Site icon Motherhood.co.th Blog

จะซัพพอร์ตเด็กอย่างไร หากพ่อแม่มี “ปัญหาสุขภาพจิต”

ปัญหาสุขภาพจิตของพ่อแม่

เด็กต้องการการซัพพอร์ตอะไรบ้างหากคุณมีปัญหาสุขภาพจิต ?

จะซัพพอร์ตเด็กอย่างไร หากพ่อแม่มี “ปัญหาสุขภาพจิต”

หากพ่อแม่มี “ปัญหาทางสุขภาพจิต” เช่น ซึมเศร้าหรือวิตกกังวล การเลี้ยงลูกจะยิ่งยากขึ้นไปอีก พ่อแม่บางรายก็ไม่รู้ตัว คิดว่าชีวิตเราก็ยากลำบากหรือดิ้นรนเหมือนกับคนอื่น ๆ นั่นแหละ แต่การเลี้ยงลูกท่ามกลางปัญหาสุขภาพจิตนั้นพบได้บ่อยกว่าที่หลายคนจะรู้ แม้ว่าความเจ็บป่วยทางจิตของผู้ปกครองจะเพิ่มความเสี่ยงต่ออาการป่วยทางจิตในอนาคตของเด็ก แต่มันก็ไม่ใช่ผลลัพธ์เดียวที่เป็นไปได้ การมีพ่อแม่ที่มีปัญหาทางจิตไม่ได้นำไปสู่ความทุกข์ทรมานอย่างมีนัยสำคัญในเด็กเสมอไป มันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย รวมถึงประเภทและความรุนแรงของอาการป่วยทางจิตของผู้ปกครอง ระยะเวลาที่ป่วย และอายุของเด็กด้วย

อาการป่วยทางจิตของพ่อแม่ส่งผลต่อลูกแตกต่างกันไปในแต่ละช่วงวัย

เด็กมีความเสี่ยงมากที่สุดต่อผลกระทบจากความเจ็บป่วยทางจิตของผู้ปกครองโดยเฉพาะการพัฒนาทางอารมณ์ ระยะแรกเริ่มตั้งแต่วัยทารกจนถึงอายุประมาณ 5 ขวบ เป็นช่วงสำคัญของการพัฒนาสมอง แต่พ่อแม่ที่ป่วยทางจิตอาจไม่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกในแง่ของความผูกพัน ทารกหรือเด็กวัยหัดเดินที่ขาดการเชื่อมต่อทางอารมณ์เชิงบวกอาจสร้างปัญหาในการควบคุมอารมณ์และพฤติกรรมของตนเอง มันอาจแสดงออกมาในรูปแบบของอารมณ์เกรี้ยวกราด นอนไม่หลับ ความถดถอยในการฝึกขับถ่าย หรือปัสสาวะรดที่นอน

ช่วงที่เปราะบางอีกช่วงคือวัยรุ่น วัยรุ่นต้องพึ่งพาพ่อแม่ในการสร้างมีแรงเสริมเชิงบวก พ่อแม่ที่มีปัญหาสุขภาพจิตอาจไม่ค่อยใส่ใจความต้องการของลูกวัยรุ่น หรือพวกเขาอาจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่ลูกทำผิดทั้งหมดโดยไม่สร้างสมดุลระหว่างความคิดเห็นเชิงลบกับคำชม ภาวะซึมเศร้า ความหงุดหงิด หรือความอดทนต่ำของผู้ปกครองอาจทำให้วัยรุ่นแสดงพฤติกรรมที่ก่อกวนได้

อาการขาดพลังงานที่ผู้ปกครองมักประสบเพราะภาวะซึมเศร้าอาจส่งผลต่อความสามารถในการให้ความสนใจกับกิจวัตรที่โรงเรียนของลูก หากไม่ได้รับการสนับสนุนจากผู้ปกครอง เด็กในวัยเรียนอาจประสบปัญหาในการไปโรงเรียนให้ตรงเวลาหรือการทำกิจกรรมหลังเลิกเรียน การทำการบ้านให้เสร็จอาจกลายเป็นความท้าทายอย่างท่วมท้นสำหรับเด็กไปเลยก็ได้

ผู้ปกครองที่ต้องรับมือกับโรควิตกกังวลอาจปกป้องเด็กมากจนเกินไป ทำให้เด็กขาดโอกาสในการเรียนรู้ทักษะการแก้ปัญหา หรือเด็กที่เห็นพฤติกรรมวิตกกังวลของพ่อแม่ก็อาจสร้างความกลัวและความกังวลได้

