Site icon Motherhood.co.th Blog

“5 ภาษารัก” ที่คุณควรเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี

5 ภาษารักของคุณ

เรียนรู้ภาษารักทั้ง 5 แบบ ที่จะช่วยปรับความสัมพันธ์ของคุณให้ราบรื่นขึ้น

“5 ภาษารัก” ที่คุณควรเรียนรู้ตั้งแต่วันนี้ เพื่อความสัมพันธ์ที่ดี

“5 ภาษารัก” กำลังกลายเป็นสิ่งที่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องชีวิตคู่ทั่วโลกให้ความสำคัญ คุณอาจคิดว่าตัวเองแสดงความรักต่อคนสำคัญของคุณเป็นประจำ แต่คุณใช้เวลาอย่างแท้จริงเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสื่อสารในแบบที่คู่ของคุณต้องการได้รับหรือไม่ ? แม้ว่าจะมีความรักให้กันมากแค่ไหน บางครั้งก็อาจหลงทางได้เมื่อคนสองคนพูดภาษารักที่แตกต่างกัน

ภาษารักคืออะไร ?

ภาษาแห่งความรักทั้ง 5 เป็นวิธีการแสดงและรับความรักที่แตกต่างกัน 5 วิธี ได้แก่ คำพูดยืนยัน ช่วงเวลาที่มีคุณภาพ การรับของขวัญ การแสดงการบริการ และการสัมผัสทางกาย ไม่ใช่ทุกคนที่สื่อสารถึงความรักในลักษณะเดียวกัน และในทำนองเดียวกัน คนเราก็มีความต้องการที่แตกต่างกันในยามที่พวกเขาต้องการได้รับความรักแนวคิดของภาษาแห่งความรักได้รับการพัฒนาโดย แกรี่ แชปแมน ในหนังสือของเขาที่ชื่อ The 5 Love Languages: The Secret to Love That Lasts ที่เขียนขึ้นครั้งแรกในปี 1992 โดยขายได้มากกว่า 12 ล้านเล่มนับตั้งแต่เผยแพร่ครั้งแรก ซึ่งเขาอธิบายถึงรูปแบบการสื่อสารความรักที่เป็นเอกลักษณ์ทั้ง 5 ประเภท ที่เขากลั่นมาจากประสบการณ์ในชีวิตแต่งงาน การให้คำปรึกษา และภาษาศาสตร์

เราทุกคนจะรู้สึกเชื่อมโยงถึงภาษารักนี้ได้เป็นส่วนมาก แต่เราแต่ละคนก็มีภาษาที่ตรงกับความเป็นตัวเรามากที่สุดอยู่ การค้นพบภาษารักหลักของคุณและของคู่ของคุณและการพูดภาษานั้นเป็นประจำ อาจสร้างความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความต้องการของกันและกัน และช่วยสนับสนุนการเติบโตของกันและกันด้วย

นี่คือภาพรวมของภาษารักทั้ง 5 ภาษาที่แชปแมนอธิบาย

1. คำพูดยืนยัน

แค่โน้ตบอกรักก็สร้างความรู้สึกที่ดีได้มากมาย

ผู้ที่มีคำพูดยืนยันเป็นภาษารักมักให้ความสำคัญกับการรับรู้ด้วยวาจาถึงความเสน่หา ซึ่งรวมถึงการพูดคำว่า “ฉันรักคุณ” บ่อย ๆ คำชมเชย คำชื่นชม การให้กำลังใจทางวาจา และการสื่อสารแบบดิจิทัล เช่น การส่งข้อความ และการมีส่วนร่วมในโซเชียลมีเดียที่บ่อยครั้ง

การเขียนและการพูดแสดงความรักมีความสำคัญต่อคนเหล่านี้มากที่สุด การแสดงออกเหล่านี้ทำให้พวกเขารู้สึกว่ามีคนเข้าใจและเป็นที่ชื่นชม

