Site icon Motherhood.co.th Blog

Homeschooling ดีไม่ดียังไง ต้องรู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจ

Homeschooling คืออะไร

การจัดการศึกษาแบบ homeschooling จะเหมาะกับลูกรักไหม พ่อแม่ต้องศึกษาให้ดี

Homeschooling ดีไม่ดียังไง ต้องรู้ข้อมูลก่อนตัดสินใจ

ในยุคปัจจุบันนี้การศึกษาทางเลือกมีรูปแบบที่แตกต่างกันออกไปมากมาย และ “Homeschooling” หรือการเรียนที่บ้านนั้นก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในทั่วทุกมุมโลก สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ยังไม่แน่ใจ อยากทราบให้แน่ชัดว่า Homeschooling มีหลักสูตรการเรียนแบบไหน พ่อแม่จะต้องมีคุณสมบัติอย่างไรในการจัดการเรียนการสอนให้ลูกด้วยตนเองที่บ้าน แล้วลูกรักของเรามีความพร้อมที่จะเรียนกันเองที่บ้านโดยไม่ต้องไปโรงเรียนหรือเปล่า ขอให้ร่วมติดตามบทความนี้ไปด้วยกันค่ะ

การเรียนการสอนแบบโฮมสคูล (Homeschooling)

แนวทางการเรียนการสอนแบบโฮมสคูล คือ การศึกษาทางเลือก เป็นการบูรณาการที่ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้จากวิถีชีวิต เรื่องราวและบรรยากาศที่เกิดขึ้นจริง เน้นความสนใจของเด็กเป็นสำคัญ เพื่อให้เด็กได้ค้นพบความถนัดและความสามารถของตนเอง โดยมีพ่อแม่เป็นผู้จัดการเรียนการสอนให้แก่ลูกเองภายในบ้าน และคอยช่วยเหลือ ชี้แนะ เพื่อนำไปสู่การพัฒนาตามธรรมชาติอย่างเต็มประสิทธิภาพ

การเรียนโฮมสคูลนั้น พ่อแม่จะต้องให้เวลากับลูกได้มาก และต้องวางหลักสูตรเอง

คุณพ่อคุณแม่ที่จัดการศึกษาแบบนี้ให้ลูกมีความเชื่อว่าการเรียนแบบโฮมสคูลจะทำให้เด็กเกิดการเรียนรู้ได้เอง รักในการเรียนรู้ และรู้วิธีที่จะสร้างองค์ความรู้ใหม่ๆ ซึ่งในประเทศไทยเราได้มีการรับรองการจัดการศึกษาในรูปแบบนี้ตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และยังให้สิทธิ์ในการรับเงินอุดหนุนจากรัฐสำหรับการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอีกด้วย

กิจกรรมแบบโฮมสคูล

เนื่องจากการเรียนแบบโฮมสคูลจะเริ่มต้นที่ความสนใจของตัวเด็กเป็นหลัก ถ้าเด็กสนใจการเลี้ยงสัตว์ อาจจะเริ่มจากการหาสัตว์อย่าง นก ไก่ ปลา มาเลี้ยง ให้เขาเป็นคนให้อาหาร และขยายฐานความรู้โดยพาไปดูตลาดซื้อขายพันธุ์ปลา พาไปจับปลา หรือพูดคุยกับชาวบ้านที่เลี้ยงปลาเป็นอาชีพ หรือถ้าเด็กมีความสนใจในด้านอื่น คุณพ่อคุณแม่จะต้องคอยกระตุ้นให้เขาทดลองทำ ได้ศึกษาข้อมูลด้วยตนเอง หรือคอยหาข้อมูลให้บ้างและให้ลูกนำไปต่อยอดสู่ความรู้เรื่องใหม่ๆต่อไป

พ่อแม่แบบโฮมสคูล

ในการเริ่มต้นที่จะจัดการศึกษาแบบโฮมสคูลให้ลูกนั้น พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องมีความพร้อมและมีการเตรียมตัวดังต่อไปนี้

เด็กระดับไหนเรียนโฮมสคูลได้บ้าง

สำหรับการศึกษาแบบโฮมสคูล ในประเทศไทยสามารถให้เริ่มเรียนได้ตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย โดยสามารถไปจดทะเบียนตามสถานที่ที่ในแต่ละระดับชั้นกำหนดไว้

หลังจากที่มีการจดทะเบียนตามหลักนี้ เมื่อลูกเรียนจบการศึกษาในแต่ละระดับ ก็จะได้รับวุฒิการศึกษาในระดับนั้นๆ ซึ่งสามารถนำวุฒิไปใช้เรียนต่อในระบบได้เลย หากเรียนจบในชั้นมัธยมปลายแล้วก็จะสามารถนำวุฒิการศึกษาไปสอบเข้าเพื่อเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยได้เช่นกัน

ในการเรียนแบบโฮมสคูล พ่อแม่จะเป็นผู้วัดผลและประเมินผลลูกเอง

ขั้นตอนการยื่นคำขออนุญาตจดทะเบียนกับเขตพื้นที่การศึกษา

กระทรวงศึกษาธิการได้มีการลงนามในกฎกระทรวง ว่าด้วยสิทธิการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 แล้ว โดยพ่อแม่ที่มีความต้องการจะจัดการศึกษาให้แก่ลูกด้วยตนเองต้องดำเนินการดังนี้

