่ๆแล้ว เด็กๆยังได้เห็นวิถีการใช้ชีวิตของคนพื้นที่อีกด้วย เป็นการเรียนรู้ที่เข้าถึงชีวิตจริงของคนพื้นที่

01 นครยายก – ภูกะเหรี่ยง

Image: ภูกะเหรี่ยง

ภูกะเหรี่ยงเป็นแหล่งท่องเที่ยววิถีธรรมชาติที่อิงหลักเศรษฐกิจพอเพียง ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านคีรีวัน ต.ศรีนาวา จ.นครนายก ขับรถไม่ถึงสองชั่วโมงจากกทม. ก็จะได้เห็นนาข้าวเขียวขจีเต็มท้องทุ่งและบรรยากาศสุดร่มรื่น บนพื้นที่โครงการ 60 ไร่เศษแห่งนี้ มีลักษณะเป็นไร่นาสวนผสม แบ่งเป็นที่นา 50 ไร่ และสวนผลไม้ 10 ไร่ รวมถึงมี บ่อปลา บ่อน้ำกินน้ำใช้ กังหันวิดน้ำ เลี้ยงเป็ด เลี้ยงไก่ จัดเป็นพิพิธภัณฑ์การทำนาพื้นบ้านให้ศึกษาเรียนรู้ พาครอบครัวออกไปสูดอากาศสดชื่นแบบไม่ไกลกทม.ได้สบายๆ กับชีวิตสโลว์ไลฟ์บนสะพานไม้ไผ่ธรรมชาติ “พราวภูฟ้า” ที่ทอดยาวไปตามท้องนา เด็กๆสามารถเดินเล่นได้ริมคันนา และสามารถกางเต็นท์พักได้ในสวน ขอบอกเลยว่าวิวทุ่งนานั้นสวยมาก หากคุณพ่อคนไหนเป็นสายกล้องแล้วละก็ รับรองว่าต้องถูกใจแน่ๆ

หลังจากฟินกับการถ่ายภาพกับสะพานไม้ไผ่และวิวสวยๆแล้ว ที่นี่ยังมีพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านรัตนจัน ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ขนาดเล็กไว้เก็บสะสมข้าวของเครื่องใช้ในอดีตของบรรพบุรุษ 4 สกุล คือ จันลา รัตนสุวรรณ ฉัตรสุวรรณ และฉัตรปาโล ข้าวของเหล่านี้ล้วนเป็นเครื่องมือทำมาหากินของอาชีพเกษตรกร ช่างไม้ และแพทย์แผนโบราณ จัดแสดงไว้เป็นสัดส่วนบนชั้นสองของบ้านไม้เรือนไทย

Image: ภูกะเหรี่ยง

กิจกรรมก็มีให้ทำหลากหลาย ทั้งสีข้าว ห่อไข่เค็ม ทำขนมข้าวยาคู หรือจะไปให้นมแพะ ให้อาหารปลาก็ได้ นอกจากนี้เขายังมีผัก ผลไม้ พันธุ์ไม้ และสินค้าเกษตรแปรรูป ไว้เอาใจคุณแม่นักช็อปด้วย ภูกะเหรี่ยงเปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชมทุกวันเสาร์และอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา 8.00 ถึง 17.00 น. เสียค่าเข้าชม 49 บาท แลกกับเครื่องดื่มฟรี 1 แก้ว หรือจะแลกขนม อาหารปลา นมสำหรับป้อนแพะ ก็ได้เหมือนกัน

02 ตราด – หาดทรายดำ

Image: หาดทรายดำหนึ่งเดียวในสยาม

หาดทรายดำ ตั้งอยู่ที่หมู่บ้านบ้านกลาง ตำบลแหลมงอบ อำเภอแหลมงอบ จังหวัดตราด อยู่ในพื้นที่ของป่ามะขาม ซึ่งเป็นป่าสงวน แห่งชาติ หาดทรายดำอยู่ปะปนกับต้นไม้ของป่าชายเลนและเหล่าสัตว์น้อยใหญ่มากมายไม่ว่าจะเป็น นก ปูแสม หอยต่างๆ พื้นที่ตรงนี้มีความอุดมสมบูรณ์และความหลากหลายทางชีวภาพสูง เพราะมีลักษณะเป็นสันทรายทอดยาวกว่า 1 กิโลเมตร ตลอดแนวเต็มไปด้วยเม็ดทรายสีดำละเอียด ถือเป็นความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ และพบได้เพียง 5 แห่งทั่วโลกเท่านั้น คือที่ ไต้หวัน มาเลเซีย-เกาะลังกาวี ฮาวาย ทางตอนเหนือของรัฐแคลิฟอร์เนีย และจังหวัดตราด