2. ช่วงเวลาที่มีคุณภาพ

การได้ใช้เวลาพูดคุยกันคือสิ่งที่มีค่ามาก

คนที่มีภาษารักเป็นช่วงเวลาที่มีคุณภาพจะรู้สึกชื่นชอบมากที่สุดเมื่อคู่ของพวกเขาต้องการใช้เวลาร่วมกับพวกเขาอย่างกระตือรือร้น และมักจะพร้อมเสมอที่จะออกไปเที่ยวด้วยกัน พวกเขาชอบเป็นพิเศษเมื่อมีการฟังอย่างกระตือรือร้น การสบตา และการแสดงตนอย่างเต็มที่ถือเป็นสิ่งสำคัญในความสัมพันธ์

ภาษารักนี้เกี่ยวกับการให้ความสนใจกับคนพิเศษคนนั้น โดยไม่มีการรบกวนจากโทรทัศน์ หน้าจอโทรศัพท์ หรือสิ่งรบกวนภายนอกอื่น ๆ พวกเขามีความปรารถนาอย่างยิ่งที่จะใช้เวลาร่วมกับคนสำคัญของตนอย่างกระตือรือร้น มีการสนทนาที่มีความหมาย หรือทำกิจกรรมสันทนาการร่วมกัน

3. การแสดงการบริการ

อาสาให้ความช่วยเหลือในเวลาที่อีกฝ่ายยุ่ง

หากภาษารักของคุณเป็นการแสดงการบริการ คุณจะให้ความสำคัญเมื่อคู่ของคุณเสียสละตนเพื่อทำให้ชีวิตของคุณง่ายขึ้น เช่น นำซุปมาให้เมื่อคุณป่วย ชงกาแฟให้คุณในตอนเช้า หรือเก็บผ้าที่ส่งซักแห้งให้คุณเมื่อคุณมีงานยุ่งมาทั้งวัน

ภาษารักนี้มีไว้สำหรับคนที่เชื่อว่าการกระทำนั้นเสียงดังกว่าคำพูด ต่างจากคนที่ชอบฟังว่าพวกเขาเอาใจใส่มากแค่ไหน คนในกลุ่มนี้ชอบที่จะถูกแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็นที่รักอย่างไร การทำงานบ้านเล็ก ๆ น้อย ๆ และงานชิ้นใหญ่ เพื่อให้ชีวิตของพวกเขาง่ายขึ้นหรือสะดวกสบายมากขึ้นเป็นที่ชื่นชอบของคนเหล่านี้

4. การรับของขวัญ

ดอกไม้สักช่อแม้ไม่ใช่โอกาสพิเศษอะไร

ของขวัญเป็นภาษารักที่ตรงไปตรงมา คุณรู้สึกเป็นที่รักเมื่อมีคนมอบ “สัญลักษณ์แห่งความรัก” ให้คุณตามที่แชปแมนว่าไว้ ไม่เกี่ยวกับมูลค่าที่วัดเป็นตัวเงิน แต่เป็นความคิดเชิงสัญลักษณ์ที่อยู่เบื้องหลังสิ่งของนั้น ๆ คนที่มีสไตล์นี้รับรู้และให้ความสำคัญกับกระบวนการให้ของขวัญ การไตร่ตรองอย่างรอบคอบ การเลือกของที่เป็นสัญลักษณ์แทนความสัมพันธ์ และผลประโยชน์ทางอารมณ์จากการได้รับของขวัญ

คนที่มีภาษารักเป็นการได้รับของขวัญชอบที่จะได้รับสิ่งที่เป็นของขวัญทั้งที่จับต้องได้และมีความหมาย ที่สำคัญคือการมอบสิ่งที่มีความหมายต่อพวกเขา และสะท้อนถึงคุณค่าของพวกเขา โดยที่ไม่จำเป็นจะต้องเป็นคุณค่าตามแบบของคุณ

