ทำไงดีหาก “ปวดหัวแบบคลัสเตอร์” ตอนตั้งครรภ์
อาการ “ปวดหัวแบบคลัสเตอร์” ถือเป็นปัญหาสุขภาพหนึ่งที่อาจจะยังใหม่อยู่สำหรับหลาย ๆ คน อาจจะยังไม่ทราบถึงสาเหตุและการดูแลรักษาตัวเอง แต่หากอาการนี้เกิดขึ้นในช่วงที่คุณตั้งครรภ์แล้วละก็ มันอาจจะยิ่งทำให้คุณกังวลหนักขึ้นไปอีก วันนี้ Motherhood เลยจะนำเอารายละเอียดของโรค รวมทั้งการดูแลตัวเองเมื่อเกิดอาการมาฝากกันค่ะ
อาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์คืออะไร ?
Cluster headache เป็นภาวะปวดหัวรุนแรงที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน โดยผู้ป่วยจะรู้สึกปวดหัวข้างเดียวหรืออาจปวดบริเวณรอบดวงตา ซึ่งอาจเกิดต่อเนื่องนานหลายชั่วโมง และอาจเกิดขึ้นหลายครั้งภายในวันเดียว ในขณะที่ปวดหัวอาจมีอาการอื่น ๆ เกิดขึ้นร่วมด้วย เช่น ตาแดง น้ำมูกไหล เวียนหัว อาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้กับคนทุกเพศทุกวัย แต่จะพบได้มากในวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่ รวมทั้งมักพบในผู้ชายมากกว่าผู้หญิง
อาการของ Cluster headache
ผู้ป่วยจะมีอาการปวดหัวข้างเดียว แต่อาจจะสลับข้างที่ปวดได้ในแต่ละครั้ง บางครั้งอาจเกิดอาการปวดบริเวณรอบดวงตา ด้านหลังดวงตา หรืออาจลามไปบริเวณอื่นที่อยู่ด้านเดียวกันด้วย เช่น หน้าผาก ฟัน คอ หัวไหล่ โดยผู้ป่วยบางรายอาจเห็นแสงวูบวาบก่อนมีอาการปวดหัวด้วย แต่ก็มีโอกาสพบได้น้อย
อาการปวดหัวมักมีความรุนแรง เกิดขึ้นอย่างฉับพลัน และไม่มีสัญญาณเตือน โดยอาการอาจเกิดขึ้นนานประมาณ 15-180 นาที และความถี่ที่แสดงอาการจะแตกต่างกันไปตามแต่ละบุคคล บางรายอาจมีอาการเกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวทุก ๆ 2 วัน แต่บางรายอาจมีอาการมากถึง 8 ครั้งต่อวัน ซึ่งอาการปวดอาจรุนแรงถึงขั้นทำให้ตื่นหลังจากที่นอนหลับไปแล้วประมาณ 1-2 ชั่วโมง หรืออาจทำให้ผู้ป่วยต้องทำร้ายตัวเองเพื่อบรรเทาอาการปวด
นอกจากอาการปวดหัวอย่างรุนแรงแล้ว ผู้ป่วยอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย ดังนี้
- ตาแดง
- น้ำตาไหลออกมามาก
- รูม่านตาหดเล็กลง
- ตาไวต่อแสง
- เปลือกตาหย่อนหรือบวม
- คัดจมูกหรือมีน้ำมูก
- เกิดรอยแดงหรือมีเหงื่อออกบนใบหน้า
- เวียนหัว
- กระสับกระส่าย
อะไรคือสาเหตุ ?
