Site icon Motherhood.co.th Blog

5 ความคิด “โทษตัวเอง” ของคนเป็นแม่

หยุดโทษตัวเอง

เลิกรู้สึกผิดและโทษตัวเองได้แล้ว อย่าให้หน้าที่แม่กดดันคุณขนาดนั้น

5 ความคิด “โทษตัวเอง” ของคนเป็นแม่

“โทษตัวเอง” ไปทำไม? หากคุณแม่ยังมีความรู้สึกผิดอยู่ละก็ บทความของเราวันนี้ จะทำให้คุณได้เรียนรู้วิธีสลัดความรู้สึกผิดที่คนรุ่นพ่อรุ่นแม่ของพวกเราไม่เคยรู้สึกเช่นนั้น และเพื่อคุณจะได้เพลิดเพลินกับความเป็นแม่อย่างเต็มที่เสียที

ในความเป็นแม่ทุกวันนี้ ผู้หญิงหลายคนต้องรับความกดดันอย่างหนัก ในการที่เราจะต้องใช้เวลาส่วนตัวทุ่มเทให้กับลูกของเราตลอดเวลา เราได้รับรู้เรื่องราวของเด็ก ๆ ที่ไม่มีพ่อแม่เฝ้าดูแลโดนของที่ดูเหมือนไม่มีอันตรายอะไรเท่าไหร่อย่างคลิปหนีบกระดาษตำจนเป็นแผล พ่อแม่บางคนก็โดนจับเพียงเพราะว่าปล่อยให้ลูกน้อยออกไปเล่นที่สนามเด็กเล่นข้างนอกเพียงลำพัง รวมทั้งข้อความที่เน้นย้ำอีกมากมายว่าสิ่งสำคัญคือการที่เราได้มีส่วนร่วมกับลูก ๆ ของเราเกือบตลอดทั้งวัน

วัฒนธรรมของการเป็นแม่ในทุกวันนี้นำไปสู่ความรู้สึกผิดของคนเป็นแม่ในแบบที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

งานบ้านก็ต้องทำ ลูกก็ต้องดู แต่อย่ากดดันจนเครียด

บอกลาความรู้สึกผิดเสียที

หยุดโทษตัวเองได้แล้ว เริ่มเลยตอนนี้ ด้วยการแยกแยะสาเหตุที่พบได้บ่อยว่าทำไมคนเป็นแม่ถึงรู้สึกผิด พร้อมทั้งค้นพบเหตุผลที่แท้จริงว่าทำไมเราควรสลัดความรู้สึกผิดเหล่านี้ออกไป

ฉันไม่ได้ใช้เวลากับลูก ๆ ของฉันมากพอ

ไม่สำคัญหรอกว่าคุณเป็นแม่ที่ทำงานนอกบ้านต้องอยู่ห่างจากลูก ๆ ของคุณทั้งวัน หรือเป็นแม่บ้านเต็มเวลา แต่คนเป็นแม่ทุกคนรู้สึกผิด คุณต้องการใช้เวลากับลูก ๆ ของคุณ แต่ชีวิตไม่อนุญาตให้คุณว่างได้มากขนาดนั้น คุณมีภาระที่น่าวุ่นวายรออยู่มากมาย และก็คงจะไม่มีใครทำงานบ้านเหล่านั้นแทนคุณ ดังนั้นคุณจึงสามารถเล่นกับลูก ๆ ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

ข่าวดีก็คือ มีการศึกษาวิจัยที่แสดงให้เห็นว่าคุณภาพของเวลาที่ใช้กับลูกของคุณสำคัญกว่าเวลาที่คุณใช้กับพวกเขา ดังนั้นแทนที่คุณจะมัวกังวลว่าจะต้องใช้เวลากับลูก ๆ ของคุณมากขึ้น เพียงแค่มุ่งเน้นไปที่การทำให้เวลาที่คุณมีร่วมกับลูก ๆ ของคุณเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุดก็พอ

