เลี้ยงลูกให้พึ่งตัวเอง ตามวิถีชาวเยอรมัน
พ่อแม่สมัยใหม่หลายบ้านเริ่มมีค่านิยมในการ “เลี้ยงลูกให้พึ่งตัวเอง” กันมากขึ้นนะคะ วันนี้ Motherhood เลยจะพาคุณไปทำความรู้จักกับคุณค่าของวัฒนธรรมเยอรมันในแง่ของการพึ่งพาตนเอง ที่คุณสามารถใช้ปลูกฝังให้กับลูก ๆ ของคุณได้ค่ะ
วัฒนธรรมการพึ่งพาตนเองตั้งแต่วัยเด็กของเยอรมนีนั้น เราจะเห็นได้ชัดโดยเฉพาะเมื่อไปที่สนามเด็กเล่น ซึ่งเด็ก ๆ จะวิ่งเล่นโดยไม่ต้องมีคนดูแล และเหวี่ยงชิงช้าที่มีโครงสร้างที่ทำจากเชือกและโลหะโดยปราศจากการจับตามองของพ่อแม่ผู้ปกครอง ถ้าเป็นทางฝั่งอเมริกา เราอาจเรียกสิ่งนี้ว่าสไตล์การเลี้ยงดูแบบปล่อย (Free-range) แต่ในเยอรมนีถือเป็นการเลี้ยงดูแบบปกติ
ในเบอร์ลิน เด็ก ๆ เดินไปโรงเรียนด้วยตัวเอง ใช้ระบบขนส่งสาธารณะ ตัดอาหารด้วยมีดคม แม้กระทั่งเล่นกับไฟ ทำให้พ่อแม่มือใหม่ที่เพิ่งย้ายจากสหรัฐฯไปอาศัยที่เยอรมนีสงสัยว่า เยอรมนีสามารถเป็นตัวอย่างของวิธีที่เราสามารถทำสิ่งต่าง ๆ ในสหรัฐฯได้หรือไม่ เพราะแม้ว่าคุณจะคิดว่าตัวเองเป็นพ่อแม่ที่ผ่อนคลายมาโดยตลอด แต่การใช้ชีวิตในเบอร์ลินแสดงให้เห็นว่าคุณซึมซับสไตล์การเลี้ยงดูแบบอเมริกันสมัยใหม่มากแค่ไหน
บทเรียนยิ่งใหญ่ที่ได้เรียนรู้
- ที่สถานรับเลี้ยงเด็กและในสนามเด็กเล่นให้เด็ก ๆ ทำตามกฎและสร้างวินัยให้ตัวเอง
ปรัชญาของโรงเรียนอนุบาลคือ เด็ก ๆ เองเป็นคนที่ดีที่สุดในการบังคับใช้กฎของตนเอง และแก้ปัญหาความขัดแย้งของตนเอง พวกเขาเรียนรู้จากกันและกันได้ดีที่สุดว่าพฤติกรรมที่สังคมยอมรับได้คืออะไร
- ใช้เวลานอกบ้าน
คำพูดภาษาเยอรมันว่า “Es gibt kein schlechtes Wetter es gibt nur falsche Kleidung” แปลได้คร่าว ๆ ว่า “ไม่มีอากาศที่เลวร้าย มีแต่เสื้อผ้าที่ไม่เหมาะสมเท่านั้น” ชาวเยอรมันอยู่ข้างนอกเกือบทุกวัน ใช้เวลาอยู่ในสวนสาธารณะต่าง ๆ ทุกวันหยุดสุดสัปดาห์ ในทุกสภาพอากาศ เมื่อกลับไปอเมริกา น่าตกใจและน่าผิดหวังที่แทบจะไม่เห็นเด็ก ๆ ออกไปข้างนอกในวันที่แดดจ้าเลย
- ให้เด็กมีอิสระทางร่างกาย
เด็ก ๆ ชาวเยอรมันใช้จักรยานหัดเดินแบบเสือหมอบ เพื่อเรียนรู้กฎของถนน เพิ่มความมั่นใจ และเคลื่อนไหวโดยไม่ขึ้นกับพ่อแม่ มันอาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ แต่มันช่วยให้เด็ก ๆ รู้สึกมีความสามารถ พวกเขารับรู้ได้ว่าคุณเชื่อใจพวกเขา
- สอนให้เด็กมีส่วนร่วมกับสิ่งที่เป็นอันตราย เช่น ไฟ ด้วยวิธีที่ปลอดภัย
ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยจากอัคคีภัยกล่าวว่า ความหลงใหลในไฟตามธรรมชาติของมนุษย์เรานั้นแข็งแกร่ง ดังนั้น การห้ามไม่ให้เด็ก ๆ ใช้ไฟหมายความว่าพวกเขาจะทำมันอย่างลับ ๆ และหากเด็ก ๆ ไม่มีประสบการณ์กับไม้ขีดไฟ พวกเขาก็ไม่รู้ว่าจะจับหรือเอาออกไปอย่างไร พวกเขาก็เลยทำนิ้วไหม้ ทำไม้ขีดตก หรือทำไฟไหม้อะไรบางอย่างโดยไม่ได้ตั้งใจ
ในทำนองเดียวกันเด็ก ๆ ในเยอรมนียังได้รับการสอนให้จัดการวัตถุอันตรายอื่น ๆ เช่น เครื่องมือและมีด เพื่อให้พวกเขาเข้าใจวิธีการจับถือมันอย่างปลอดภัย
- ให้เด็ก ๆ มีอิสระทางจิตวิญญาณและทางปัญญาด้วย
ในฐานะพ่อแม่เราสามารถใช้พลังมหาศาลเหนือลูก ๆ ของเราได้หากเราต้องการ หากเราใช้อำนาจนั้นในทางที่ผิด เพื่อพยายามบังคับให้พวกเขาคิดในแบบที่เราทำ หรือทำในสิ่งที่เราต้องการอย่างแท้จริง ลูกของเราอาจไม่ให้อภัยเราเมื่อพวกเขาอายุมากขึ้น
เราต้องยอมรับว่าหลายสิ่งที่พวกเขาทำในเยอรมนีเกี่ยวข้องกับสังคมและระบบสนับสนุนทั้งหมด ดูแลสุขภาพ เงินอุดหนุนการดูแลเด็ก การลาคลอดที่ให้เวลามาก สิ่งเหล่านี้ไม่ใช่ระบบที่เรามี แต่ก็ยังพอสิ่งที่อยู่ในการควบคุมของเราในฐานะพ่อแม่ เพราะอย่างน้อยที่สุด เราก็สามารถลดความรู้สึกผิดลงไปได้บ้าง พ่อแม่บางคนรู้สึกละอายใจที่ต้องเอาลูกไปฝากที่สถานรับเลี้ยงเด็ก แต่ถ้าคุณพบระบบของสถานรับเลี้ยงเด็กที่ดีสำหรับบุตรหลานของคุณ นั่นถือเป็นประสบการณ์ที่ดี เพราะพวกเขาเริ่มดูแลตัวเองในโลกโดยไม่มีคุณ และนั่นเป็นสิ่งที่ดี
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th