หัวลูกน้อยเป็นอะไร ? ใช่ “ชันนะตุ” หรือเปล่านะ
หากคุณเห็นแผลบนหนังศีรษะของทารกน้อย คุณอาจจะสงสัยว่าเขาเป็นโรคอะไร จะใช่ “ชันนะตุ” หรือเปล่า โรคนี้มีสาเหตุมาจากอะไร เมื่อเป็นแล้วมีความร้ายแรงขนาดไหน ต้องดูแลรักษาอย่างไรให้หายและไม่ให้อาการกลับมาอีก ติดตามได้ในบทความนี้เลยค่ะ
ชันนะตุ หรือกลากหนังศีรษะ (Tinea capitis) คือ โรคหนังผิวหนังที่เกิดบนศีรษะชนิดหนึ่ง เป็นการติดเชื้อราที่หนังศีรษะ เชื้อราจะสร้างรอยวงกลมบนผิวหนัง มักจะมีจุดศูนย์กลางแบนและเส้นขอบที่นูนขึ้น โดยกลากนี้ส่งผลต่อหนังศีรษะและเส้นผม ทำให้เกิดอาการคันผิวหนัง รวมถึงมีสะเก็ดหย่อมเล็ก ๆ ที่หนังศีรษะ หรือทำให้หนังศีรษะเป็นแผลที่มีลักษณะคล้ายกลาก
กลากหนังศีรษะเป็นโรคติดต่อที่สามารถแพร่กระจายระหว่างบุคคลได้ โดยการใช้เครื่องใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น หวี แปรงผม ผ้าเช็ดตัว หมวก หรือหมอน กลากหนังศีรษะนี้พบได้มากในวัยเด็ก แต่สามารถแพร่เชื้อไปสู่คนทุกวัยได้เช่นกัน
อาการชันนะตุ
อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ คันบนหนังศีรษะ ผมอาจแหว่งออกเป็นบางส่วน หนังศีรษะเป็นเชื้อรา จนเกิดสะเก็ดสีแดงหรือไม่มีผมเลย อาจเห็นเป็นจุดสีดำที่เส้นผมที่เปราะและแตกหัก ซึ่งพื้นที่เหล่านี้เป็นจุดที่เชื้อราบนหนังศีรษะเจริญเติบโต
อาการอื่น ๆ ที่พบ ได้แก่
- ผมเปราะ แตกหักง่าย
- เจ็บหนังศีรษะ
- ต่อมน้ำเหลืองโต
- มีไข้ต่ำ
ในกรณีที่อาการรุนแรงมากขึ้น อาจพบอาการบวม (Kerion) ซึ่งจะมีหนองไหลออกมา สามารถนำไปสู่ภาวะผมร่วงเป็นหย่อมและทิ้งรอยแผลเป็น
ชันนะตุในทารก
ภาวะนี้มักปรากฏอาการในช่วง 2-3 สัปดาห์หลังคลอด และมักหายได้ในระยะ 3-4 เดือน ผิวหนังที่เป็นโรคมีลักษณะเป็นรอยกว้างแดง อาจพบรอยแยก บางครั้งมีน้ำเหลืองซึมและเยิ้ม ผิวหนังบริเวณที่เป็นอาจมีไขมันที่แห้งเป็นสะเก็ดติดอยู่ หากเป็นที่หนังศีรษะ มักมีสะเก็ดแห้งกรังเกาะแน่น
สาเหตุของโรค
เชื้อรา Dermatophytes เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดชันนะตุ เชื้อราเป็นสิ่งมีชีวิตที่เจริญเติบโตบนเนื้อเยื่อที่ตายแล้ว เช่น เล็บ ผม และผิวหนังชั้นนอก เชื้อรา Dermatophytes ต้องการความอบอุ่นและความชื้น ดังนั้น พวกมันจึงเจริญเติบโตได้ดีบนผิวหนังที่มีเหงื่อ แออัด และมีสุขอนามัยที่ไม่ดี
ชันนะตุสามารถติดต่อได้อย่างง่ายดายโดยเฉพาะในเด็ก ๆ โดยสามารถติดจากการสัมผัสผิวหนังของผู้ติดเชื้อ เช่น การใช้หวีร่วมกับที่บุคคลที่ติดเชื้อก็จะมีความเสี่ยงสูง
