Site icon Motherhood.co.th Blog

ความแตกต่างของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์บราซิล” พันธุ์แอฟริกาใต้ และพันธุ์อังกฤษ

พบกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์บราซิล

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ทั้งบราซิล แอฟริกาใต้ และอังกฤษ แตกต่างกันยังไง

ความแตกต่างของ “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์บราซิล” พันธุ์แอฟริกาใต้ และพันธุ์อังกฤษ

ท่ามกลางการระบาดของ Covid-19 ที่ยังไม่จบสิ้น หลังจากที่พบว่ามี “ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์บราซิล” เกิดขึ้นมาใหม่ด้วย เช่นเดียวกับที่ค้นพบสายพันธุ์แอฟริกาใต้ และสายพันธุ์เคนต์หรือสหราชอาณาจักรที่มีการค้นพบกันไปก่อนหน้านี้แล้ว และดูเหมือนว่าไวรัสโคโรนาบางสายพันธุ์ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้สามารถทำให้มีการติดโรคได้ง่ายขึ้น จึงเกิดความกังวลว่าวัคซีนที่มีในปัจจุบันอาจจะใช้งานไม่ได้ผล เรามาติดตามความคืบหน้ากันค่ะ

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ค้นพบมีอะไรบ้าง

ขณะนี้ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ทำให้ป่วยเป็นโรค Covid-19 แพร่กระจายอยู่หลายสายพันธุ์หรือหลายรูปแบบด้วยกัน แต่สายพันธุ์ที่น่ากังวลเป็นพิเศษได้แก่

  • สายพันธุ์เคนต์หรือสหราชอาณาจักร หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า B.1.1.7 แพร่กระจายเป็นวงกว้างในอังกฤษ และอีกกว่า 50 ประเทศ ในขณะนี้ดูเหมือนว่าไวรัสสายพันธุ์นี้กำลังจะกลายพันธุ์อีกครั้ง
  • สายพันธุ์แอฟริกาใต้ หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า B.1.351 พบในอย่างน้อย 20 ประเทศ รวมถึงในสหราชอาณาจักร
  • สายพันธุ์บราซิล หรือที่รู้จักกันในอีกชื่อว่า P.1 พบในผู้ที่เดินทางไปประเทศญี่ปุ่น 4 คนก่อนหน้านี้ และพบในสหราชอาณาจักรแล้วเช่นกัน
สายพันธุ์แอฟริกาใต้ระบาดไป 20 ประเทศแล้ว รวมทั้งในอังกฤษ

การที่ไวรัสสายพันธุ์ต่าง ๆ จะพัฒนาตัวเองนั้นไม่ได้เป็นเรื่องเหนือความคาดหมาย เพราะไวรัสทุกชนิดสามารถกลายพันธุ์ในขณะที่มีการแบ่งตัว เพื่อแพร่กระจายและเจริญเติบโต

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่อันตรายกว่าเดิมมากไหม

ขณะนี้ไม่มีหลักฐานว่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ชนิดใดที่ทำให้มีอาการป่วยรุนแรงมากกว่าเดิมในกลุ่มผู้ติดเชื้อส่วนใหญ่ โดยผู้ที่มีความเสี่ยงสูงที่สุดคือผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวอยู่แล้ว เช่นเดียวกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์เดิม

สำหรับไวรัสสายพันธุ์สหราชอาณาจักร มีงานวิจัยบางชิ้นที่บ่งชี้ว่ามันอาจเกี่ยวข้องกับความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตเพิ่มขึ้น 30% แต่หลักฐานนี้ก็ยังไม่แน่ชัด และข้อมูลยังคงไม่แน่นอน

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่เหล่านี้ดูเหมือนจะแพร่เชื้อได้ง่ายขึ้น จึงต้องใส่ใจป้องกันตัวเองเพิ่มมากขึ้น ทั้งการล้างมือ การรักษาระยะห่างจากผู้อื่น และการสวมหน้ากากอนามัยจะยังคงช่วยป้องกันการติดเชื้อได้

ไวรัสสายพันธุ์ใหม่นี้สามารถที่จะเข้าสู่เซลล์และแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

การเปลี่ยนแปลงของเหล่าไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่พบในสหราชอาณาจักร แอฟริกาใต้ และบราซิล อาจจะทำให้ติดเชื้อหรือติดต่อกันง่ายขึ้น โดยไวรัสทั้ง 3 สายพันธุ์นี้มีการเปลี่ยนแปลงที่ปุ่มโปรตีน ซึ่งเป็นส่วนที่ไวรัสใช้ในการยึดเกาะกับเซลล์ในร่างกายมนุษย์ ทำให้พวกมันสามารถที่จะเข้าสู่เซลล์และแพร่กระจายได้ง่ายขึ้น

ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่าไวรัสสายพันธุ์สหราชอาณาจักรซึ่งพบตั้งแต่เดือนกันยายนปีที่แล้ว อาจจะทำให้เกิดการแพร่กระจายหรือติดเชื้อได้ง่ายขึ้น 70% แต่การวิจัยล่าสุดของสาธารณสุขอังกฤษคาดว่าตัวเลขนี้น่าจะอยู่ที่ประมาณ 30-50% เท่านั้น

ส่วนไวรัสสายพันธุ์แอฟริกาใต้ที่พบตั้งแต่เดือนตุลาคม อาจมีการเปลี่ยนแปลงสำคัญเกิดขึ้นที่ปุ่มโปรตีนของเชื้อไวรัสมากกว่า และเมื่อไม่นานนี้ ผู้เชี่ยวชาญพบผู้ป่วยโรคโควิดสายพันธุ์สหราชอาณาจักรจำนวนหนึ่งที่พบว่ามีการเปลี่ยนแปลงที่น่ากังวลนี้เช่นกัน

การกลายพันธุ์ของไวรัสที่สำคัญอย่างหนึ่งเรียกว่า E484K อาจช่วยให้ไวรัสหลบเลี่ยงสารแอนติบอดีที่อยู่ในระบบภูมิคุ้มกันของมนุษย์ ซึ่งช่วยต่อสู้กับเชื้อไวรัสโคโรนาที่เคยพบมาก่อนจากการติดเชื้อก่อนหน้านั้น หรือหลบเลี่ยงตัวเองจากการได้รับวัคซีน ซึ่งไวรัสโคโรนาสายพันธุ์บราซิลที่ค้นพบตั้งแต่เดือนกรกฎาคมก็มีลักษณะการกลายพันธุ์ E484K นี้เช่นกัน

วัคซีนจะใช้ได้ผลหรือไม่

การคิดค้นวัคซีนในปัจจุบันเป็นไปเพื่อรับมือกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ที่พบก่อนหน้านี้ แต่นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่า วัคซีนจะยังคงใช้งานได้ผลกับไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่เพิ่งค้นพบใหม่นี้ แม้ว่าอาจจะไม่ดีเท่าเดิมก็ตาม

การศึกษาเมื่อไม่นานนี้ระบุว่าไวรัสสายพันธุ์บราซิลอาจจะทนทานต่อสารแอนติบอดีในคนที่น่าจะมีภูมิคุ้มกันบางส่วน เพราะว่าพวกเขาเคยติดเชื้อมาก่อนและหายจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ก่อนหน้านี้แล้ว
อย่างไรก็ตาม มีผลการทดลองที่พบเช่นกันว่า วัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ (Pfizer) อาจป้องกันไวรัสสายพันธุ์ใหม่ได้ แต่อาจจะมีประสิทธิผลลดลงเล็กน้อย ส่วนวัคซีนป้องกันโรค Covid-19 อีก 2 ชนิดที่อาจได้รับการรับรองในอีกไม่นานนี้ ชนิดหนึ่งผลิตโดยบริษัทโนวาแวกซ์ (Novavax) กับอีกชนิดหนึ่งผลิตโดยบริษัทแจนส์เซน (Janssen) ดูเหมือนว่าจะใช้ป้องกันได้เช่นกัน
วัคซีนที่มีใช้ตอนนี้อาจป้องกันได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ
ทางด้านทีมงานคิดค้นวัคซีนอ็อกซ์ฟอร์ด-แอสตร้าเซนเนก้า (Oxford-AstraZeneca) ระบุว่า วัคซีนของพวกเขาช่วยป้องกันไวรัสสายพันธุ์สหราชอาณาจักรสายพันธุ์ใหม่ได้เช่นกัน แม้จะมีประสิทธิผลในการป้องกันสายพันธุ์แอฟริกาใต้ลดลง แต่ก็ยังคงป้องกันการเกิดอาการป่วยที่รุนแรงได้
บริษัทโมเดอร์นา (Moderna) เปิดเผยผลเบื้องต้นจากการทดลองวัคซีนพบว่า วัคซีนของทางบริษัทใช้ได้ผลกับสายพันธุ์แอฟริกาใต้ แต่การตอบสนองของระบบภูมิต้านทานอาจจะไม่แข็งแรงหรือคงอยู่ได้นานเท่าเดิม
ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ๆ นั้นอาจเกิดขึ้นได้อีกในอนาคต และมีลักษณะที่แตกต่างไปจากเดิม นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกเองก็กำลังเฝ้าระวังสถานการณ์กันอยู่ และหากพบไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่สำคัญก็จะศึกษาและจับตามองอย่างใกล้ชิด ในส่วนของวัคซีนนั้น ผู้เชี่ยวชาญกำลังปรับปรุงวัคซีนให้ทันสมัยอยู่เสมอ โดยคาดว่าจะใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์หรือไม่กี่เดือนเท่านั้น

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th