15 “คำแนะนำเรื่องลูก” ที่ล้าสมัยไปแล้วโดยสิ้นเชิง
เมื่อคุณมีลูก ดูเหมือนทุกคนจะรู้ว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณและลูกน้อยของคุณ ก็จริงอยู่ เมื่อคุณประกาศข่าวดีออกไป “คำแนะนำเรื่องลูก” มากมายก็หลั่งไหลเข้ามาหาคุณ แต่ภูมิปัญหาที่เชื่อกันในวันวานส่วนใหญ่ได้ถูกพิสูจน์แล้วว่าไม่จริง อ่านเรื่องราวของคำแนะนำในการเลี้ยงดูเด็ก 15 ชิ้นที่ตกยุคไปแล้วกันได้เลย
1. ทารกต้องอาบน้ำทุกวัน
ทารกไม่ได้เหม็นเหงื่ออย่างที่ผู้ใหญ่เป็น พวกเขาจึงต้องอาบน้ำทุก 2-3 วันเท่านั้น (ยกเว้นหลังจากปล่อยระเบิดลงผ้าอ้อมครั้งใหญ่!) ถ้ามันเป็นส่วนหนึ่งของกิจวัตรการพักผ่อน การอาบน้ำทุกวันก็ไม่เป็นไรเช่นกัน แค่เติมความชุ่มชื้นให้ผิวเขาหลังจากนั้นก็พอ
2. ทารกจะนอนหลับได้ดีในห้องที่เงียบและมืด
แม้ว่าเด็กบางคนจะนอนหลับไม่สนิทจริง ๆ แต่ส่วนใหญ่มักจะอยู่ได้ในที่ที่มีรบกวนและแสงเพียงเล็กน้อยได้ นอกจากนี้ หากลูกน้อยของคุณเคยชินกับการมีกิจกรรมอยู่เบื้องหลังขณะนอนหลับ พวกเขาก็อาจจะเต็มใจที่จะงีบหลับได้ในหลายสถานการณ์
3. ปล่อยให้ทารกยืนหรือเด้งตัวบนตักผู้ใหญ่จะทำให้ขาโก่ง
ลูกของคุณจะไม่กลายเป็นเด็กขาโก่งเพียงเพราะยืนบนตักหรือเด้งตัวบนนั้น มันเป็นแค่ความเชื่อเก่า ๆ นอกจากนี้ เด็กเล็กกำลังเรียนรู้วิธีรับน้ำหนักที่ขาและหาจุดศูนย์ถ่วง ดังนั้น ปล่อยให้ลูกยืนหรือทำตัวกระเด้งกระดอน มันได้ทั้งความสนุกและกระตุ้นพัฒนาการสำหรับพวกเขา
4. การฟังเพลงคลาสสิคช่วยเพิ่มไอคิวให้ลูก
ในขณะที่ดนตรีสามารถเสริมสร้างชีวิตของเด็กน้อยได้ แต่ไม่มีงานวิจัยที่สรุปได้ว่าการที่ทารกฟังเพลงคลาสสิคโดยเฉพาะจะส่งผลดีต่อการกระตุ้นสมองอย่างมีนัยยะสำคัญ
5. ถ้าอุ้มลูกทุกครั้งที่เขาร้อง ถือเป็นการสปอยล์เด็ก
ทารกอายุต่ำกว่า 4 เดือนมีกลยุทธ์ในการปลอบประโลมตัวเองอยู่แล้ว พวกเขารู้วิธีดูดเพื่อปลอบประโลมและชอบถูกห่อตัว เรื่องมันก็มีแค่นี้เอง การอุ้มทารกเมื่อพวกเขาร้องไห้ช่วยให้พวกเขาเรียนรู้ว่าพ่อแม่จะอยู่ที่นั่นเพื่อดูแลพวกเขาเสมอ
6. ควรปลุกทารกกลางดึกเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อม
ผ้าอ้อมทุกวันนี้สามารถดูดซับได้ดีมากจนปล่อยให้ทารกอยู่ในผ้าอ้อมเปียกข้ามคืนได้ อย่างไรก็ตาม การอยู่ในผ้าอ้อมที่มีลักษณะชื้นแฉพเป็นเวลานานเกินไปอาจทำให้เกิดการติดเชื้อทางเดินปัสสาวะหรือกระเพาะปัสสาวะได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับเด็กทารก ดังนั้น หากคุณรู้สึกว่าเริ่ม ให้เปลี่ยนทิ้ง
7. ห้ามทาครีมกันแดดให้เด็กอายุต่ำกว่า 6 เดือนเด็ดขาด
แม้ว่าจะเป็นการดีที่สุดที่จะให้ลูกน้อยของคุณอยู่ห่างจากรังสี UV ที่เป็นอันตราย แต่คุณก็สามารถและควรทาครีมกันแดดให้ลูกของคุณเมื่อต้องอยู่กลางแดด ความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งผิวหนังมีมากกว่าความเสี่ยงที่จะมีปฏิกิริยาแพ้
แต่คุณควรทาครีมกันแดดดังกล่าวอย่างไร? ตามที่สถาบันกุมารเวชศาสตร์แห่งอเมริกา (AAP) ได้ว่าไว้ แนวทางที่เรียบง่ายดีที่สุด “ใช้ครีมกันแดดในบริเวณเล็ก ๆ ของร่างกาย เช่น ใบหน้า [และมือ] หากไม่มีชุดป้องกันและร่มเงา” เลือกการมีที่กำบัง เมื่อใดก็ตามที่เป็นไปได้ “หาร่มเงาใต้ต้นไม้ ร่ม หรือหลังคารถเข็น”
