Site icon Motherhood.co.th Blog

เพลงสำหรับคนท้อง ให้ลูกในท้องฟังเพลงดีอย่างไร

เพลงสำหรับคนท้อง

การฟังเพลงเพื่อกระตุ้นพัฒนาการเด็กในครรภ์ทำแล้วได้ผลจริงหรือ

เพลงสำหรับคนท้อง ให้ลูกในท้องฟังเพลงดีอย่างไร

คุณพ่อคุณแม่หลายคนคงจะเคยได้ยินเรื่องการให้ลูกฟังเพลงตั้งแต่ยังอยู่ในท้องกันมาบ้างใช่ไหมคะ เห็นเขาบอกกันว่า “เพลงสำหรับคนท้อง” ถ้าได้เปิดให้เด็กในครรภ์ฟังแล้วเนี่ย จะสามารถช่วยเสริมสร้างพัฒนาการให้ลูกได้ตั้งแต่เขายังอยู่ในครรภ์มารดา ความจริงการทดลองทำดูก็ไม่มีอะไรเสียหาย การให้ลูกน้องท้องฟังเพลงก็เป็นสิ่งที่สามารถทำได้เองง่ายๆอยู่ในแล้วยุคสมัยนี้ ขอแค่มีโทรศัพท์สมาร์ทโฟน มีหูฟัง ก็สามารถเปิดเพลงให้เด็กในครรภ์ฟังได้ไม่ยาก แต่ในความเป็นจริงแล้วการทำเช่นนี้จะสามารถส่งผลให้เกิดพัฒนาการที่ดีของเด็กได้จริงหรือเปล่า เสียงเพลงจะทะลุท้องของแม่เข้าไปกระตุ้นพัฒนาการให้เด็กในนั้นได้อย่างไร หากอยากรู้ให้ชัดๆ ต้องติดตามอ่านบทความในตอนนี้ค่ะ

การฟังเพลงตอนท้องประโยชน์เบื้องต้นจะทำให้คุณแม่ผ่อนคลาย

การฟังเพลงสำหรับแม่ตั้งครรภ์มีมาตั้งแต่เมื่อไหร่?

การฟังเพลงสำหรับคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์เป็นที่นิยมมาค่อนข้างนานพอสมควร เพราะความเชื่อที่ว่าการฟังเพลงตอนท้อง นอกจากช่วยให้คุณแม่ได้ผ่อนคลายแล้ว ก็ยังจะส่งผลให้ทารกในครรภ์เป็นเด็กที่อารมณ์ดีไปด้วย หากแต่ระบบประสาทการรับฟังของทารกในครรภ์จะเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่อายุครรภ์ 22 สัปดาห์ หรือ 4 เดือนเป็นต้นไป เสียงทุกอย่างที่คุณแม่ได้ยินจะถูกนำไปใช้เป็นเสียงกระตุ้นในการสร้างใยประสาทเกี่ยวกับการได้ยินของทารกในครรภ์

ดังนั้นหากคุณแม่ฟังเพลงตอนท้อง แม้ว่าเด็กในครรภ์จะยังไม่สามารถแยกเสียงเพลงได้มากนัก แต่ก็สามารถช่วยเรื่องการกระตุ้นประสาทการได้ยินของลูกได้ ซึ่งคุณแม่อาจทำได้โดยการเปิดเพลงเบาๆ ไม่ต้องให้ใกล้กับท้องมากนัก

เสียงเพลงช่วยกระตุ้นทารกในครรภ์ได้อย่างไร?

การใช้เสียงกระตุ้นจะทำให้การได้ยินของทารกในครรภ์มีพัฒนาการดีขึ้น ช่วงเวลาที่เหมาะในการฟังเพลงควรจะเป็นช่วงหลังมื้ออาหาร เพราะเป็นช่วงเวลาที่ลูกตื่นตัวมากที่สุด คุณแม่ควรเปิดเสียงเพลงให้อยู่ห่างจากหน้าท้องประมาณ 1 ฟุต และเปิดเสียงดังพอประมาณเพื่อลูกในท้องจะได้ฟังเสียงเพลงไปด้วย คลื่นเสียงจะไปกระตุ้นให้ระบบประสาทที่เกี่ยวข้องกับการได้ยิน ทำให้มีการพัฒนาระบบการทำงานได้ดีและเร็วขึ้น เมื่อลูกคลอดออกมาจะมีความสามารถในการจัดลำดับความคิดในสมอง รู้สึกผ่อนคลาย และจดจำสิ่งต่างๆได้ดี

หลายคนอาจสงสัยว่าจำเป็นต้องฟังเฉพาะเพลงคลาสสิคเท่านั้นหรือไม่

ฟังเพลงคลาสสิคตอนท้อง ช่วยให้ลูกฉลาดจริงหรือ?