ป่าชายเลนที่หาดทรายดำจัดว่าเป็นป่าชายเลนที่อุดมสมบูรณ์แห่งหนึ่งในภาคตะวันออก ซึ่งปัจจุบันทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กระทรวงทรัพยาการธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวศึกษาธรรมชาติระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ไปจนถึงยังพื้นที่หาดทรายดำ มีสถานที่ที่น่าสนใจเช่น จุดชมหอยขี้ค้อน รูปทรงแหลมเป็นกรวยคล้ายเจดีย์ จุดชมปลาตีนตัวใหญ่ จุดชมปูแสมที่มีทั้งพันธุ์สีดำกับพันธุ์สีแดง จุดชมปูก้ามดาบ จุดชมหิ่งห้อยในยามค่ำคืน จุดดูนกป่าชายเลนและนกประจำถิ่น เช่น เหยี่ยว นกพญาปากกว้าง เด็กๆจะได้เรียนรู้ระบบนิเวศน์ป่าชายเลนได้อย่างเต็มที่จากที่นี่แน่นอน

Image: หาดทรายดำหนี่งเดียวในสยาม

ศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลนมีกิจกรรมเดินชมธรรมชาติป่าชายเลน เปิดให้ชมเวลา 8.30-16.30 น. หรือศูนย์การท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติหาดทรายดำและป่าชายเลน โทร. 039-510-841, 039-510-962, 080-574-5544 ก่อนเดินทางมาที่นี่ควรโทรสอบถามการขึ้นลงของน้ำทะเลก่อนเดินทาง

03 พะเยา – อุทยานแห่งชาติดอยภูนาง

Image: UnseenThailand

อุทยานแห่งชาติดอยภูนางตั้งอยู่ในพื้นที่หลายอำเภอของจังหวัดพะเยา ได้แก่ อำเภอดอกคำใต้ อำเภอปง และอำเภอเชียงม่วน แต่ที่ทำการอุทยานแห่งชาติดอยภูนางตั้งอยู่ในอำเภอเชียงม่วน สถานที่ที่น่าสนใจในเขตอุทยานแห่งชาติดอยภูนางนี้มีให้ท่องเที่ยวหลายแห่ง ไม่ว่าจะเป็นถ้ำใหญ่ผาตั้ง น้ำตกธารสวรรค์ น้ำตกนาบัว น้ำตกห้วยต้นผึ้ง และฝั่งต้า แต่จุดที่นิยมมากที่สุดคือน้ำตกธารสวรรค์ ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งของที่ทำการอุทยานฯนั่นเอง

Image: ThailandTourismDirectory

น้ำตกธารสวรรค์มีชื่อเรียกอีกอย่างว่าน้ำตกบ่อเบี้ย ตั้งอยู่ในเขตติดต่อกับบ้านบ่อเบี้ย ตำบลบ้านยาง อำเภอเชียงม่วน เป็นน้ำตกที่ขึ้นชื่อที่สุดของอุทยานแห่งชาตินี้ น้ำตกธารสวรรค์เป็นน้ำตกที่มี 4 ชั้น น้ำใสสะอาดและเย็นสดชื่น จึงมีนักท่องเที่ยวมาเยือนไม่ขาดสาย น้ำตกชั้นบนสุดเป็นผาน้ำตกขนาดกว้างใหญ่ ที่มีความสูงประมาณ 8 เมตร ซึ่งในบริเวณรอบๆก็มีลานให้นั่งพักผ่อน และสามารถลงเล่นน้ำได้ด้วย เด็กๆจะได้เล่นน้ำสวยใสกันอย่างเพลิดเพลิน