ถึงจะเป็นแม่เหมือนกัน แต่ก็มีวิธีเชื่อมต่อกับลูกคนละแบบ

ฉันไม่ชอบเล่นกับลูก ๆ สักเท่าไหร่

พ่อแม่ทุกคนมีรูปแบบการเข้าถึงเด็ก ๆ ที่ต่างกันออกไป บางคนอาจชอบที่จะแกล้งทำเป็นโง่และเล่นสนุกไปกับลูก ๆ แต่บางคนก็ชอบที่จะสอน จะทำงานประดิษฐ์ หรือทำครัวกับลูก ๆ อย่างสนุกสนาน มันเลยทำให้แม่บางคนเกิดความรู้สึกผิดลึก ๆ ในใจ ในยามที่เห็นพวกเพื่อนมีความขี้เล่นและมีความคิดสร้างสรรค์กับลูก ๆ ของพวกเธอ “ทำไมฉันถึงไม่สามารถสอนลูก ๆ ของฉันให้ทำอาหารอย่างที่เธอทำได้นะ” “ทำไมฉันถึงไม่สนุกกับการกลิ้งไปบนพื้นและแสร้งทำเป็นเด็ก ๆ ได้อย่างเพื่อนตัวเองละ ” พวกเด็ก ๆ ชอบมันมากและคุณเริ่มรู้สึกว่าลูกของคุณได้พลาดสิ่งเหล่านั้นไป

แต่คุณรู้อะไรไหม? เมื่อคุณมองย้อนกลับไป คุณก็ตระหนักได้ว่าคุณเชื่อมโยงกับลูก ๆ ของคุณในวิธีที่แตกต่างออกไป คุณอาจจะชอบเล่นสไลม์กับลูก หรือนั่งต่อเลโก้ด้วยกัน นั่นเป็นเพราะเราทุกคนเชื่อมโยงและแสดงความรักกับลูกในรูปแบบที่แตกต่างกันไป และมันก็โอเค บางทีคุณอาจเป็นครูที่ชอบแนะนำลูก ๆ ของคุณ บางทีคุณอาจจะชอบทำอาหารในครัวกับลูก ๆ ของคุณ หรือแค่นอนกอดกันบนโซฟาแล้วอ่านหนังสือด้วยกัน การใช้เวลาที่มีคุณภาพแบบนี้ต่างหากที่ควรนับ

การเล่นบทบาทสมมุติที่คุณมองว่ามันน่ากระอักกระอ่วนสิ้นดีอาจทำให้คุณอยากหนีไปรีดผ้าที่ห้องซักรีดเสียมากกว่า แต่คุณไม่ต้องเล่นกับลูก ๆ แบบนั้นตลอดเวลาเพื่อแสดงให้ลูก ๆ เห็นว่าคุณแคร์ ไม่ว่ายังไงก็แล้วแต่ คุณเป็นแม่ที่สมบูรณ์แบบสำหรับลูก ๆ ของคุณอยู่แล้ว เลิกพยายามเป็นคนที่คุณไม่ได้เป็นเถอะ กุญแจสำคัญคือการค้นหาสิ่งที่ทั้งคุณและลูกของคุณสนุกไปด้วยกัน และทำสิ่งนั้นให้มากขึ้นเท่านั้นเอง

หากลูกมีปัญหาแล้วช่วยไม่ทัน แม่จะแบกรับการตำหนิของสังคม

ฉันแย่มากเพราะอารมณ์เสียง่าย

มีคนมากกว่า 500 คนต่อปีเข้าร่วมชั้นเรียนการจัดการความโกรธของพ่อแม่ เพราะพวกเขาเบื่อที่จะตะโกนใส่หน้าเด็ก ๆ แล้ว คุณเป็นมนุษย์และส่วนหนึ่งของความเป็นมนุษย์ก็คือการที่เรามีอารมณ์ รวมถึงอารมณ์โกรธของเราด้วย คุณอาจเป็นคนประเภทที่ท่วมท้วนไปด้วยอารมณ์ คุณแบกอารมณ์ทั้งหมดของคุณไว้ในตัวคุณ คุณตะโกนมากกว่า รักลึกซึ้งกว่า ร้องไห้ก็ฟูมฟายกว่า เป็นเพราะคุณรู้สึกถึงอารมณ์ทั้งหมดได้มากกว่า

แต่การวิจัยแสดงให้เห็นว่าเพียงเพราะคุณอารมณ์เสียไม่ได้หมายความว่าคุณกำลังทำร้ายลูก สิ่งสำคัญที่สุดที่ต้องทำคือการขอโทษและเยียวยาหัวใจลูกหลังจากที่คุณตะโกนใส่เขา แม่ทุกคนอารมณ์เสียเป็นครั้งคราวอยู่แล้วและมันก็คือเรื่องปกติ