วิธีช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการเผชิญปัญหาเชิงบวก

แม้จะต้องประสบกับความท้าทาย เด็กหลายคนก็ยังมีวิธีรับมือที่ดี และสิ่งนี้พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถช่วยได้ เด็กหลายคนที่โตมากับความเจ็บป่วยทางจิตใจหรือร่างกายของพ่อแม่ได้เรียนรู้ความเห็นอกเห็นใจและความเมตตา หลายคนพัฒนาความยืดหยุ่น ความสามารถในการรับมือกับสถานการณ์ที่ยากลำบาก ลักษณะเหล่านี้มักส่งผลดีต่อความสัมพันธ์ที่ดีในวัยผู้ใหญ่ หากพวกเขามีลูก ก็จะเป็นประโยชน์ต่อความสัมพันธ์ของพวกเขากับลูก ๆ ของพวกเขาเอง

ด้านล่างนี้คือขั้นตอนที่เป็นรูปธรรมที่พ่อแม่ผู้ปกครองสามารถทำได้ เพื่อส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีของบุตรหลาน

ฝึกเมตตาตัวเอง

พ่อแม่ที่มีปัญหาทางจิตมักมีความละอายและรู้สึกผิด ซึ่งไม่ได้ช่วยพวกเขาหรือลูก ๆ ของพวกเขาเลย พ่อแม่ควรชดเชยการวิจารณ์ตนเองด้วยการดูแลตนเอง มีความเชื่อมโยงโดยตรงระหว่างความเป็นอยู่ที่ดีของผู้ปกครองและความเป็นอยู่ที่ดีของลูก ด้วยการมีเมตตาต่อตนเอง ผู้ปกครองอาจมีทรัพยากรทางอารมณ์มากขึ้นสำหรับตนเองและลูก

ปล่อยให้เด็กได้เป็นเด็ก

เด็ก ๆ อาจพลาดการได้เล่นอย่างไรกังวลหากต้องทำตัวเหมือนเป็นผู้ปกครองสำหรับพ่อแม่และพี่ ๆ น้อง ๆ ของพวกเขาเสียเอง การที่รู้ว่าพ่อแม่ดูแลตัวเองได้สามารถปลดปล่อยเด็กจากความรู้สึกรับผิดชอบ เพื่อให้พวกเขาสามารถเล่นได้โดยไม่ต้องกังวล

สร้างความมั่นคง

เด็กต้องการความมั่นคงเพื่อให้เขามีความมั่นใจ หากไม่มีกิจวัตรที่คาดเดาได้ เด็กอาจมีปัญหาในการนอนหลับหรือทำงานโรงเรียนไม่ทัน การขาดความมั่นคงยังสามารถนำไปสู่ความวิตกกังวลและพฤติกรรมรุนแรง

สื่อสารอย่างเปิดเผยกับลูก

การสื่อสารแบบเปิดภายในขอบเขตสามารถทำให้จิตใจของเด็ก ๆ ผ่อนคลายได้ ถ้าพวกเขาไม่รู้ว่าทำไมพ่อแม่ถึงลุกจากเตียงไม่ได้ พวกเขาก็คิดเรื่องขึ้นมาเองขึ้นมา เด็กหลายคนสรุปว่าการต่อสู้ทางอารมณ์ของพ่อแม่เป็นความผิดของพวกเขา

อย่างไรก็ตาม พ่อแม่ก็ต้องรักษาขอบเขตที่เหมาะสม การเข้าถึงพฤติกรรมการกินที่ไม่เหมาะ การใช้สารเสพติด หรือการทำร้ายตัวเองของผู้ปกครองอาจสร้างภาระให้ลูก ๆ หรือนำพวกเขาไปสู่พฤติกรรมที่คล้ายคลึงกัน

ค้นหาการสนับสนุนจากภายนอกสำหรับลูก

หากพ่อแม่รู้สึกว่าไม่สามารถพูดคุยเกี่ยวกับความเจ็บป่วยทางจิตได้ การบำบัดด้วยการพูดคุยสามารถให้พื้นที่ปลอดภัยสำหรับเด็กที่จะพูดคุยโดยไม่ต้องกลัวว่าพวกเขาจะทำร้ายความรู้สึกของพ่อแม่

ให้ผู้ใหญ่ที่ไว้ใจได้คนอื่น ๆ มีส่วนร่วม

การมีผู้ใหญ่ที่รักและมั่นคงในชีวิตของเด็กช่วยสร้างความยืดหยุ่น ในครอบครัวที่มีทั้งพ่อและแม่ ผู้ปกครองอีกคนหนึ่งสามารถให้ความสะดวกสบาย ความมั่นคง และการสนับสนุนได้ ผู้ใหญ่อีกคนอาจเป็นญาติ เพื่อนที่ไว้ใจได้ โค้ชกีฬา ครู หรือนักบำบัด การสนับสนุนทางสังคมที่เหมาะสมภายในครอบครัวหรือชุมชนสามารถช่วยให้ลูกของพ่อแม่ที่ป่วยทางจิตเรียนรู้ทักษะในการเอาชนะความทุกข์ยาก ผลกระทบในเชิงบวกสามารถคงอยู่ตลอดไป

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th