Site icon Motherhood.co.th Blog

7 สิ่งที่พ่อแม่ต้องคำนึง เมื่อมี “เด็กเล็กโดยสารมาบนรถยนต์”

มีเด็กเล็กโดยสารมาบนรถยนต์

นี่คือ 7 ข้อที่คุณต้องระลึกไว้เสมอหากนำลูกเดินทางด้วยรถยนต์ไปกับคุณ

7 สิ่งที่พ่อแม่ต้องคำนึง เมื่อมี “เด็กเล็กโดยสารมาบนรถยนต์”

หากคุณมีเหตุจำเป็นที่จะต้องนำเด็กเล็กโดยสารติดรถยนต์ไปกับคุณ ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางพาครอบครัวไปท่องเที่ยว หรือไปทำธุระต่าง ๆ สิ่งแรกที่ผู้ปกครองต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่งก็คือความปลอดภัย เพราะเด็กเล็กอาจรบกวนสมาธิของคุณทำให้ประสิทธิภาพการขับขี่ลดลง จนอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันตามมาได้ ซึ่งก่อนเดินทางผู้ปกครองควรเตรียมตัวดังต่อไปนี้ เพื่อให้ดูแลเด็กในรถยนต์ได้ดียิ่งขึ้นจนเดินทางถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัยนั่นเอง

 

1. ควรมีผู้ใหญ่อีกคนคอยทำหน้าที่ดูแลเด็ก

เป็นเรื่องเสี่ยงมากหากคุณขับรถเดินทางไปกับเด็กเล็กเพียงสองคน เพราะธรรมชาติของเด็กมักมีความซนและงอแงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เช่น การกดปุ่มเปิดกระจกรถยนต์ การแสดงพฤติกรรมเรียกร้องความสนใจ หรือส่งเสียงรบกวน ซึ่งทำให้ผู้ขับขี่ขาดสมาธิในการขับรถและอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุตามมาได้ ด้วยเหตุนี้คุณควรจะมีผู้ใหญ่อีกหนึ่งคนที่คอยทำหน้าที่ดูแลเด็กเล็กให้อยู่ในความสงบ และคอยแก้ไขปัญหาเวลาเด็กงอแง เพื่อให้ผู้ขับขี่มีสมาธิกับพวงมาลัยนั่นเอง

 

2. หมั่นหากิจกรรมให้เด็กทำบนรถ

กรณีที่เด็กเล็กนั่งนิ่ง ๆ บนรถนับเป็นเรื่องที่ผู้ปกครองคาดหวังอยากให้เกิดขึ้นเพราะจะได้มีสมาธิในการขับขี่เต็มที่ แต่ในความเป็นจริงแล้วด้วยวัยของเด็กมักจะสมาธิสั้น จึงไม่ค่อยนั่งนิ่ง ๆ อยู่กับที่ ดังนั้นการหากิจกรรมให้เด็กทำบนรถ เช่น วาดภาพระบายสี เปิดคลิป VDO การเรียนรู้ให้เด็กดู หรือดูสมุดภาพ ก็จะช่วยให้เด็กอยู่นิ่ง ๆ ได้บ้าง หากเด็กใช้พลังงานไปกับการทำกิจกรรมจนเหนื่อยเมื่อไหร่ก็ยังมีโอกาสที่เด็กจะนอนหลับได้ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ผู้ปกครองจะได้พักและเต็มที่กับการขับขี่ต่อไป

 

3. จัดคาร์ซีทให้เด็กนั่ง

คาร์ซีทนับเป็นอุปกรณ์ติดตั้งบนเบาะให้เด็กได้นั่งอย่างปลอดภัย เพราะมีอุปกรณ์ล็อคและรับแรงกระแทกหากเกิดอุบัติเหตุ หากลูกน้อยของคุณอายุไม่ถึง 4 ปี พ่อแม่ควรฝึกให้เด็กนั่งคาร์ซีท โดยเลือกคาร์ซีทให้ถูกต้องตามขนาดตัวของเด็ก นอกจากนี้คาร์ซีทยังช่วยให้เด็กนั่งอยู่กับที่ไม่ซนปีนป่ายเบาะรถยนต์ด้วย

 

4. อย่าทิ้งเด็กให้อยู่บนรถคนเดียว

หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องหยุดรถระยะสั้นเพื่อทำธุระต่าง ๆ อย่าปล่อยเด็กไว้บนรถยนต์เพียงลำพัง เพราะเด็กอาจซนจนไปกดระบบล็อกประตูได้ หรือบางทีเด็กอาจอึดอัดจากการขาดอากาศหายใจบนรถจนเสียชีวิต ดังนั้นหากออกจากรถเมื่อไหร่ให้นำเด็กลงไปพร้อมคุณด้วย นอกจากนี้หากเดินทางถึงที่หมายแล้วก็อย่าลืมตรวจสอบความเรียบร้อยต่าง ๆ และห้ามลืมนำเด็กออกจากรถเด็ดขาด

 

5. เตรียมอุปกรณ์ดูแลเด็กให้พร้อมเมื่อเดินทางไกล

หากมีการเดินทางไกล ให้เตรียมอุปกรณ์ดูแลเด็กไว้ให้พร้อม เพื่อช่วยให้การดูแลเด็กเล็กบนรถง่ายขึ้น เช่น ของเล่น ยา นม กระดาษชำระ ผ้าอ้อม ฯลฯ นอกจากนี้หากต้องเดินทางไกลหลายชั่วโมง ให้แวะพักตามข้างทางสักประมาณ 20-30 นาที ซึ่งจะช่วยให้เด็กได้ผ่อนคลายขณะเดินทางด้วย

 

6. ขับรถอย่างระมัดระวัง

ความปลอดภัยขณะขับขี่นับเป็นเรื่องที่ต้องคำนึงมากที่สุด ผู้ขับจะต้องขับอย่างระมัดระวังเป็นพิเศษ อย่าใช้ความเร็วมากจนเกินไป ใจเย็นใช้สติในการขับให้ดี รักษากฎจราจรอย่างเคร่งครัด และต้องอย่าลืมว่าความปลอดภัยของเด็กและครอบครัวจะต้องมาก่อนเสมอ

 

7. ประกันรถยนต์ต้องพร้อม

แม้ว่าจะเตรียมการณ์มาดีแค่ไหนแต่อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้เสมอ ก่อนเดินทางต้องหมั่นตรวจสอบว่าประกันรถยนต์ภาคสมัครใจและ พ.ร.บ. รถยนต์หมดอายุหรือไม่ เพื่อให้คุณ ลูกน้อย และคนอื่น ๆ ในครอบครัวมีความคุ้มครองขณะเดินทาง และมีค่ารักษาพยาบาลหากเกิดเหตุไม่คาดฝันนั่นเอง

 

และนี่คือการเตรียมความพร้อมหากต้องนำเด็กเล็กโดยสารมาบนรถยนต์ เชื่อว่าหัวอกคนเป็นพ่อแม่ย่อมห่วงใยลูกมากกว่าสิ่งอื่นใด อย่าละเลยหรือประมาทจนเกินไป เพราะหากเกิดเหตุเมื่อไหร่คนที่เสียใจที่สุดย่อมเป็นคุณอย่างแน่นอน