สายสะดือพันคอ อันตรายที่ทำให้ทารกเสียชีวิตตอนคลอด
คุณพ่อคุณแม่อาจจะเคยได้ยินเรื่องของ “สายสะดือพันคอ” ที่เป็นอันตรายจนส่วผลให้ทารกเสียชีวิตระหว่างคลอดกันมาบ้างแล้วนะคะ แต่คงสงสัยกันใช่ไหมละคะว่าสายสะดือจะไปพันคอทารกได้อย่างไร เราจะสังเกตเองได้หรือไม่ว่าสายสะดือกำลังพันคอทารกอยู่ มาไขข้อข้องใจในเรื่องนี้กันค่ะ
ทำความรู้จักสายสะดือให้มากขึ้น
รกเป็นอวัยวะที่ทำหน้าที่แลกเปลี่ยนอาหารและออกซิเจนระหว่างแม่และทารกในครรภ์ โดยรกจะติดอยู่กับผนังด้านในของมดลูกและมีสายสะดือเป็นตัวเชื่อมระหว่างรกกับตัวทารก สายสะดือมีเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1-2 เซนติเมตร และมีความยาวประมาณ 50 เซนติเมตร แต่ในบางคนก็สั้นกว่านั้น ขณะที่บางคนอาจยาวได้ถึง 100 เซนติเมตร
ซึ่งในทารกแต่ละรายก็ยังมีความแตกต่างของสายสะดือได้ ดังนี้
- สายสะดือที่เชื่อมต่อระหว่างสะดือของทารกกับรกก็จะขดไปขดมา ปะปนอยู่รอบ ๆ ตัวเด็ก
- ทารกที่มีสายสะดือยาวจะมีความเสี่ยงในการเกิดสายสะดือพันคอทารกได้มากกว่าทารกที่มีสายสะดือสั้น
- ทารกตัวใหญ่หรืออ้วนมักมีสายสะดืออ้วนตามไปด้วย ส่วนทารกที่ตัวค่อนข้างเล็ก สายสะดือก็จะเล็กตาม ทารกที่มีสายสะดืออ้วนมักไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องสายสะดือพันคอ แต่ทารกที่มีสายสะดือเล็กจะมีโอกาสที่สายสะดือพันคอได้มากกว่า
สายสะดือพันคอทารกอันตรายอย่างไร
สายสะดือพันคอทารก (Nuchal cord) เป็นเหตุให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์บ่อยที่สุดเมื่อตั้งครรภ์ได้ประมาณ 20-32 สัปดาห์ ที่พบได้บ่อยในช่วงนี้เพราะเป็นช่วงที่ทารกในครรภ์ดิ้นมากที่สุด โดยทารกจะดิ้นมากถึง 264 ครั้งต่อวัน ตัวของทารกจะลอยไปมาพลิกไปได้ทุกทิศทางและมีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงครรภ์อ่อน ขนาดตัวทารกยังไม่ใหญ่มากนัก เมื่อทารกยิ่งดิ้นพลิกตัวไปมาจะทำให้สายสะดือไปพันกับคอทารกได้ การที่สายสะดือพันคอทารกไม่ได้ทำให้ทารกเสียชีวิตทุกคนเพราะบางทีสายสะดือก็พันแค่หลวม ๆ พอพลิกไปมาก็หลุดแแห แต่ถ้าพลิกไปมาแล้วสายสะดือพันคอทารกแน่นเกินไป จะทำให้สายสะดือเกิดการกดทับจนไม่สามารถส่งไปเลี้ยงตัวทารกและจะทำให้ทารกเสียชีวิตได้
การที่สายสะดือพันคอทารกในครรภ์นั้นจัดว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ส่วนใหญ่ไม่อาจทราบได้ตั้งแต่ก่อนคลอด ถ้าเกิดเหตุการณ์สายสะดือพันคอทารกคุณแม่มักจะไม่รู้ตัว มารู้ตัวอีกทีก็ตอนที่ลูกดิ้นน้อยลงหรือหยุดดิ้น ในกรณีที่สายสะดือพันคอจนทารกเสียชีวิตก็เป็นเรื่องที่คาดเดาไม่ได้เช่นกัน หาทางป้องกันล่วงหน้าก็ไม่ได้ เช่น ถ้าอัลตร้าซาวด์ดูวันนี้ไม่ทัน พรุ่งนี้รกก็อาจจะพันคอจนทำให้ทารกเสียชีวิต แต่แพทย์อาจคาดเดาได้จากการตรวจพบความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์ ทางคุณพ่อคุณแม่จึงต้องสังเกตการดิ้นของทารกในครรภ์ด้วยอีกทางหนึ่ง
ตรวจพบแล้วทำอย่างไร ?
- การที่สายสะดือพันคอทารกในครรภ์มักไม่ก่อให้เกิดปัญหาอะไร แต่เมื่อถึงช่วงใกล้คลอดหรือเจ็บครรภ์คลอด มดลูกจะพยายามบีบตัวดันให้ทารกเคลื่อนลงต่ำสู่ช่องคลอดให้เร็วขึ้น
- อาจเกิดภาวะพร่องออกซิเจนในทารกรายที่สายสะดือพันคอทารกจนแน่น ทำให้หลอดเลือดที่ในสายสะดือถูกกดทับ เลือดจึงไม่สามารถไหลผ่านได้อย่างสะดวก ทำให้ทารกได้รับออกซิเจนน้อยลงกว่าเดิม
- แพทย์สามารถคาดเดาได้จากการตรวจพบความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจทารกในครรภ์เมื่อพบว่ามีสายสะดือพันคอแล้ว จึงไม่จำเป็นที่จะต้องผ่าคลอดทันทีเสมอไป แพทย์จะผ่าคลอดในกรณีที่สายสะดือพันคอแล้วดึงรั้งแน่น จนทำให้เลือดไม่ไปเลี้ยงสมองและส่งผลทำให้เด็กขาดออกซิเจน
- การวินิจฉัยสายสะดือพันคอทำได้โดยการตรวจอัลตราซาวนด์ หากพบว่ามีสายสะดือพันคอ อาจต้องไปตรวจครรภ์ถี่ขึ้น และสังเกตการดิ้นของทารกอยู่เสมอ
- คุณพ่อคุณแม่ต้องหมั่นสังเกตอาการผิดปกติของลูกน้อยในครรภ์อยู่เสมอ หากพบว่าลูกดิ้นน้อยลงให้รีบไปพบแพทย์
เมื่อคุณแม่รู้อย่างนี้แล้ว ก็ควรรีบไปฝากครรภ์ตั้งแต่รู้ว่าท้องเลยนะคะ เพื่อให้แพทย์ตรวจและให้คำแนะนำต่าง ๆ ในการดูแลสุขภาพอย่างถูกต้อง รวมถึงคำแนะนำในการตรวจเช็คความปลอดภัยของทารก เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องสำคัญที่ไม่ควรมองข้ามค่ะ
อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th
มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th