ฉันเข้มงวด/ละเลยเกินไป

ไม่มีใครเป็นแบบนั้นหรอก เราทุกคนก็ต่างมีวิธีทางของตัวเอง เราพยายามที่จะคิดวิธีการเลี้ยงดูลูก ๆ ของเราอย่างดี หนังสือเกี่ยวการเลี้ยงลูกที่ดีสามารถช่วยคุณได้ แต่อย่าลืมว่าสิ่งที่เด็ก ๆ ต้องการจริง ๆ ยิ่งกว่าสิ่งใดคือความรักที่ไม่มีเงื่อนไข คุณรักลูกของคุณแน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่กำลังอ่านบทความของเราอยู่หรอก คุณพยายามทำสิ่งที่ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และนี่ต่างหากที่สำคัญมาก

งานวิจัยบอกว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เด็กจะต้องมีคือคนที่รักพวกเขาและผลักดันพวกเขาให้ดีขึ้น คงไม่ต้องเดาเลยว่าคุณก็เป็นคนผู้นั้นให้กับลูก ๆ อยู่แล้ว กุญแจสำคัญในการเป็นผู้ปกครองที่ดีคือการพยายามอย่างหนักที่จะเรียนรู้เทคนิคการอบรมเลี้ยงดูใหม่ ๆ เมื่อพวกเขาเติบโตขึ้น และรักลูกของคุณให้มาก ๆ

หากอยากพัก ปล่อยให้เด็ก ๆ นั่งเล่นกันเองบ้างก็ได้

ฉันไม่สามารถใช้เวลาเพื่อตัวเองได้เพราะครอบครัวต้องการฉัน

ไม่ว่าจะเป็นเวลา 5 นาทีในการพักผ่อนและอ่านหนังสือ หรือวันหยุด 5 วัน ที่ปราศจากการรบกวนจากเด็ก ๆ พ่อแม่หลายคนรู้สึกผิดที่ต้องหยุดพัก มันดูเห็นแก่ตัวนะ ที่เราโดนบอกให้ “เก็บเกี่ยวเวลาเอาไว้” “เวลามันผ่านไปเร็วมากนะ”

พ่อแม่จะถูกตำหนิได้ง่ายมาก เพียงมีการละสายตาจากลูกไปแค่หนึ่งวินาที โดยเฉพาะถ้าเด็กคนนั้นกำลังเดือดร้อน สังคมบอกเราว่าเราต้องอยู่กับลูกทุกนาที เพราะถ้าเราไม่อยู่เราจะเป็นคนที่โดนตำหนิถ้ามีอะไรผิดพลาดขึ้นมา แต่เราก็กังวลว่าลูก ๆ ของเราจะอารมณ์เสียหรือผิดหวัง ถ้าเราไม่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้

เราจำเป็นต้องหยุดพักจากความเหน็ดเหนื่อยที่ได้รับจากความเป็นแม่ เราต้องให้วิญญาณของเราพักผ่อนบ้าง เพื่อให้เราสามารถอยู่ได้และเป็นไปอย่างมีความสุขเมื่อเราอยู่กับครอบครัวของเรา

พร้อมที่จะขับไล่ความรู้สึกผิดและการโทษตัวเองแล้วหรือยัง สิ่งที่คุณต้องทำคือ นั่งลงตรงนี้ อ่านหนังสือของคุณไป และลูก ๆ ของคุณจะเล่นด้วยตัวเอง แล้วคุณก็จะได้สนุกกับทุก ๆ วินาทีที่คุณพักอ่านหนังสือ เพราะมีหนังสือดี ๆ ออกมามากมายและคุณก็ต้องการจะอ่านมันทั้งหมด แม้ว่าความรู้สึกผิดจะยังคงอยู่เบื้องหลังบ้าง แต่มันก็เป็นการดีสำหรับเด็ก ๆ ที่จะเล่นด้วยตัวเอง และคุณก็ต้องการการดูแลตัวเองเพื่อที่จะได้เป็นแม่ที่ดีที่สุดที่คุณณสามารถเป็นได้สำหรับลูก ๆ ของคุณ

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th