  1. เตรียมความพร้อมโดยการศึกษาข้อมูลความรู้ที่ตรงกับระดับพัฒนาการของลูก และค้นหาความสนใจพิเศษของเขา
  2. ยื่นขอข้อมูลและระเบียบการได้จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาตามท้องที่ที่อาศัย เพื่อทำหลักสูตรและแผนการสอน
  3. หลักฐานวุฒิการศึกษาของผู้ปกครองต้องไม่ต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายหรือเทียบเท่า
  4. หากเด็กมีความบกพร่องในวิชาการด้านใดด้านหนึ่ง เช่น อ่อนในวิชาคณิตศาสตร์ ทางเขตจะให้เวลาซ่อมเสริม เพื่อประเมินใหม่อีกครั้ง
  5. ให้พ่อแม่ประเมินความรู้ของเด็กตามหลักเกณฑ์ในหลักสูตรขั้นพื้นฐาน โดยทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะตรวจสอบปีละ 1 ครั้ง ว่าเด็กมีพัฒนาการตรงตามที่ครอบครัวประเมินไว้หรือไม่ และกำหนดความสามารถของเด็กว่าเทียบได้ในระดับชั้นใด
  6. หากครอบครัวใดมีความพร้อมลดลง ไม่สามารถทำโฮมสคูลได้ต่อ เด็กก็สามารถเข้าเรียนโรงเรียนได้ตามปกติ ตามระดับชั้นที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้เทียบไว้

ในการจดทะเบียนกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอาจจะมีขั้นตอนที่ยุ่งยากสักเล็กน้อย แต่จะสามารถรับเงินอุดหนุนรายหัวตามที่ทางสฐพ. กำหนดไว้

การเรียนโฮมสคูลจัดการสอบกันแบบไหน

ในการประเมินผลด้วยการสอบ พ่อแม่จะเป็นผู้วัดผลและประเมินเด็กด้วยตัวเอง โดยทำตามหลักเกณฑ์ในหลักสูตรขั้นพื้นฐาน หรือตามข้อตกลงที่ให้ไว้กับทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ซึ่งทางสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาจะเข้าร่วมประเมินพร้อมกับพ่อแม่เด็กปีละ 1 ครั้ง และจะเทียบระดับชั้นให้เด็กหลังจากทำการวัดผล

ข้อดีของการเรียนโฮมสคูล

ข้อเสียของการเรียนโฮมสคูล

พ่อแม่ที่มีลูกคนเดียวอาจจะกลัวว่าการเรียนโฮมสคูลจะยิ่งปิดโอกาสการเข้าสังคมของเด็ก

มีลูกคนเดียวจะให้เรียนโฮมสคูลดีไหม

คุณพ่อคุณแม่บางท่านอาจจะมีความกังวลว่าการมีลูกเพียงคนเดียว แล้วตัดสินใจให้เขาเรียนโฮมสคูล จะเหมือนกับเป็นการเก็บเขาไว้แต่กับบ้าน เป็นการจำกัดแวดวงสังคมของเขาให้ยิ่งแคบลงไปอีก ต่างจากเด็กโฮมสคูลคนอื่นที่มีพี่น้องและเลือกเรียนในแบบโฮมสคูลกันทั้งบ้าน เด็กเหล่านั้นก็ยังจะได้มีสังคมกันเอง มีการต่อล้อต่อเถียงกันในหมู่พี่น้อง มีการแข่งกันเรียน คุณพ่อคุณแม่คงจะกลัวว่าลูกรักเพียงคนเดียวจะกลายเป็นเด็กไม่มีสังคมเพราะเรียนโฮมสคูล

นี่เป็น 3 สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้เพื่อให้ลูกได้ฝึกการเข้าสังคมและมีปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่น

  1. ติดต่อกับเครือข่ายผู้ปกครองโฮมสคูล เพราะการเข้าไปเป็นสมาชิกในคอมมูนิตี้ก็จะทำให้ลูกได้เจอเด็กหลากหลายในกลุ่ม และส่วนมากจะมีการพาเด็กออกไปทริปทัศนศึกษาด้วยกันเป็นหมู่คณะอยู่แล้ว ลูกก็จะได้ใช้เวลาตรงนี้เรียนรู้การอยู่ร่วมกันกับคนในวัยเดียวกับเขา
  2. สนับสนุนให้ลูกเล่นกีฬาประเภททีม เพื่อให้ลูกได้เรียนรู้การทำงานเป็นทีมผ่านทางการเล่นกีฬา และเหมาะมากกับพ่อแม่ที่ไม่ได้มีความถนัดที่จะส่งเสริมสมรรถภาพในด้านกีฬาให้ลูกด้วยตัวเอง
  3. ให้ลูกเข้ากิจกรรมพิเศษตามความสนใจของเขา เช่น ชมรมอ่านหนังสือ ชมรมบอร์ดเกม หรือการเรียนกิจกรรมเสริมทักษะด้านอื่น เช่น เรียนเต้น หรือการเข้าเป็นอาสาสมัครให้กับชมรมหรือองค์กรการกุศล

สุดท้ายแล้ว ไม่ว่าคุณพ่อคุณแม่จะตัดสินใจเลือกหลักสูตรการเรียนแบบไหนให้กับลูก อย่าลืมที่จะหาข้อมูลให้ครบถ้วน ประเมินถึงความพร้อมในด้านต่างๆทั้งของตนเองและของลูก ถ้าได้เปิดโอกาสให้ลูกได้มีส่วนร่วมในการตัดสินใจด้วยก็จะยิ่งดีมาก จะได้เป็นการเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้เขาอย่างแท้จริง

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th