8. สิ่งสำคัญคือต้องฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมของทารกทั้งหมดสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 3 เดือน
ใช่ คุณต้องฆ่าเชื้อขวดนมและจุกนมเมื่อนำออกจากบรรจุภัณฑ์ครั้งแรก แต่หลังจากนั้น ให้ล้างด้วยสบู่และน้ำเปล่า (คุณยังสามารถใช้เครื่องล้างจานโดยใช้การตั้งค่าการฆ่าเชื้อได้หากต้องการ!) ทารกมีโอกาสสัมผัสกับเชื้อโรคมากกว่าแบคทีเรียที่ยังคงอยู่ในขวดหรือหัวนมที่ขัดล้างมาอย่างดีเสียอีก
9. ให้ทารกหลับแบบนอนคว่ำจะปลอดภัยที่สุด
ท่านอนที่ปลอดภัยที่สุดสำหรับทารกคือนอนหงาย ในอดีต แพทย์กังวลว่าทารกอาจสำลักน้ำลายหากไม่ได้นอนคว่ำหรือตะแคงข้าง แต่ผลการศึกษาได้เชื่อมโยงตำแหน่งการนอนเหล่านี้กับอัตรา SIDS ที่สูงขึ้น
10. เติมซีเรียลข้าวลงในนมจะช่วยให้ทารกหลับดีขึ้น
งดการให้อาการแข็งจนกว่าเด็กจะมีอายุ 6 เดือน การวิจัยชี้ให้เห็นว่าทารกที่ได้รับอาหารแข็งก่อน 4 เดือนนั้นจริง ๆ แล้วนอนหลับได้แย่กว่าเด็กที่กินนมผสมและการศึกษาได้เปิดเผยถึงความเชื่อมโยงระหว่างการเริ่มให้อาหารที่เป็นของแข็งและโรคอ้วนมาสู่ชีวิตในภายหลัง
11. สิ่งสำคัญคือต้องมีตารางการให้นมที่เข้มงวด
แม้ว่าการจัดตารางเวลาอาจสมเหตุสมผล แต่ควรให้นมตามที่ทารกต้องการจะดีกว่า เพราะสัญญาณบอกความหิวภายในของทารกจะบอกพวกเขาว่าหิวเมื่อไหร่และอิ่มเมื่อไร ยิ่งไปกว่านั้น การจัดตารางให้อาหารของลูกอาจส่งผลเสียต่อนิสัยการกินเพื่อสุขภาพของลูกน้อยที่มีมาแต่กำเนิด
12. ทารกต้องการรองเท้าพื้นแข็งเพื่อปกป้องนิ้วเท้าและทำให้เท้าอยู่ในแนวที่ถูกต้อง
ทารกใช้นิ้วเท้าจับพื้นผิวที่พวกเขากำลังเดิน ดังนั้น จริง ๆ แล้วเด็กควรเดินในร่มแบบไม่มีรองเท้า ในการทำให้นิ้วจิ๋ว ๆ ปลอดภัย ให้เลือกรองเท้าที่มีการยึดเกาะได้ดีที่พื้นรองเท้า เพราะรองเท้าพื้นแข็งอาจลื่นเกินไป
13. เด็กต้องอึอย่างน้อยวันละครั้ง
พ่อแม่มักคิดว่าทารกท้องผูกทั้งที่จริงไม่ใช่ ทารกแรกเกิดมักจะมีการถ่ายอุจจาระหลายครั้งต่อวัน แต่พวกเขาอาจถ่ายอุจจาระได้ทุก ๆ 3-4 วันเมื่ออายุประมาณ 2 เดือนถึง 3 เดือน หากการขับถ่ายยากและไม่บ่อย หรือคุณเห็นเลือดในผ้าอ้อม ให้โทรหากุมารแพทย์ของคุณ
14. การจับกระหม่อมเด็กเป็นการทำร้ายสมอง
กระหม่อมหรือจุดอ่อนนุ่มที่ด้านหน้าศีรษะของทารกคือช่องเปิดที่หุ้มด้วยผิวหนังในกะโหลกศีรษะที่เต้นเป็นจังหวะ ซึ่งทำให้ผู้ปกครองบางคนหวาดกลัว มีข้อสันนิษฐานเกี่ยวกับความเปราะบาง แต่จริง ๆ แล้วสมองได้รับการปกป้องอย่างดีทีเดียว กระหม่อมด้านหน้ามักจะปิดเมื่ออายุประมาณ 1 ปี ในขณะที่กระหม่อมที่เล็กกว่าที่ด้านหลังศีรษะมักจะปิดเมื่ออายุ 2 เดือนถึง 3 เดือน
15. เมื่ออยู่ในความเย็น เด็กจะป่วย
แม้ว่าลูกน้อยของคุณอาจต้องการความช่วยเหลือในการควบคุมอุณหภูมิภายใน แต่สภาพอากาศหนาวเย็นจะไม่ทำให้ลูกของคุณป่วย ไวรัสและแบคทีเรียต่างหากที่ทำอย่างนั้น
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th