ในปัจจุบัน แพทย์ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัดของอาการนี้ แต่สันนิษฐานว่ามีสาเหตุมาจากการทำงานผิดปกติของสมองส่วนไฮโปทาลามัส ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระดับฮอร์โมน อุณหภูมิ การนอนหลับ และความดันภายในร่างกาย ซึ่งอาจทำให้เส้นเลือดบริเวณใบหน้าขยายใหญ่ขึ้นจนไปกดทับเส้นประสาทบนใบหน้า และกระตุ้นความรู้สึกไปยังสมองมากผิดปกติ จึงทำให้เกิดอาการปวดหัวลักษณะนี้ขึ้น
นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยหลายอย่่งที่อาจเพิ่มความเสี่ยงให้เกิดอาการขึ้นได้ ดังนี้
- การสูบบุหรี่
- การดื่มแอลกอฮอล์
- กลิ่นฉุน เช่น น้ำหอม น้ำมันเบนซิน สีทาบ้าน
- ความร้อน เช่น การอาบน้ำอุ่น ออกกำลังกายในห้องที่มีอากาศร้อน
- มีประวัติคนในครอบครัวเป็น Cluster headache
- เกิดเนื้องอกในสมองหรือต่อมใต้สมอง
วินิจฉัยอาการอย่างไร ?
แพทย์สามารถวินิจฉัยอาการได้โดยสอบถามอาการของผู้ป่วยประกอบกับตรวจร่างกายทางระบบประสาทและสมอง โดยทดสอบการทำงานของเส้นประสาท ความรู้สึก และการตอบสนอง หากพบความผิดปกติ แพทย์อาจเอกซเรย์คอมพิวเตอร์หรือเอกซเรย์คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า เพื่อดูความผิดปกติของต่อมใต้สมองและส่วนอื่น ๆ ที่อาจเป็นสาเหตุ เช่น เนื้องอก หลอดเลือดสมองโป่งพอง
Cluster headache กับการตั้งครรภ์
ดูเหมือนว่าจะมีโอกาส 50/50 ที่ผู้ป่วยที่มีอาการปวดแบบเป็นระยะจะมีอาการกำเริบขึ้นมาระหว่างตั้งครรภ์
วิธีการรักษา
ปัจจุบันยังไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ ทำได้แค่เพียงบรรเทาอาการปวดและหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นที่ทำให้เกิดอาการด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้
1. การรักษาด้วยยา
ยาแก้ปวดที่หาซื้อได้ทั่วไปอาจไม่สามารถช่วยได้ เพราะะยาดังกล่าวใช้เวลานานกว่าจะออกฤทธิ์ แต่อาการปวดหัวชนิดนี้เกิดขึ้นอย่างรุนแรงและฉับพลัน ซึ่งอาจหายไปภายใน 15 นาที จึงอาจต้องใช้ยาชนิดอื่น ๆ เช่น
- ทริปแทน ปกติใช้รักษาอาการปวดหัวไมเกรน มีทั้งแบบกิน แบบพ่น และแบบฉีด ใช้เวลาออกฤทธิ์ประมาณ 15 นาที
- ไดไฮโดรเออร์โกตามีน สามารถใช้บรรเทาอาการได้ ออกฤทธิ์เร็วภายใน 5 นาที แต่ไม่สามารถใช้ร่วมกับยากลุ่มทริปแทนได้
- ลิโดเคน เป็นยาชาเฉพาะที่ สามารถใช้บรรเทาอาการปวดได้ด้วยการสูดดม แต่อาจใช้ได้กับผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
- ครีมแคปไซซีน บางครั้งแพทย์อาจใช้ยาชนิดนี้ร่วมด้วย ซึ่งเป็นยาทาบริเวณที่ปวดเพื่อบรรเทาอาการ
2. การใช้ออกซิเจน
การบำบัดด้วยออกซิเจนเป็นการรักษาทางเลือกที่สามารถทำได้ โดยให้ออกซิเจนบริสุทธิ์ผ่านทางหน้ากากออกซิเจนเพื่อช่วยบรรเทาอาการปวด โดยจะส่งผลทางการรักษาภายใน 15 นาที การรักษาด้วยวิธีนี้ปลอดภัยและไม่มีผลข้างเคียง แต่ใช้ได้ผลกับผู้ป่วยบางรายเท่านั้น
3. การผ่าตัด
แพทย์จะแนะนำให้ผู้ป่วยเข้ารับการผ่าตัดหากรักษาด้วยวิธีอื่นไม่ได้ผล ผู้ป่วยยังมีอาการปวดหัวอย่างเรื้อรัง หรือผู้ป่วยมีอาการข้างเคียงจากการรักษาด้วยวิธีอื่น โดยแพทย์จะผ่าตัดเพื่อทำให้เส้นประสาทบนใบหน้าถ่ายทอดความรู้สึกไปที่สมองไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การรักษาด้วยวิธีการนี้อาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงที่ร้ายแรงคือ อาจทำให้เกิดอาการชาบริเวณใบหน้าอย่างถาวร
ควรใช้ยาแก้ปวดระหว่างการตั้งครรภ์หรือไม่ ?