สัตว์เลี้ยงในบ้าน เช่น แมวและสุนัข สามารถแพร่กระจายกลากหนังศีรษะหรือชันนะตุได้เช่นกัน ในขณะที่สัตว์เลี้ยงในฟาร์ม เช่น แพะ วัว ม้า และหมู ก็เป็นพาหะได้ อย่างไรก็ตามสัตว์เหล่านี้อาจไม่แสดงอาการของการติดเชื้อให้เราเห็น
วิธีการรักษา
แพทย์นิยมให้ผู้ป่วยใช้ยาหรือแชมพูกำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะ
ยากำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะ
ยากำจัดเชื้อราบนหนังศีรษะยอดนิยม ได้แก่ กรีซีโอฟูลวิน (Griseofulvin) และเทอร์บินาฟิน (Terbinafine hydrochloride) ทั้งคู่เป็นยารับประทานที่ต้องใช้เวลารับประทานประมาณ 6 สัปดาห์ ยาทั้งสองตัวมีผลข้างเคียงที่พบบ่อย ได้แก่ ท้องเสียและปวดท้อง แพทย์จึงมักแนะนำให้รับประทานยาเหล่านี้ร่วมกับอาหารที่มีไขมันสูง เช่น เนยถั่วหรือไอศกรีม
ผลข้างเคียงของยากรีซีโอฟูลวิน (Griseofulvin) ได้แก่
- ไวต่อแสงแดด
- อาเจียน
- เมื่อยล้า
- อ่อนเพลีย
- เวียนศีรษะ
- มีอาการแพ้เหมือนการแพ้ยาเพนนิซิลิน
- ปวดศีรษะ
- ผื่น
- ลมพิษ
ผลข้างเคียงของยาเทอร์บินาฟิน (Terbinafine hydrochloride) ได้แก่
- ปวดท้อง
- คัน
- ผื่น
- ลมพิษ
- การรับรสไม่ปกติ
- อาการแพ้
- ปวดศีรษะ
- มีไข้
- ปัญหาสุขภาพตับ
แชมพูขจัดเชื้อราบนหนังศีรษะ
แพทย์จะให้ใช้แชมพูยาเพื่อกำจัดเชื้อราและป้องกันการแพร่กระจายของการติดเชื้อ แชมพูยามีส่วนผสมของคีโตโคนาโซลหรือซีลีเนียมซัลไฟด์ ซึ่งช่วยป้องกันเชื้อราไม่ให้แพร่กระจาย แต่จะไม่ฆ่าชันนะตุ จึงต้องทำร่วมกับการรับประทานยา
แพทย์มักแนะนำให้ใช้แชมพูประเภทนี้ 2 ครั้งต่อสัปดาห์เป็นเวลาหนึ่งเดือน เมื่อสระผม ให้ทิ้งแชมพูไว้บนศีรษะประมาณ 5 นาทีก่อน จากนั้นค่อยล้างออกตามปกติ
สำหรับอาการในทารกนั้น แพทย์จะให้ทาขี้ผึ้ง 1% Hydrocortisone หรือ Prednisolone บาง ๆ วันละ 2 ครั้ง จนกว่าจะหาย หากมีน้ำเหลืองแห้งกรังเกาะติดหนังศีรษะให้ ใช้น้ำมันมะกอกเช็ดออกก่อนเริ่มทายา
การดูแลฟื้นฟูหนังศีรษะและเส้นผมหลังจากรักษาชันนะตุ
อาจต้องใช้เวลารักษาในเวลานาน หลาย ๆ ครั้งกินเวลามากกว่า 1 เดือนในการฟื้นฟูและใช้ยาต่อตามที่แพทย์แนะนำ สำหรับชันนะตุที่พบในเด็กนั้น เด็กยังสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ สามารถไปโรงเรียนได้ แต่ต้องปฏิบัติตัวตามคำแนะนำของแพทย์
ควรตรวจสอบสัตว์เลี้ยงและสมาชิกในครอบครัวคนอื่น ๆ ด้วย เพื่อช่วยป้องกันการติดเชื้อซ้ำ ไม่ควรใช้ของใช้ส่วนตัวร่วมกัน เช่น ผ้าเช็ดตัว หวี แปรงผม หมวก หมอน กับผู้อื่น เราสามารถฆ่าเชื้อหวีและแปรงที่เป็นของผู้ติดเชื้อได้โดยการนำไปแช่ในน้ำยาฟอกขาว
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th