ความคิดที่ว่าการให้คุณแม่ตั้งท้องฟังเพลงคลาสสิคอย่างเพลงของโมสาร์ท แล้วจะช่วยให้ลูกในครรภ์ฉลาด มีไอคิวและอีคิวที่ดี เกิดมาจากการทำวิจัยเกี่ยวกับ Mozart effect ของนักวิจัยต่างประเทศ เมื่อปี 1993 โดยพวกเขาได้ทำการวิจัยโดยให้นักศึกษามหาวิทยาลัยฟังเพลงโมสาร์ทโซนาต้าเป็นเวลา 10 นาที แล้วไปทำแบบทดสอบ ปรากฏว่ากลุ่มนักศึกษาทำแบบทดสอบได้คะแนนดีมาก

หลังจากนั้นก็มีการทำการวิจัยซ้ำ โดยใช้วิธีการเดิม ใช้แบบทดสอบเดิม เพียงแต่เปลี่ยนให้ไปทดสอบในส่วนที่เป็นการวิเคราะห์แทนซึ่งก็ได้ผลดีเช่นเดียวกัน เพราะผลการวิจัยชิ้นนี้เองที่ทำให้เกิดกระแสเพลงโมสาร์ทโซนาต้าโด่งดังไปทั่ว จึงเกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง

จากนั้นได้มีการนำผลการวิจัยไปเชื่อมโยงกับความเป็นไปได้ของการพัฒนาทางสมองของเด็ก โดยเชื่อว่า ถ้าได้ฟังเพลงโมสาร์ทตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ของแม่ ลูกที่เกิดมาจะมีพัฒนาการทางสมองดีกว่าเด็กคนอื่นๆ แต่ในปีต่อๆมา นักวิจัยได้มีการทำวิจัยซ้ำที่เกี่ยวกับ Mozart effect กับการเรียนรู้ของเด็ก ซึ่งกลับได้ผลในทางตรงกันข้าม หลายๆงานวิจัยแสดงความล้มเหลวของงานวิจัยดั้งเดิม ทำเห็นว่าผลที่ได้ไม่สามารถใช้ได้จริงๆ เด็กที่ฟังโมสาร์ทไม่ได้มีพัฒนาการทางสมองที่แตกต่างจากเด็กทั่วไป

หลังจากงานวิจัยพบว่า การฟังเพลงโมสาร์ทไม่ได้มีผลกับทารกในครรภ์ ก็อาจเป็นไปได้ว่า Mozart effect ที่เคยได้ผลครั้งแรกนั้น จริงๆแล้วอาจจะเป็นแค่ความบังเอิญ และงานวิจัยดั้งเดิมนั้นก็ไม่ได้มีความต้องการจะเชื่อมโยงผลกับการพัฒนาสมรรถภาพทางสมองของเด็กตั้งแต่แรกด้วยซ้ำ

ดังนั้น เราจึงสรุปได้ว่า การที่คุณแม่ได้ฟังเพลงคลาสสิคต่างๆในระหว่างตั้งครรภ์ หรือเจาะจงไปว่าเป็นเพลงจากโมสาร์ทนั้น ยังไม่มีการรับรองที่แน่ชัดว่าจะสามารถทำให้ลูกฉลาดได้อย่างแน่นอน แต่อย่างน้อยการฟังเพลงในช่วงตั้งครรภ์ก็ช่วยให้คุณแม่ท้องเกิดความผ่อนคลายและลดความเครียดได้

ไม่ควรนำหูฟังไปจ่อใกล้ท้องจนเกินไป ควรมีระยะห่าง 1 ฟุต

ควรฟังเพลงตอนตั้งครรภ์อย่างไร?

กับความเข้าใจที่ว่าฟังเพลงคลาสสิกแล้วจะทำให้ลูกฉลาด ต้องเปลี่ยนความคิดเสียใหม่นะคะ เพราะเพลงคลาสสิกไม่ได้ช่วยให้ลูกฉลาดตั้งแต่ในท้อง ความฉลาดของเด็กนั้นมีปัจจัยหลักมาจากพันธุกรรมของพ่อแม่ สภาพแวดล้อมในการเรียนรู้ การส่งเสริม และอาหาร หากแต่การให้ทารกในครรภ์ฟังเพลงจะเป็นการทำให้ลูกผ่อนคลาย ช่วยกระตุ้นพัฒนาการทางการได้ยินของลูก และพัฒนาการทางร่างกายตั้งแต่ในท้อง ด้วยการขยับตัวและดิ้นไปตามจังหวะเพลงที่เขาได้ยิน ซึ่งเมื่อคลอดออกมา เขาจะมีความพร้อมทั้งทางร่างกายและอารมณ์ที่จะเรียนรู้สิ่งต่างๆ รอบตัวด้วยความคล่องแคล่ว คล่องตัว และอารมณ์ดีค่ะ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th