Site icon Motherhood.co.th Blog

สุนัขดมหาโควิด-19 เริ่มแล้วที่สนามบินฟินแลนด์

สุนัขดมหาโควิด-19 ที่ฟินแลนด์

ฟินแลนด์เริ่มนำสุนัขมาใช้ดมกลิ่นหาผู้ติดเชื้อ Covid-19 ที่สนามบินแล้ว

สุนัขดมหาโควิด-19 เริ่มแล้วที่สนามบินฟินแลนด์

ณ เวลานี้โรคไวรัสโควิด-19 ยังคงไม่จางหายไปไหน หลายประเทศได้มีการใช้ “สุนัขดมหาโควิด-19” กันอย่างจริงจัง อย่างเช่นที่ประเทศอังกฤษที่มีการฝึกสุนัขเพื่อทำหน้าที่นี้ตามที่ Motherhood ได้เคยอัพเดทข่าวให้ทราบกันไปก่อนหน้านี้แล้ว ล่าสุดที่ประเทศฟินแลนด์ก็ได้เริ่มใช้เจ้าสี่ขาผู้น่ารักมาทำหน้าที่ดมกลิ่นเพื่อหาเชื้อโควิด-19 ในสนามบินนานาชาติเฮลซิงกิด้วยเช่นกัน

โฉมหน้าของเจ้าหน้าที่สุนัขทั้ง 4 ตัว ในสนามบินเฮลซิงกิ

เมื่อวันพุธ (23 ก.ย.) สนามบินเฮลซิงกิ ประเทศฟินแลนด์ ได้มีการใช้สุนัขดมกลิ่นเพื่อหาเชื้อโควิด-19 เป็นครั้งแรก ซึ่งเป็นการดมจากตัวอย่างที่เก็บมาจากผิวหนังของผู้โดยสาร เบื้องต้นมีรายงานว่าแม่นยำเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว ปฏิบัติการนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการนำร่องที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐ โดยมีเจ้าหน้าที่สุนัขทำงาน 2 กะ ๆ ละ 2 ตัว รวมเป็น 4 ตัว ได้แก่ อีที คอสซี มีนา และ วาโล

อันนา ไฮล์ม-บยอร์กมัน ผู้ดูแลการทดลอง จาก University of Helsinki กล่าวว่า สุนัขทั้ง 4 ตัวสามารถตรวจหาเชื้อโควิด-19 จากตัวอย่างเหงื่อที่เก็บจากผู้โดยสารได้ภายใน 10 วินาที และกระบวนการทั้งหมดใช้เวลาไม่เกิน 1 นาที

สำหรับขั้นตอนการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยให้สุนัขดมกลิ่นนั้น หลังจากผู้โดยสารระหว่างประเทศที่เดินทางมาถึงกรุงเฮลซิงกิรับกระเป๋าแล้ว เจ้าหน้าที่จะเช็ดผิวหนังของผู้โดยสารเหล่านั้นเพื่อเก็บตัวอย่าง จากนั้นจะนำเอาตัวอย่างที่เก็บมาเข้าไปในคูหาที่แยกออกมาต่างหาก ซึ่งภายในคูหาจะมีบีกเกอร์หลายอันตั้งอยู่ โดยมีเพียง 1 อันเท่านั้นที่เจ้าหน้าที่จะนำตัวอย่างไปใส่ไว้ ส่วนที่เหลือเป็นบีกเกอร์หลอกที่ใส่กลิ่นอื่น จากนั้นเจ้าหน้าที่จะให้สุนัขเริ่มดมกลิ่น

หากมีการตรวจพบไวรัสโควิด-19 สุนัขจะเห่า เขี่ย หรือนอนราบลงไป เพื่อแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบ จากนั้นเจ้าหน้าที่จะแนะนำให้ผู้โดยสารทำการทดสอบด้วยวิธี PCR ซ้ำอีกครั้งเพื่อยืนยันผล ในการทดสอบเบื้องต้น สุนัขเหล่านี้ประสบความสำเร็จในการระบุผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19ได้อย่างแม่นยำเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แม้ผู้ป่วยบางรายจะยังไม่แสดงอาการ โดยหลังจากนี้จะทดลองให้สุนัขดมกลิ่นทำงานเป็นเวลา 4 เดือนเพื่อศึกษาประสิทธิภาพของการทดสอบต่อไป

ไฮล์ม-บยอร์กมัน เสริมว่า “จากการทดสอบเบื้องต้นมีแนวโน้มที่ดีมาก ซึ่งหากได้ผลดี เราอาจนำเอาวิธีการตรวจคัดกรองนี้ไปใช้ในสถานที่อื่น ๆ ได้ เช่น โรงพยาบาล สถานดูแลเด็ก และศูนย์กีฬาหรือศูนย์วัฒนธรรมต่าง ๆ”

เจ้าหน้าที่ทางการเมืองแวนตา ซึ่งเป็นเมืองที่ตั้งสนามบินนานาชาติเฮลซิงกิ กล่าวว่า โครงการนำร่องนี้มีต้นทุนอยู่ที่ 300,000 ยูโร (ราว 1.1 ล้านบาท) ซึ่งนับว่ามีราคาถูกกว่าวิธีการทดสอบในห้องปฏิบัติการเป็นอย่างมาก ทางด้านนักวิจัยชาวฟินแลนด์ก็มีความหวังว่า มันจะเป็นวิธีการตรวจหาโควิด-19 ทางเลือกที่มีราคาถูก รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพ

เจ้าหน้าที่สุนัขดมตัวอย่างที่เก็บจากผิวผู้โดยสารในสนามบิน

แต่ทางด้านนักวิทยาศาสตร์ยังไม่แน่ใจว่า สุนัขดมกลิ่นเจออะไรเมื่อตรวจพบไวรัส โดยผลการศึกษาของฝรั่งเศสที่ตีพิมพ์ในเดือนมิถุนายนสรุปได้ว่า มีหลักฐานชัดเจนที่บ่งชี้ว่า กลิ่นเหงื่อของคนที่มีเชื้อโควิด-19 นั้นแตกต่างไปจากกลิ่นเหงื่อของคนที่ไม่มีเชื้อไวรัส และสุนัขสามารถจำแนกความแตกต่างนั้นได้ดี

ล่าสุด Wise Nose ซึ่งเป็นองค์กรของฟินแลนด์ที่เชี่ยวชาญด้านการฝึกสัตว์ในการตรวจจับกลิ่น กำลังฝึกสุนัขเพิ่มอีกเป็นจำนวน 16 ตัวสำหรับโครงการนี้ โดยมี สุนัขทั้งหมด 10 ตัว ที่คาดว่าจะสามารถทำงานที่สนามบินได้ในเร็ววันนี้

 

อ่านบทความสำหรับแม่และเด็กอื่นๆที่น่าสนใจได้ที่นี่ >> story.motherhood.co.th

มองหาสินค้าสำหรับแม่และเด็กในราคาสุดพิเศษได้เลยที่ >> Motherhood.co.th