การใช้ยาระหว่างตั้งครรภ์อาจเป็นทางเลือกที่ยาก การตัดสินใจที่ยากลำบากนั้นเกิดขึ้นเมื่อคุณพบว่าแพทย์เองก็ลังเลที่จะเสนอทางเลือกในการรักษาอาการปวดหัวให้กับผู้หญิงในระหว่างตั้งครรภ์ มีอัตราส่วนความเสี่ยงระหว่างผลประโยชน์ที่จะได้รับให้ต้องชั่งใจอยู่เสมอ แต่ผู้มีครรภ์จำนวนมากไม่ได้รับข้อมูลที่จำเป็นในการตัดสินใจเลือกอย่างชาญฉลาด เรามักจะรู้สึกว่าเราต้องทนทุกข์ทรมานเพื่อสุขภาพของทารก ถึงกระนั้นสุขภาพของแม่และการจัดการโรคตลอดการตั้งครรภ์ก็เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้กัน
มีตัวเลือกการรักษาอะไรบ้างในระหว่างตั้งครรภ์ ?
การโจมตีของอาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์อย่างรุนแรงและฉับพลันทำให้ตัวเลือกในการรักษาลดลงไป โชคดีที่ออกซิเจนไหลเวียนสูงปลอดภัยอย่างสมบูรณ์ในการรับมือกับอาการที่เกิดขึ้นตอนตั้งครรภ์ แต่จะมีตัวเลือกอะไรอีกบ้าง ? จะเป็นอย่างไรถ้าคุณเป็นส่วนหนึ่งของคนจำนวนน้อยที่ไม่ตอบสนองต่อการบำบัดด้วยออกซิเจน ? การรักษาทางเลือกที่มักจะได้ผลสำหรับอาการปวดหัวแบบคลัสเตอร์ เช่น เห็ดขี้ควาย (Psilocybin mushroom) นั้นเชื่อมโยงกับการแท้งบุตรในระยะแรก และด้วยเหตุผลที่ชัดเจนนี้เองจึงไม่แนะนำในระหว่างตั้งครรภ์
จะรู้ได้อย่างไรว่ายาอะไรปลอดภัยสำหรับผู้ตั้งครรภ์?
โปรดทราบว่าการศึกษาผลของยาและการรักษาในหญิงตั้งครรภ์โดยทั่วไปเป็นเรื่องผิดจรรยาบรรณ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์จึงอาศัยการสัมภาษณ์ผู้หญิงตลอดการตั้งครรภ์และข้อมูลเกี่ยวกับผลลัพธ์ของมารดาและทารกในครรภ์ เพื่อให้ได้แนวทางการรักษาที่ปลอดภัยในการตั้งครรภ์ อย่าเริ่มหรือหยุดยาหรือการรักษาโดยไม่ได้ปรึกษาแพทย์ก่อน
มีทางป้องกันหรือไม่ ?
เมื่อยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด จึงยังไม่มีวิธีป้องกันอย่างชัดเจนถึงแม้ภาวะนี้อาจไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่ก็ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้เช่นกัน ดังนั้น ผู้ป่วยควรป้องกันอาการกำเริบด้วยวิธีการต่อไปนี้
- ไม่อยู่บนที่สูง
- ไม่อยู่ในสถานที่ที่มีความร้อน
- ไม่ทำกิจกรรมที่ต้องออกแรงมาก
- หลีกเลี่ยงของที่มีกลิ่นแรง และอาหารที่มีไนเตรต
- ไม่ดื่มแอลกอฮอล์ ไม่สูบบุหรี่ และไม่ใช้สารเสพติดอื่น ๆ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th