5. การสัมผัสทางกาย

ความอบอุ่นและสบายใจบางครั้งก็มาพร้อมการสัมผัส

คนที่มีสัมผัสทางกายเป็นภาษารักจะรู้สึกเป็นที่รัก เมื่อได้รับสัญญาณทางกายภาพของความรัก เช่น การจูบ การจับมือ การกอดกันบนโซฟา และการมีเพศสัมพันธ์ ความใกล้ชิดทางกายและการสัมผัสสามารถยืนยันและเป็นตัวเชื่อมต่อทางอารมณ์ที่ทรงพลังสำหรับผู้ที่มีภาษารักนี้ได้อย่างไม่น่าเชื่อ เราสามารถสาวรากลึกไปถึงวัยเด็กของเราได้ บางคนรู้สึกถึงความรักจากพ่อแม่อย่างลึกซึ้งเมื่อพวกเขาถูกกอดจูบหรือสัมผัส

คนที่สื่อสารความชื่นชมผ่านภาษานี้เมื่อพวกเขายินยอม จะรู้สึกถูกชื่นชมเมื่อได้รับการกอดจูบ พวกเขาให้ความสำคัญกับความรู้สึกอบอุ่นและสบายใจที่มาพร้อมกับสัมผัสทางกาย

แบบทดสอบภาษารัก: ภาษารักของฉันคืออะไร ?

หากต้องการค้นหาประเภทภาษารักของคุณ สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบได้ที่นี่

การเดทกับคนที่มีภาษารักแต่ละประเภท

ภาษารักเป็นแนวคิดที่ลวงเราให้มองมันเป็นสิ่งเรียบง่าย และการเข้าใจมันอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้เมื่อคุณตกอยู่ในสถานการณ์จริง มันจะยิ่งทำให้คุณอยากรู้อยากเห็นมากยิ่งขึ้นในการมีความสัมพันธ์

ตัวอย่างเช่นคุณอาจชอบคำพูดยืนยัน แต่คู่ของคุณให้ความสำคัญกับเวลาที่มีคุณภาพและสัมผัส คุณอาจส่งข้อความถึงเขาหวาน ๆ ทั้งวัน และคิดว่าคุณเก่งในการแสดงความรัก ในขณะเดียวกันเขาอาจสงสัยว่าทำไมคุณถึงไม่เคยสนใจที่จะใช้เวลานอนกอดกันบนโซฟาด้วยกันในตอนกลางคืน และอาจจะรู้สึกไม่มีใครรักเพราะเหตุนั้น เห็นไหมว่าการรู้สึกไม่เชื่อมถึงกันและความไม่พอใจที่เกิดขึ้นนั้นมันง่ายแค่ไหน ด้วยการกำหนดความชอบภาษารักหลักและรองของเรา อาจจะทำให้การมอบสิ่งที่อีกฝ่ายปรารถนามาตลอดนั้นง่ายขึ้น

เรียนรู้ภาษารักทุกแบบเพื่อปรับใช้กับสถานการณ์จริง

เคล็ดลับในการเดทกับคนที่มีภาษารักแต่ละประเภทมีดังนี้

ความสัมพันธ์ของคุณได้รับประโยชน์จากภาษารักอย่างไร ?

เราทุกคนแสดงออกและรู้สึกถึงความรักที่แตกต่างกัน ดังนั้น การเข้าใจความแตกต่างเหล่านั้นอาจส่งผลกระทบเชิงบวกต่อความสัมพันธ์ของคุณ แชปแมนกล่าวว่ามันเป็นวิธีที่ง่ายที่สุดวิธีหนึ่งในการปรับปรุงความสัมพันธ์ของคุณ

ภาษารักเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการปรับปรุงวิธีที่เราสื่อสารและแสดงออกซึ่งกันและกัน แต่ไม่ควรเป็นทางออกสำหรับความสุขทั้งหมด มันควรทำหน้าที่เป็นจุดเริ่มต้นที่กำหนดให้คู่รักเดินทางมาพบกันครึ่งทางและควบคุมตนเองได้ดีขึ้น

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th