04 สกลนคร – ย่านชุมชนโบราณท่าแร่

Image: แห่ดาวคริสต์มาส บ้านท่าแร่

บ้านท่าแร่ คือชุมชนคริสต์ที่ใหญ่ที่สุดของภาคอีสาน ตั้งอยู่ริมหนองหาร ชาวบ้านส่วนใหญ่คือชาวเวียดนามอพยพ ที่นำเอาศิลปกรรมและสถาปัตยกรรมชุมชนที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมฝรั่งเศสมาด้วย สังเกตได้จากอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล รวมถึงอาคารเก่าแก่ที่ยังคงไว้ซึ่งศิลปกรรมในยุคคริสตังรุ่งเรือง ที่กระจัดกระจายอยู่ในย่านหมู่บ้านอีกด้วย และในช่วงวันคริสมาสต์ที่โบสถ์แห่งนี้จะมีเทศกาลแห่ดาวหนึ่งเดียวในประเทศไทย ถ้าคุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกๆไปเยือนได้ในช่วงฉลองคริสต์มาสก็จะยิ่งดี เพราะจะได้เห็นขบวนแห่ของคริสตศาสนิกชนที่น่าตื่นตาตื่นใจทีเดียว

Image: Iotopsakon

คฤหาสน์ “อุดมเดชวัฒน์” หรือที่คนท้องถิ่นเรียกขานกันว่าบ้านเศรษฐี เป็นบ้านร้างที่ยังมีร่องรอยของความสวยงามในอดีต แม้ว่าวันนี้บ้านจะถูกปิดตายแล้วก็ตาม แต่ยังสามารถเดินเล่นถ่ายรูปได้ ที่นี่จึงกลายเป็นโลเคชั่นที่หลายคนแวะมาถ่ายภาพอาร์ตๆกันอยู่ตลอด ถัดไปไม่ไกลจากคฤหาสน์มีวัดร้าง ที่เล่าสืบกันมาว่าเคยเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาในอดีต แม้ว่าปัจจุบันจะผุพังจนเหลือแค่โครงสร้าง แต่ชาวบ้านก็ยังอนุรักษ์ไว้อย่างดี

05 ยะลา – ทะเลหมอก อัยเยอร์เวง

Image: ทะเลหมอก อัยเยอร์เวง เบตง

ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง อยู่ในอำเภอเบตง จังหวัดยะลา ในเขตพื้นที่ของเขาไมโครเวฟ กิโลเมตรที่ 32 มีความสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,038 ฟุต ที่นี่จัดว่าเป็นทะเลหมอกที่สวยมากแห่งหนึ่งของภาคใต้และสวยติดอันดับต้นๆของเมืองไทย เปิดให้นักท่องเที่ยวได้ชมทะเลหมอกแบบหนาๆตั้งแต่ช่วงเช้ามืดได้อย่างสวยงาม และจุดชมวิวไฮไลท์ของที่นี่อีกหนึ่งแห่งคือ บริเวณยอดเขาฆูนุงซีลีปัต ที่ต้องเดินป่าขึ้นไปบนยอดเขาเพื่อชมทะเลหมอกในมุมมองกว้าง 360 องศา

สามารถมองเห็นทะเลหมอกได้อย่างสวยงาม เด็กๆจะได้เห็นหมอกที่จับตัวกันเป็นชั้นหนา สอยเต็มผืนฝ้า ที่สำคัญสามารถมองเห็นได้ตลอดทั้งปี และได้มีการพัฒนาพื้นที่จุดชมวิวทะเลหมอก ด้วยการสร้างอาคารหอชมวิว พร้อมปรับปรุงภูมิทัศน์ให้สวยงาม มีจุดถ่ายภาพชมวิวที่หลากหลาย

Image: ทะเลหมอก อัยเยอร์เวง เบตง

ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการเดินทางขึ้นไปชมทะเลหมอกนั้น ควรเดินทางขึ้นไปตั้งแต่เช้าตรู่ก่อนพระอาทิตย์ขึ้น ใช้เวลาเดินทางจากตัวเมืองเบตงประมาณ 40 นาที สามารถขับรถบนถนนลาดยางขึ้นไปถึงจุดชมหมอกได้เลย และหลังจากพระอาทิตย์ขึ้นไม่เกิน 9 โมงเช้าทะเลหมอกก็จะค่อยๆจางหายไป เหลือไว้แต่เพียงผืนป่าอันอุดมสมบูรณ์ขนาดใหญ่

เต็มอิ่มกับสถานที่เที่ยวเด็ดๆในเมืองรองกันหรือยังคะ Motherhood คัดมาจากทุกภาคเลย เหนือ ใต้ ออก ตก และภาคกลาง ปิดเทอมทั้งที ลองเที่ยวเมืองไทย เมืองรองที่ยังไม่ฮิตมากดูก็ดีนะคะ รับรองว่ามีอะไรให้เจ้าตัวเล็กตื่นตาตื่นใจเพียบแน่นอนค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th