Site icon Motherhood.co.th Blog

ช่วยลูกตั้ง “ปณิธานปีใหม่” กันเถอะ

ปณิธานปีใหม่ของเด็ก

ไม่เฉพาะแต่ผู้ใหญ่ เด็ก ๆ ก็มีปณิธานปีใหม่ได้เหมือนกันนะ !

ช่วยลูกตั้ง “ปณิธานปีใหม่” กันเถอะ

เมื่อปีใหม่มาถึง ผู้ใหญ่อย่างเรา ๆ อาจจะนึกถึง “ปณิธานปีใหม่” ที่หลั่งไหลเข้ามาอย่างท่วมท้น เป็นสิ่งที่เรามาดหมายว่าจะทำในปีนี้ แต่หลาย ๆ ครั้งเราก็ต้องละทิ้งมันไป แต่เราเคยได้ลองคิดถึงปณิธานปีใหม่ของเด็ก ๆ บ้างหรือยัง ?

เด็กๆ มักต้องการตั้งเป้าหมายเหล่านี้เช่นกัน บางทีพวกเขาอาจทำตามในสิ่งที่คุณเป็นผู้นำด้วยซ้ำ หากไม่เป็นเช่นนั้น ก็ยังควรพิจารณาเกี่ยวกับมันอยู่ดี การตั้งปณิธานปีใหม่อาจเป็นแบบฝึกหัดการกำหนดเป้าหมายที่ดีสำหรับเด็ก ๆ

พวกเราบางคนพยายามอย่างเต็มที่ในแต่ละปีเพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่เราตั้งไว้สำหรับตนเองและยึดมั่นกับคติที่ว่า “ปีใหม่ ฉันคนใหม่” ความสำเร็จที่เราตั้งรออาจจะเป็นไปได้ แต่ไม่ว่าคุณจะมีลูกวัยรุ่นหรือเด็ก ๆ ทุกวัย การได้ลองตั้งเป้าหมายต้อนรับปีใหม่ก็เป็นกระบวนการที่ดี และยังเป็นการสร้างเสริมความสัมพันธ์ที่ดีด้วย

ต่อไปนี้คือเคล็ดลับบางประการในการสร้างปณิธานปีใหม่สำหรับเด็กที่ประสบความสำเร็จ

ให้ลูกลองตั้งเป้าหมายด้วยตนเอง
ความสำคัญของการตั้งเป้าหมาย

การสอนเด็กๆ ถึงความสำคัญของการตั้งเป้าหมายหรือใช้ปีใหม่เพื่อตั้งปณิธานก็สามารถช่วยให้บุตรหลานของคุณสร้างมาตรฐานสำหรับปีต่อไปได้ เด็กที่อายุน้อยกว่า 5 ขวบสามารถร่วมสนุกกับสิ่งนี้ได้เช่นกัน

“เป้าหมายหรือปณิธานเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญมาก” ดร.เอมี่ ทราบิตซ์ นักจิตวิทยาคลินิกในเดียร์บอร์นกล่าว “ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญในการกำหนดเป้าหมาย”

วิธีตั้งเป้าหมาย

ทราบิตซ์ยังเชื่อด้วยว่าเด็ก ๆ จำเป็นต้องได้รับการตอบรับเมื่อตั้งปณิธานและลงทุนลงแรงในการทำงานเพื่อไปสู่เป้าหมาย ตรวจสอบให้แน่ใจว่าได้แก้ไขปัญหาสำหรับเด็ก ๆ ในขณะเดียวกันก็ต้องมั่นใจว่ามันเป็นสิ่งที่คุณคิดว่าลูกจะยึดมั่นและสนใจ หากนี่เป็นปีแรกของเขาที่ตั้งปณิธาน ให้เสนอสิ่งที่ลูกสามารถใช้ได้หนึ่งหรือสองอย่าง แต่สนับสนุนให้เขาคิดและเลือกมาสักหนึ่งอย่างด้วยตัวเอง

ถามลูกว่า “หนูพร้อมที่จะตั้งปณิธานปีใหม่หรือยัง” หากคำตอบคือ “ใช่” ให้นำทางเขาไปยังคำตอบที่เหมาะสมกับวัย

สำหรับเด็กที่อายุยังน้อย การตั้งปณิธานอาจเป็นการเรียนรู้วิธีการผูกรองเท้าโดยไม่ได้รับความช่วยเหลือจากแม่หรือพ่อ หรือช่วยทำอาหารกลางวันที่โรงเรียน 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์ สำหรับเด็กที่อายุมากกว่าเล็กน้อย การตั้งเป้าหมายที่เป็นอิสระอาจเหมาะสมกว่า

คุณยังสามารถให้ลูกๆ ตั้งปณิธานหนึ่งอย่างสำหรับพวกเขา และแบบที่คุณสามารถทำได้ด้วยกัน เช่น ทำอาหารเดือนละครั้ง ต่อจิ๊กซอว์ 1,000 ชิ้น หรือทำกิจกรรมกับครอบครัวอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง

สิ่งที่ต้องจำไว้คือปณิธานสามารถเป็นวิธีที่จะช่วยให้ลูกของคุณพัฒนาทักษะที่เขามีอยู่แล้ว

หากเป้าหมายจะช่วยพัฒนาทักษะที่เขามีอยู่แล้วก็ยิ่งดี
การตั้งไทม์ไลน์

ขึ้นอยู่กับประเภทของเป้าหมายที่ตั้งไว้จะเป็นตัวกำหนดประเภทของไทม์ไลน์ที่บุตรหลานของคุณสามารถใช้งานได้ ตัวอย่างเช่น หากเป้าหมายคือการอ่านหนังสือใหม่หนึ่งเล่มต่อเดือน ให้ช่วยดูแลบุตรหลานของคุณด้วยการเช็คอินทุกสัปดาห์ ถามคำถามปลายเปิดที่ไม่ต้องการคำตอบ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” โดยตรง แต่เป็นคำถามที่ต้องการคำอธิบาย “หนังสือเล่มใหม่ที่ลูกเริ่มอ่านชื่ออะไร” หรือ “ลูกอ่านถึงบทไหนแล้ว” เป็นวิธีที่ยอดเยี่ยมในการทำให้พวกเขารับผิดชอบต่อเป้าหมายที่ตั้งไว้สำหรับตนเอง

หากพวกเขายังตามไม่ทันเพราะเป้าหมายมีการจำกัดเวลา ให้คุณช่วยพวกเขาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้ยังคงบรรลุผลสำหรับปีนี้

พ่อแม่จะช่วยได้อย่างไร ?

เมื่อคุณได้ตั้งปณิธานของเด็ก ๆ ในวันปีใหม่และกำหนดไทม์ไลน์ที่เหมาะสมแล้ว คุณจะช่วยเหลือพวกเขาในฐานะผู้ปกครองได้อย่างไร เมลิซ่า แมคลาฟลิน ครูที่ Strong Middle School ในเมลวินเดล ตั้งเป้าหมายกับนักเรียนของเธอในช่วงปลายปีและมีคำแนะนำเล็กน้อยสำหรับผู้ปกครอง

“ให้ลูก ๆ ของคุณจดไว้ การเห็นพวกมันเขียนอยู่ทำให้ง่ายต่อการจดจ่อ” เธอกล่าว “สร้างเช็คลิสท์สำหรับเป้าหมายและทำเครื่องหมายเมื่อคุณบรรลุเป้าหมาย การเห็นเป้าหมายที่สำเร็จทำให้คุณรู้สึกภูมิใจในตัวเอง”

หมั่นติดตามว่าบุตรหลานของคุณทำมันไปถึงไหนแล้ว สำหรับเด็กเล็ก ให้ทำปฏิทินหรือแผนภูมิขึ้นมา แล้วใช้สิ่งที่สนุก เช่น สติกเกอร์เพื่อดูว่าอะไรสำเร็จ (หรือไม่) สำหรับเด็กโต ให้ซื้อสมุดแพลนเนอร์ส่วนตัวเพื่อติดตามความคืบหน้า

สำหรับเด็กโต ก็ให้เขาเริ่มใช้แพลนเนอร์ส่วนตัวได้แล้ว
หากเกิดความล้มเหลว

หากลูกของคุณไม่บรรลุเป้าหมายหรือบรรลุปณิธานปีใหม่ ก็ไม่เป็นไร การสอนเด็กถึงความสำคัญของความล้มเหลวก็สำคัญพอ ๆ กับการสอนถึงความสำคัญของความสำเร็จให้พวกเขา

ทราบิตซ์กล่าวว่า “ข้อความสำคัญสำหรับเด็กคือ สิ่งที่คุณต้องการให้เกิดขึ้นมันไม่เป็นไปอย่างที่คิด ไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีประโยชน์หรือมีสิ่งที่คุณเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ดังกล่าว”

“การพยายามอย่างหนักขึ้นหรือพยายามในวิธีการที่แตกต่างออกไปจะนำไปสู่ทัศนคติเชิงบวกที่มากขึ้น และท้ายที่สุดก็นำไปสู่ผลลัพธ์ที่ประสบความสำเร็จมากขึ้นด้วย”

การมีส่วนร่วมและการสื่อสารที่เปิดกว้างจะช่วยให้พวกเขาบรรลุสิ่งที่พวกเขาตั้งเป้าไว้ คอยให้กำลังใจลูก ๆ ของคุณและทำให้พวกเขารู้ว่าสิ่งที่ดีที่สุดที่ควรทำหากไม่บรรลุเป้าหมายคือการไม่ยอมแพ้

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่น ๆ ที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th